ท่านสามารถนำความรู้ต่างๆ หรือประสบการณ์มาแชร์ได้ที่นี่ครับ หัวข้อ "การตั้งโจทย์หัวข้องานวิจัยเพื่อพัฒนาชุมชน"
ลักษณะสำคัญของโครงการวิจัยเพื่อท้องถิ่น 1) เป็นโจทย์ที่ชุมชนหรือคนในท้องถิ่นเห็นว่ามีความสำคัญ และอยากจะค้นหาคำตอบร่วมกัน 2) ชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการค้นหาคำตอบร่วมกัน 3) มีการปฏิบัติการเพื่อแก้ปัญหา หรือเสนอทางเลือกให้กับท้องถิ่น 4) เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และเป้าหมายขององค์กร
ที่มาจาก http://vijai.trf.or.th/history.asp สกว.ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น
การตั้งหัวข้อ หรือโจทย์ของการวิจัยสำหรับพัฒนาชุมชน ควรจะต้องมีดังนี้ครับ
1. การเข้าไปที่ชุมชน หรือหมู่บ้านนั้น เพื่อศึกษาเกี่ยวกับความเป็นอยู่ วิถีชีวิต การเพาะปลูก หรือ ภูมิปัญญาชาวบ้าน แล้วจึงนำมาวิเคราะห์หาหัวข้อวิจัยต่อไป
2. การเข้าเว็บไซท์ที่เกี่ยวกับ "ของดีเมืองไทย" เช่น เว็บไซท์ OTOP ของดีเมืองไทย ไทยซ่า.com เ็ว็บไซท์ทัวร์เมืองไทย เว็บไซท์สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น
3. จากการสัมภาษณ์นักศึกษา ผู้ปกครอง หรืออาจารย์ ที่อยู่ในชุมชนนั้น ข้อดีคือ จะช่วยทำให้งานเราง่ายขึ้น เพราะบุคคลเหล่านี้จะมีความสนิทคุ้นเคยกับชุมชน หรือผู้นำชุมชน เช่น ผู้ปกครองลูกศิษย์ของผม มีโรงงานทำกระดาษสา อยากจะให้ทำเรื่องกระดาษสาทนไฟ ดังนั้นเราก็จะมีหัวข้อที่ตรงจุดตรงประเด็นมากกว่า นักวิจัยคิดเอง เป็นต้น
4. ศึกษาจากเอกสารของนโยบายการสนับสนุนการให้ทุนวิจัยเพื่อพัฒนาชุมชน ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย (สกว.)
http://www.thaiwest.su.ac.th/files/policy.ppt
11. บางคนก็บอกว่าโจทย์ต่างๆ หาได้ง่ายๆ จากงานนิทรรศการต่างๆ เช่น นิทรรศการวันนักประดิษฐ์ นิทรรศการ OTOP แห่งชาติ นิทรรศการ BIFF&BILL (ปกติที่ไบเทคบางนา) นิทรรศการ BIG & BIH (ปกติที่ไบเทคบางนา) นิทรศการสุดยอดสินค้า OTOP หรือ ซุ้มจำหน่ายสินค้า OTOP ของห้างเซ็นทรัล ห้างเดอะมอลล์ ห้างเทสโก้โลตัส ที่ร่วมรายการ เป็นต้น
(หมายเหตุ วันนักประดิษฐ์ ช่วง 2-5 กุมภาพันธ์ของทุกปี สถานที่ต้องดูประกาศอีกครั้ง งาน BIFF & BILL จัดช่วงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี ณ ศูนย์แสดงสินค้า เมืองทองธานี งาน BIG & BIH 2013 22-23 เมษายน 2556 ณ ไบเทคบางนา เป็นต้น)
2. ศึกษาหาข้อมูลเชิงลึุกจากประเด็นที่เป็นปัญหาของสังคม หรือ Hot Issue ของสังคม เช่น ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ปัญหาการฆ่าช้างเพื่อนำงาไปแกะสลัก ปัญหาไส้กรอกมีซากลูกแมวเจือปน ปัญหาไฟไหม้ศูนย์อพยพฯ ปัญหาแพทย์ มข.ห่วงขาดสารไอโอดีนทำเด็กไทยไอคิวต่ำ ปัญหาโลกร้อน ปัญหาขาดกระแสไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาภัยแล้ง เป็นต้น
13. ศึกษานโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2555-2559) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับการวิจัยเพื่อพัฒนาชุมชน และตอบโจทย์กับยุทธศาสตร์ของชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
14. ศึกษาข้อมูลจากเว็บไซท์ เช่น ต่อยอดดอทคอม เฟซบุ้คต่อยอด มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน จำนวน 1,401 มาตรฐาน มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. เฉพาะที่เป็นกฎหมายบังคับ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นต้น
15. ศึกษาข้อมูลสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ สามารถหาข้อมูลจากต่างประเทศได้ด้วยนะครับ ถ้าต้องการภาษาไทยรบกวนพิมพ์ภาษาไทยจะแสดงภาษาไทยออกมาครับ ส่วนต้องการภาษาอังกฤษก็พิมพ์ Keyword แล้วเลือกประเทศไหนก็ได้นะครับ (ญี่ปุ่น ไทย อเมริกา ยุโรป จีน ออสเตรเลีย เยอรมนี)
16. ศึกษาข้อมูลจาก กรอบงานวิจัย จำนวน 7 ฉบับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
17. ศึกษาข้อมูลจาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
ROAD MAP
18. จากการเข้าร่วมสัมมนา-เยี่ยมชมกับนักวิชาการ ชุมชน หรือนักวิจัยอื่นๆ ในวงเสวนา การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การฝึกอบรมเชิงทฤษฎี การขอเข้าเยี่ยมชมหน่วยงาน องค์กรเอกชน หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
ดีค่ะ สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการหาหัวข้อในการทำวิจัย
เป็นแนวทางที่ดีในการนำไปใช้ค่ะ
ควรบริการชุมชน บริเวณใกล้เคียงมหาวิทยาลัยก่อน ... หากชุมชนใดสนใจติดต่อมายังคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนะคะ
แนวความคิดนี้ได้นำไปใช้ในบริการวิชาการของภาคเคมีและศูนย์เครื่องมือ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบ้างแล้วค่ะ
เทคนิคนี้ได้นำไปทดลองใช้ในการตั้งโจทย์วิจัยเพื่อการพัฒนาชุมชนโคกขาม จังหวัดสมุทรสาครตามปรัชญญาเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ให้ผลสัมฤทธิ์การดำเนินการในทางที่ดีมาก ตรงกับความต้องการของชุมชน และพัฒนางานวิจัยต่อยอดอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพาณิชย์ และพัมนาการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาตรีและโท