ในสมัยพุทธกาลได้มีนักบวชและเจ้าลัทธิทั้งหลายต่างพากันค้นหาความจริงแห่งการบรรลุธรรม ค้นหาการเกิด-การดับของชีวิตทั้งหลายและอื่น ๆ อีกที่เกี่ยวข้องชีวิต ทั้งนี้ก็เพื่อตอบคำถามที่เกิดขึ้นภายในจิตรใจของเราว่า "เราเกิดมาได้อย่างไร ตายแล้วจะไปไหน" ด้วยสาเหตุแห่งการอยากรู้ความจริงแค่การเกิดกับการตายก็ได้เกิดความเชื่อขึ้นมากมายในสมัยนั้น จนก่อกำเนิดเป็นความศัทธราและศาสนาตามขึ้นมา (ประวัติต่าง ๆ มีกล่าวไว้มากในหนังสือทางพระพุทธศาสนา) แต่เมื่อพุทธศาสนาถือกำเนิดขึ้นมาความจริงต่าง ๆ ก็ถูกเปิดเผยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนทำให้การศึกษาเรื่องชีวิตมีแนวทางถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
หลายคนสงสัยว่าแล้ว "ชีวิต" คืออะไร คำตอบง่าย ๆ ก็คือ สิ่งที่มีการเกิดและการดับถือเป็นชีวิต (อายุไข)
- ถาม: ถ้าเช่นนั้นทุกสรรพสิ่งก็ถือเป็นชีวิตใช่หรือไม่?
- ตอบ: ใช่
เพื่อให้เข้าใจภาพรวมจะขอแสดงด้วยภาพของสรรพสิ่ง (ธรรมชาติ) ทั้งหลายดังนี้
จากรูปเราสามารถแบ่งธรรมชาติ (ธรรมมะ) ออกเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ ๆ ก็คือ ๑. รูป (รูปธรรม) ๒. นาม (นามธรรม) และในปแต่ละกลุ่มยังแบ่งย่อยออกเป็น ๒ ชนิด คือฝั่งซ้าย รูปที่มีชีวิตแต่ไม่มีนาม รูปที่ไม่มีชีวิตและไม่มีนาม ฝั่งขวา นามที่มีชีวิตและไม่มีรูป นามที่ไม่มีชีวิตและไม่มีรูป ส่วนตรงกลางจะเป็นจุดที่รูปและนามมารวมตัวกันพอดีจึงก่อเกิดชีวิตที่มีทั้งรูปและนามอยู่ตรงกลาง ดังแผนภาพที่แสดง
รายละเอียดในแต่ละกรอบจะอธิบายในบันทึกครั้งต่อไปนะครับขอบคุณครับ
..."ชีวิต" คืออะไร คำตอบง่าย ๆ ก็คือ สิ่งที่มีการเกิดและการดับถือเป็นชีวิต (อายุไข)...
So, in this view Life is a duration of interactions (or connection).
Life is assumed (in computer science thinking) to have a clearly defined 'body'; an 'ability to response to external change'; and an ability to 'reproduce' (propagate). And a somewhat questionable ability to grow up, grow old and die. In this way 'life' is an entity (not duration of time) with certain abilities, living (and dying) in a duration of time.
ขอบคุณสำหรับความเห็นของท่าน sr นะครับ ความเห็นของท่านเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่อาจจะมองคนละมุมกัน ในทางวิทยาศาสตร์ได้ยอมรับแล้วว่าทุกสิ่งประกอบด้วยอะตอมและแต่ละอะตอมนั้นก็ไม่ได้หยุดนิ่งแม้แต่เสี้ยววินาทีมันมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้นั้นเป็นเพียงส่วนทางด้านซ้ายมือเท่านั้น (รูปธรรม) เราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลา เพราะว่าจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดจะไม่มีความหมายอะไรเลยถ้าไม่มีเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น หากเราจะถามว่าใครเกิดก่อนหรือหลังก็ย่อมบอกได้ด้วยเวลาทั้งนั้น ส่วนที่ท่านบอกว่า "life" is an entity นั้น อันนี้ผมก็เห็นด้วยแต่อย่างไรก็ตามต้องมีช่วงเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย (ผมเองไม่ค่อยเก่งภาษาเท่าไหร่นักอาจจะไม่เข้าใจลึกซึ้งในคำพูดของท่าน sr ต้องขออภัยด้วยนะครับ) และชีวิตไม่จำเป็นต้องมี body นะครับเพราะธรรมชาติมี 2 ส่วน คือ รูปกับนาม รูปก็มีชีวิต นามก็มีชีวิต เช่นเดียวกัน ส่วนความสามารถในการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งเร้าต่่าง ๆ นั้น ทุกสรรพสิ่งมีธรรมชาติในการตอบสนองอยู่แล้วเพียงแต่ตอบสนองในลักษณะที่แตกต่างกันเท่านั้น (หมายถึงว่าสิ่งเร้าสิ่งเดียวกันสามารถกระตุ้นรูปได้แต่ไม่สามารถกระตุ้นนามได้แต่ทั้งรูปและนามสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้)
ไม่รู้ว่าจะตอบได้ตรงประเด็นหรือไม่เพราะไม่ค่อยเก่งภาษาแต่ก็ขอบคุณท่าน sr มากเลยนะครับที่เข้ามาให้ความคิดเห็น ในบทความต่อไปจะอธิบายเรื่องชีวิตให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ขอบคุณครับ