ชื่อผลงาน : การป้องกันการชักในมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ
คำสำคัญ : ภาวะครรภ์เป็นพิษ ( PIH-pregnancy induced hypertension ) คือ ภาวะความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการตั้งครรภ์ซึ่งมักร่วมกับการมีโปรตีนในปัสสาวะ หรืออการบวมร่วมด้วย
สรุปผลงานโดยย่อ: พัฒนาระบบการคัดกรองหญิงตั้งครรภ์ ระบบการส่งต่อและการดูแลการคลอดเพื่อป้องกัน และเฝ้าระวังการชักในมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ
ชื่อที่อยู่องค์กร: งานห้องคลอด โรงพยาบาลศรีสงคราม จังหวัดนครพนม
สมาชิกทีม: นางกรมรี แพงดี, นางสาวศศิธร พรหมประกาย, นางสาวสุกัญญา อนุญาหงษ์,
นางสาวกวินชิดา ศรีมี,นางศรีสุดา งาธรณกิจ,นางสาวนันจิรา ทากิระ,นางสาวทัชชกร กลางประพันธ์,
นางสาวนิภาวรรณ ศรีสุวอ,นางสาวรัชฎา ยะภักดี
เป้าหมาย : 1. ใช้ Care map ในการดูแลมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ =100 %
2. มารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ ไม่เกิดการชัก
ปัญหาและสาเหตุโดยย่อ
โรงพยาบาลศรีสงครามเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 60 เตียง มีผู้คลอดเฉลี่ย 70 ราย/เดือน จาการเก็บข้อมูลปี 2552 – ธ.ค.2555 มารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ เป็นผู้ป่วยใน จำนวน 108 คน เป็นผู้ป่วยนอก จำนวน 98 คน ในจำนวนทั้งหมดส่งต่อ รพท.นครพนม จำนวน 51 คน มีมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษและเกิดการชัก จำนวน 4 คน จากการทบทวนอุบัติการณ์และวิเคราะห์โดยทีมสหวิชาชีพ พบสาเหตุการชักของมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษในโรงพยาบาลเกิดจากการประเมินสภาพไม่ครบถ้วน ทำให้การวินิจฉัยและการรักษาล่าช้า จนมารดาเกิดภาวะชัก ปัญหาประการหนึ่งคือ บุคลากรขาดศักยภาพในการประเมินสภาพ นอกจากนี้การวางแผนการดูแลรักษาที่ไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ ได้รับการดูแลรักษาล่าช้าจนเกิดการชัก หน่วยงานและทีม PCT จึงได้มีการจัดทำ CPG ,Care map และDischarge planning ในการดูแลมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ มีการปรับปรุง CPG และจัดทำ flow chart แนวทางปฏิบัติที่สำคัญของแต่ละหน่วยงานเชื่อมโยงระหว่างคลินิคฝากครรภ์ ห้องคลอด หลังคลอดและระบบการส่งต่อ เช่น ประเมินความเสี่ยงแรกรับโดยการตรวจโปรตีนในปัสสาวะ การบริหารยา MgSO4 และการเฝ้าระวังอาการข้างเคียงจากการบริหารยา เป็นต้น งานห้องคลอดจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันการชักในมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ โดยเน้นที่การประเมินความเสี่ยงและการปฏิบัติตามCPG,Care map
กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพ
1.ทบทวนอุบัติการณ์ Eclampsia วิเคราะห์สาเหตุปี 52 ,53
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการประเมินสภาพไม่ครบถ้วน และบุคลากรขาดศักยภาพในการประเมิน จำนวน 3 ราย
2. ปรับปรุงแนวทางการดูแลการคลอด โดยการปรับปรุงการใช้ CPG และ Care map ตามระดับความเสี่ยงที่ประเมินได้ ตั้งแต่แรกรับจนสิ้นสุดการคลอด ระบบการรายงานแพทย์ และระบบส่งต่อ
3. พัฒนาบุคลากร โดยการจัดประชุมวิชาการในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น การดูแลมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ ( PIH ) พัฒนาศักยภาพบุคลากรในการประเมินมารดาคลอดที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิด Eclampsia และการดูแลมารดาระหว่างส่งต่อตาม CPG และ Care map อย่างเคร่งครัด
4.ปรับปรุงระบบงาน
·ปรับปรุงแนวทางปฏิบัติการเฝ้าระวัง ดูแลในระยะคลอดเพิ่มมาตรการในการปฏิบัติเมื่อพบความเสี่ยง กำหนดแนวทางการรายงานแพทย์
·จัดหายาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้พร้อมใช้
·ฝึกทักษะการดูแลและการทำคลอดให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นเพื่อเพิ่มเป็นอัตรากำลังเสริม
·ทบทวนระบบการส่งต่อและการดูแลระหว่างส่งต่อ
·พัฒนาคลินิก ANC ทุติยภูมิเพื่อคัดกรองครรภ์เสี่ยงและวางแผนการคลอดที่เหมาะสม
การวัดผลและผลของการเปลี่ยนแปลง
-ระยะเวลาในการวินิจฉัยภาวะ PIH ( pregnancy - induced hypertension ) เร็วขึ้น สามารถให้การดูแลหรือส่งต่อในระยะเวลาที่เหมาะสม
-มีอัตราการ Refer มารดาที่มีความเสี่ยงต่อภาวะ Eclampsia สูงขึ้น ปี 2554-2555 ไม่พบภาวะ
Eclampsia
-มีการใช้ Care map ในการดูแลมารดาที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ =100 %
บทเรียนที่ได้รับ
· จากการปรับปรุงระบบงานทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาได้ในเชิงระบบ
· การทบทวนด้วยทีมสหวิชาชีพทำให้เกิดผลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางด้านบริหาร การบริการ และด้านวิชาการ ส่งผลให้ระบบการดูแลหญิงตั้งครรภ์และการคลอดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แผนที่จะพัฒนาต่อเนื่อง คือ ลดอัตราการ Refer โดยพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการประเมินและรายงานแพทย์ได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม ดูแลการคลอดในรายที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติการณ์เพื่อให้การคลอดที่โรงพยาบาลอย่างปลอดภัย
การติดต่อกับทีมงาน : นางกรมรี แพงดี หัวหน้างานห้องคลอด โรงพยาบาลศรีสงคราม
อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม โทรศัพท์ 042 – 599230 ต่อ 101 , 081- 6628211
email. [email protected]
....ขอบคุณ ...ความรู้ดีดีนี้นะคะ ....