มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ดิฉันได้ร่วมอบรมหลักสูตรการบำบัดผู้ป่วยซึมเศร้าโดยการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy : CBT) หลักสูตร Advanced ระยะที่ 1 จัดที่โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งดิฉันปฏิบัติงานอยู่ ผศ.นพ.ณัทธร พิทยรัตน์เสถียร และ รศ.ดร.ดาราวรรณ ต๊ะปินดา มาเป็นวิทยากรให้ การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างเข้มข้นตลอด 2 วัน ทั้งฝึกบำบัด ฝึกวิเคราะห์วิพากษ์เทคนิคต่างๆ แล้วยังมีการบ้านให้ทำอีก การบ้านพิเศษคือการนำ CBT ไปใช้กับตนเองเพื่อฝึกที่จะรับรู้อารมณ์ตนเอง ให้เกิดการตระหนักรู้ (awareness) และสามารถตั้งเป้าหมายได้ว่าจะจัดการกับอารมณ์อย่างไรเมื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัด ซึ่งเมื่อถึงวันนี้ดิฉันยังไม่ได้ทำการบ้านพิเศษชิ้นนี้
หลังจากเขียนบทความเรื่อง '(2) ผู้ร้ายตัวจริง' แล้ว ดิฉันคิดว่าน่าจะนำเรื่องนี้มาวิเคราะห์กับหลักการของ CBT ได้ อีกประการหนึ่งคือดิฉันเชื่อว่าในชุมชน gotoknow นี้น่าจะมีผู้รู้ในเรื่องนี้จำนวนมาก หากกรุณาให้ข้อเสนอแนะหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน จะเป็นพระคุณยิ่ง
ดิฉันจะขอวิเคราะห์ด้วยการตอบคำถามแบบแบบฟอร์มการบ้านนะคะ (กรุณาดูบทความเรื่อง '(2) ผู้ร้ายตัวจริง' ประกอบ)
ปัญหา/สถานการณ์/เรื่องที่ทำให้รู้สึกไม่ดีระยะเวลาไม่นานมานี้ดิฉันกับสามีมีเรื่องทะเลาะกันเป็นระยะ ช่วงหลังทะเลาะกันถี่ขึ้น แม้เป็นเพียงการปะทะคารมกันไม่รุนแรง แต่ดิฉันมีความคิดว่าสามีแสดงความเกรี้ยวกราดแบบไร้เหตุผล เพียงเพื่อเอาชนะภรรยาตนเอง
ความคิดสำคัญที่ตนเองมีต่อปัญหา/สถานการณ์นั้น ดิฉันคิดว่าสามีไม่ดี กล่าวคือ ไม่มีเหตุผลในเรื่องที่โต้เถียงกันหรือหาเหตุผลมาโต้แย้งไม่ได้ แล้ว 'พาล' กลบเกลื่อนด้วยการแสดงความเกรี้ยวกราดเพื่อให้เรื่องนั้นยุติลงกลางคัน
ความคิดนี้ทำให้รู้สึกอย่างไร ดิฉันรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจและเบื่อหน่ายมาก ให้ rating ความรุนแรงในระดับ 8/10 (รุนแรง)
การตรวจสอบความคิด ในเหตุการณ์ ดิฉันตรวจสอบความคิดตนเอง 2 รอบ
รอบแรก ตรวจสอบความคิดของตนเองโดยบังเอิญ วัตถุประสงค์ที่แท้จริงนั้นดิฉันต้องการช่วยให้สามีตรวจสอบความคิดของตน ใช้วิธีการบันทึกเสียงเหตุการณ์ที่ทะเลาะกัน โดยคาดหวังว่าเมื่อสามีได้ยินเสียงตนขณะโต้เถียงกับภรรยาแล้วจะรับรู้อารมณ์ของตน แล้วนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนต่อไป แต่เหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อดิฉันเปิดฟังเสียงเทปเพื่อตรวจสอบคุณภาพของเสียงที่บันทึกไว้ แล้วพบว่าความคิดของดิฉันที่คิดว่าสามีไม่ดีนั้นไม่ถูกต้อง เพราะทันทีที่ได้ยินเสียงตนเองที่เกรี้ยวกราดคุกคามสามีแล้วตนเองก็ยอมรับไม่ได้ กล่าวโดยสรุป ดิฉันตรวจสอบความคิดของตนโดยบังเอิญแล้วพบว่าความคิดของตนที่คิดว่าสามีนั้นไม่ถูกต้อง เกิดความคิดใหม่ว่าตนนั้นไม่ดี น้ำเสียงเกรี้ยวกราดคุกคามของตนน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทะเลาะกันบ่อยขึ้น
รอบที่สอง ดิฉันเป็นผู้ตรวจสอบความคิดตนเอง วัตถุประสงค์เพื่อต้องการตรวจสอบว่าความคิดว่าตนเองไม่ดี การพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดคุกคามของตนน่าจะเป็นสาเหตุทำให้ทะเลาะกันบ่อยขึ้นนั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะดิฉันรู้สึกผิดที่ตนไม่ดีแต่กลับมีความคิดว่าสามีไม่ดี วิธีการตรวจสอบความคิดคือ ยกตัวอย่างเรื่องอื่นเพื่อเลียบเคียงถามสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ
"เสียงเค้าไม่น่าฟังเลย มันกระตุ้นมาก บางช่วงก็คาดคั้นคุกคาม" สามีตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
"ก็ประมาณนั้น"
ผลการตรวจสอบความคิดของสามีจึงสอดคล้องกับความคิดของดิฉัน ความคิดของดิฉันถูกต้องแล้ว ประโยชน์ของความคิดที่ถูกต้องนี้คือ ช่วยให้ดิฉันทราบสาเหตุของปัญหา จึงแก้ปัญหาได้ที่สาเหตุ
เปลี่ยนความคิดใหม่เป็น ดิฉันได้เปลี่่ยนความคิดใหม่เป็น สามีเป็นคนดี อดทนอดกลั้นกับความร้ายกาจของภรรยาอย่างมาก ดิฉันก็เป็นคนดีเพราะพยายามค้นหาปัญหา ยอมรับความจริงได้ว่าตนเป็นสาเหตุของปัญหา และหาทางแก้ไขปัญหานั้นเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว
ความคิดที่ได้ปรับเปลี่ยนแล้วนี้ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไป คือ ความรู้สึกหงุดหงิด เบื่อหน่าย หายไปทั้งหมดทันที ความรู้สึกอาย รู้สึกผิดที่โยนความผิดของตนให้สามีเข้ามาแทนที่ ซึ่งได้พยายามแก้ไขตนเอง ทำให้ความรู้สึกอายรู้สึกผิดนี้เปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกโล่งใจ อิ่มใจ ที่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการคิดทบทวนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ดิฉันได้เรียนรู้ว่า
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับข้อเสนอแนะ.. ดารนี
ไม่มีความเห็น