การสื่อสารกับสหวิชาชีพด้วย SBAR เทคนิค การปรับปรุงการสื่อสารระหว่างสหวิชาชีพ โดยใช้ SBAR เทคนิค
SBAR เทคนิคประกอบด้วย |
|
1. เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที ปลอดภัยจากภาวะวิกฤติ 2. เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลได้อย่างถูกต้อง /รวดเร็ว |
|
|
|
วิธีปฏิบัติ |
|
1. รายงานแพทย์เวรทันทีที่ประเมินผู้ป่วยแล้วพบความผิดปกติ
ซึ่งจะต้องได้รับการดูแลรักษาด้วยยาหรือหัตถการทางการแพทย์
ทั้งนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีคำสั่งการรักษาจากแพทย์
2. รายงานแพทย์เวรในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะวิกฤต /กึ่งวิกฤตตาม รูปแบบ SBAR |
|
วิธีการรายงาน :
S |
Situation (อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยในขณะนั้น) ö ชื่อผู้รายงาน………………………………............ ö หน่วยงาน /หอผู้ป่วย................................... ö รายงาน ณ วันที่......./......./......... เวลา................น. öRoom /Bed No……………..……………. ö อาการ /อาการแสดงผิดปกติที่พบ.................................................................................................................. öLabs สำคัญอื่นๆ............................................................................................................................................ |
B |
Background (อธิบายข้อมูลทางคลินิกตามที่เกิดขึ้น) ö อาการสำคัญของผู้ป่วยที่พบขณะนี้………………………………......................Desease…………………………………………………………………..… ö ระดับความรู้สึกตัว............................................................................................................. ö สภาพผิวหนัง.............................................................................................................................. ö การรักษาที่ได้รับอยู่....................................................................................................................................... ö การให้ O2....................................................................................................................................................... |
A |
Assessment (อธิบายปัญหาหรือประเด็นสิ่งที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้น) ö พบว่าผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง /ผิดปกติทางระบบ.……………................................................................ |
R |
Recommendation (พยาบาลเสนอแนะวิธีการจัดการกับปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่) ö ข้อเสนอแนะ เช่น ปรับแผนการรักษา................................(บอกเหตุผลที่ให้การรักษาพยาบาลที่สำคัญเร่งด่วนไปก่อน) การส่งตรวจวินิจฉัย Labs ,X-Rays ,CT ที่จำเป็น ระบุ........................................................ |
3. รายงานแพทย์เมื่อผู้ป่วยมีความผิดปกติของสัญญาณชีพ ดังนี้ :-
ตารางแสดงค่าความดันปกติ (ตามช่วงอายุ)
อายุ |
Systolic (mmHg) |
Diastolic (mmHg) |
0 - 1 เดือน |
> 60 |
> 50 |
1 - 12 เดือน |
70 - 95 |
50 - 60 |
1 - 8 ปี |
80 - 110 |
60 - 75 |
10 ปี - ผู้ใหญ่ |
90 - 140 |
60 - 90 |
ตารางแสดงความผิดปกติของชีพจร (ตามช่วงอายุ)
อายุ |
อัตราการเต้น (ครั้ง/นาที) |
แรกเกิด - 1 เดือน |
120 - 160 |
1 - 12 เดือน |
100 - 120 |
1 - 8 ปี |
80 - 100 |
9 ปี - ผู้ใหญ่ |
60 - 100 |
ตารางแสดงความผิดปกติของอัตราการหายใจ (ตามช่วงอายุ)
อายุ |
อัตราการหายใจ (ครั้ง/นาที) |
แรกเกิด - 1 เดือน |
40 - 60 |
1 - 12 เดือน |
25 - 50 |
1 - 8 ปี |
15 - 30 |
9 ปี - ผู้ใหญ่ |
12 - 20 |
4. รายงานแพทย์เวรทันทีที่ได้รับรายงานค่า Labs วิกฤต
5. รายงานแพทย์เวรทันทีที่มีความผิดปกติ ตามเกณฑ์การรายงานแพทย์ โดยใช้ตัวส่งสัญญาณอันตราย ดังนี้ :
Labs |
V/S |
Assessment |
- Glucose <๕๐ mg/dlor >๔๐๐ mg/dl - Serum Creatinine >๑.๕ mg/dl - Hct. มีการเปลี่ยนแปลง >๕% - Platelets <๑๐๐,๐๐๐ /uL - K+ <๓.๐ mmol/L or >๕.๐mmol/L - Na+ <๑๒๕ mmol/L or >๑๕๕ mmol/L - TCO2 <๑๕ mmol/L - MB >๑๓ mg/dl |
- Acute Change (๑) HR <๔๐ or >๑๒๐ bpm (๒) Systolic BP <๙๐ และ >๑๖๐ mmHg (๓) RR <๑๒ or >๓๐ bpm (ในผู้ใหญ่) (๔) O2 Sat. <๙๒% (๕) Conscious Change (๖) Coma Score <๑๓ คะแนน (๗) BT >๓๘.๕ 0C |
- Urine Output <๓๐ ml/hr - Chest Pain - กระสับกระส่าย - Arrest - Patient Fall - Cyanosis - ชักขณะอยู่ในโรงพยาบาล |
๖. ประสานงานทันทีเมื่อเกิดปัญหาที่ต้องได้รับการดูแลโดยทีมสหวิชาชีพและรายงานแพทย์เวรรับทราบ
ตามมาอ่านครับ
อ่านเพื่อประเมินครับผม