เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖



๑๗  กุมภาพันธ์   ๒๕๕๖

เรียน  เพื่อนครู  ผู้บริหารและผู้อ่านทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๑๑  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๖  วันนี้ขับรถออกจากที่พักแต่เช้า เพื่อไปประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ที่โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิต  รถติดพอสมควร ซ้ำต้องไปกลับรถเกือบถึงดอนเมืองกว่าจะวกกลับมาได้  อย่างไรก็ตามสามารถรายงานตัวเข้าประชุมตามกำหนดเวลา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเสริมศักดิ์  พงษ์พานิช เป็นประธานการประชุมและบรรยายพิเศษ แทนรัฐมนตรีว่าการฯ ซึ่งติดราชการต่างประเทศ จากนั้นเลขาธิการ กพฐ. ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน ขึ้นบรรยายต่อจนเที่ยง เนื้อหาเป็นการปฐกถาทางวิชาการ  อาศัยที่ท่านเป็นนักเรียนนอก จึงสามารถอ่านภาษาอังกฤษรู้เรื่อง เรียกว่ามีทักษะทั้งฟัง พูด อ่านและเขียน จึงมีองค์ความรู้ใหม่ ๆ จากตะวันตกมาเล่าสู่กันฟังได้มาก บ่ายประธานลงมานั้งหัวโต๊ะสัมมนาข้างล่าง นำเสวนาเรื่องการทำงานในประเด็นต่าง ๆ ให้ ผอ.สพป./ผอ.สพม. ช่วยกันออกความเห็น  ได้แต่ฟังเขาพูดกัน ไม่ได้ร่วมอภิปรายด้วย  แต่ก็คิดตามไป เรื่องที่เป็นเดือดเป็นร้อน คือ การสอบ O-NET ของ สทศ. และการประเมินภายนอกของ สมศ. ทั้งส่วนกลางและส่วนเขตต่างวิพากษ์วิจารณ์การจัดการเรียนการสอนของครูเป็นยำใหญ่ หลายท่านได้แสดงความเก่งโดยยกประสบการณ์มากล่าวอ้างถึงกรรมวิธีจัดการเรียนการสอนที่ควรจะเป็นตามความเห็นของตนเอง ในสายตาของคนกลุ่มนี้มองครูเหมือนจับกังหรือคนงานก็มีผิดเพี้ยนนัก  หากมีสำนึกทางกฎหมายสักหน่อย จะสามารถระมัดระวังปากลงได้มาก เพราะปัจจุบันผู้จะเป็นครูต้องมีใบอนุญาตหรือใบประกอบวิชาชีพ เหมือนหมอ ทนายความ อัยการ ผู้พิพากษา วิศวกร คนที่จะเสนอให้ผู้มีใบประกอบวิชาชีพชั้นสูง ปฏิบัติการตามหลักวิชาชีพได้ก็คงต้องมีใบอนุญาตเช่นกัน ในสายงานวิชาชีพชั้นสูงอื่น ๆ จะมีสายงานธุรการและฝ่ายบริหารคอยอำนวยความสะดวกในการทำงานวิชาชีพนั้น ๆ เช่น กระทรวงยุติธรรม จะคอยอำนวยความสะดวกและสนับสนุนการทำงานของศาล กระทรวงสาธารณสุข จะสนับสนุนการทำงานของหมอ บุคคลเหล่านี้จะคอยหาเครื่องมือที่ทันสมัย หลักวิชาใหม่ ๆ มาให้ฝ่ายวิชาชีพชั้นสูงเลือกเฟ้นไปใช้ตามหลักวิชาของเขา การตัดสินใจในการทำงานตามวิชาชีพ เป็นดุลพินิจโดยแท้ของเขา จะไม่มีใครมาออกคำสั่งให้ต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้จนถึงห้องเรียนเหมือนวิชาชีพครู ซึ่งทำกันจนเคยชิน สั่งกันจนเคยตัว ไม่มีความเฉลียวแม้แต่น้อยว่า กำลังก้าวล่วงไปในวิชาชีพที่ตนเองไม่มีใบอนุญาต เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย  คนถูกสั่งก็กลัวจนเคยชินเขาสั่งอย่างไรก็หันรีหันขวาง ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ใครให้ทำอะไรก็ต้องยอมไปทุกเรื่อง เพราะยอมกันมาตามลำดับตั้งแต่เจ้ากรม ที่สั่งยอมแพ้ศิโรราบลงมาตามสายงาน หน่วยงานภายนอกจึงข่มเอาได้ตามอำเภอใจ จะให้เปลี่ยนผู้บริหาร เปลี่ยนครู เปลี่ยนนักเรียน ก็ต้องยอม จนนักเรียนจะตีกันตายจึงเพิ่งตื่น นี่คือความอ่อนแอของวิชาชีพครู เย็นขับรถตามล่าหาซองหนังให้กล้องถ่ายรูป เพราะดูจากเน็ตสวยดี จะสั่งทางเมลล์ก็ไม่ทันใจ กว่าจะพบที่หมายก็มืดแล้ว

วันอังคารที่ ๑๒  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๖  วันนี้เลือกเส้นทางใหม่ผ่านสะพานพระราม ๔ เข้าถนนแจ้งวัฒนะ ไปออกหลักสี่ เลี้ยวซ้ายไปหน่อยก็เจอสะพานกลับรถ ขับทางขนานจนถึงโรงแรมรามาการ์เด้น ลานจอดว่าง ไม่เหมือนเมื่อวานที่เต็มไปหมด การประชุมภาคเช้าท่านรองเลขาธิการ กพฐ. นายอนันต์  ระงับทุกข์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เปิดโอกาสให้เขตพื้นที่ที่เก่งในการบริหารงานนำเสนอผลงานของตนเอง ในการบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก ในใจลีกๆของคนส่วนใหญ่คิดว่าทำอย่างไรจึงจะยุบโรงเรียนเล็กได้ โดยรู้สึกว่าไม่คุ้มที่หลวงจ่ายไป  ตรงข้ามกับผมที่กลับเห็นว่า ห้างร้านขนาดใหญ่อย่าง โลตัส บิ๊กซี กลับทำตัวเองให้เล็กลงเพื่อไปทำมาค้าขายได้ทุกซอกทุกซอย และไม่กินระบบเหมือนห้างใหญ่ ๆ เรื่องโรงเรียนขนาดเล็กต้องตั้งหลักให้ได้ว่า การศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นบริการภาครัฐ ที่ต้องจัดให้ประชากรโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องกำไรขาดทุน รัฐที่มีศักยภาพย่อมสามารถจัดบริการได้ทั่วถึง เพราะเด็กคือทรัพย์สินของแผ่นดิน เราต้องคิดหาทางให้โรงเรียนขนาดเล็กทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากนักเรียนมีน้อยก็ต้องเพิ่มคุณภาพ หรือมีกิจกรรมการศึกษาตลอดชีวิต เรียกว่าทำงานให้คุ้มเงินเดือน แบบไร่นาสวนผสม เรื่องยุบโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อประหยัดงบประมาณอมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ ถึงอย่างไรงบประมาณที่ได้รับจัดสรรมาก็ถูกใช้ไปเพื่อการอื่นจนหมดทุกปี เพราะมันเป็นเงินหลวง ไม่ใช่บริษัทเอกชน ที่จะเก็บหอมรอมริบใส่กระปุกไว้ได้ สมควรที่พวกเราต้องมาพูดมาทำให้ครูในโรงเรียนขนาดเล็กมีกำลังใจ ฮึกเหิมที่จะทำงานให้มีคุณภาพ ให้ผู้ด้อยโอกาสอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย  ก่อนเที่ยง เลขาธิการ กพฐ. มาสรุปการสัมมนาและรับฟังปัญหา เลิกประชุมเวลา ๑๓ นาฬิกา  กลับสำนักงานเขตทำงานเอกสารจนเย็น 

                       

วันพุธที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖  เช้าเดินทางออกจากเขตประมาณ ๘.๓๐ น. เพื่อไปร่วมพิธีเปิดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ ๖๒ ที่ เมืองทองธานี มีท่านรองฯ วิรัช ฐิติรัตนมงคล และท่านรองฯ ประพฤทธิ์ บุญอำไพ เดินทางไปด้วย พร้อมทีมเลขานุการ สพฐ.ใช้อาคารชาเลนเจอร์เป็นสถานที่จัดงาน แม้อาคารจะกว้างแต่วันนี้แออัดเหมือนปลากระป๋อง ด้วยครูและนักเรียนที่มากันทั่วประเทศ บูทนิทรรศการ ผลงานตั้งเรียงราย สลับกับเวทีการแสดงเป็นจุด ๆ ส่วนเวทีกลางซึ่งเป็นที่เปิดงานจัดลึกไปข้างใน การต้อนรับของฝ่ายปฏิคมปีนี้ทำได้ยอดเยี่ยม เขาจะรับและส่งกันเป็นทอด ๆ จนถึงเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ว่า ใครตำแหน่งไหนจะต้องนั่งในโซนใด ประธานในพิธีเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเสริมศักดิ์  พงษ์พานิช มีเลขาธิการ กพฐ. ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน กล่าวรายงาน  การแสดงหน้าเวทีทำได้ดี หลังพิธีเปิดแหวกฝูงชนไปเยี่ยมร้านของโรงเรียนในสังกัด ๓ แห่ง คือ โรงเรียนวัดเทียนถวาย โรงเรียนคลองหนึ่งแก้วนิมิตร และโรงเรียนอนุบาลวัดบางนางบุญ เจอเพื่อนร่วมงานเก่า ๆ ทั้งที่ชุมพรและเพชรบุรีเข้ามาทักทาย ขอบคุณที่ยังจดจำ  จากนั้นเดินทางกลับมาแวะใปทานข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารกันเอง ริมถนนเชียงราก-บางปะอิน  ลูกค้ามากเป็นพิเศษแต่ความที่เป็นขาประจำจึงได้รับบริการที่รวดเร็ว               บ่ายเป็นประธานการประชุมพิจารณาโครงการที่ของบประมาณต่อจากครั้งที่แล้วว่าไปตามโครงการที่เสนอมา ให้เจ้าของชี้แจง ส่วนใหญ่ก็อนุมัติเพราะปรับมารอบหนึ่งแล้ว มีเพียงบางโครงการที่ต้องไปปรับอีกนิดหน่อย  เย็นคณะลูกน้องเก่าจากชุมพรที่มาร่วมงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนมาทานข้าวที่สโมสร มีน้อง ๆ ช่วยบริการ ๔-๕ คน มี ผอ.ศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๖ ผอ.กิจจา  เก่งการไถ โรงเรียนวัดดอนไทรงาม ผอ.ธรรมรงค์  เทพไพฑูรย์ โรงเรียนอนุบาลปะทิว และ ผอ.สนอง  ดาวตุ่น  โรงเรียนบ้านเขายาวราษฎร์บำรุง นั่งพูดความหลังครั้งเก่าก่อนกันจนเที่ยงคืน จึงกลับไปพักผ่อน  มีเรื่องในอดีตที่เราเคยทำสำเร็จ มาย้อนคิดในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่กลับไปทำซ้ำไม่ได้อีกแล้ว ปัจจัยแห่งความสำเร็จจึงขึ้นอยู่กับความประจวบเหมาะระหว่าง คน เวลา และสถานที่ หากคลาดเคลื่อนไปการกระทำก็ไม่บังเกิดผล  ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบท กวีไว้ว่า

''น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝัน  ฆ่าชีวาคือพร่าค่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด''

คนเราไม่ควรพร่าเวลาอันสูงค่าด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจ ให้ตกเป็นทาสของความชอบ ความชัง มากนัก เพราะถ้าเราวิ่งตามกิเลส กิเลสก็จะพาเราวิ่งทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อไปไม่รู้จบ กิเลสไม่เคยเหนื่อย แต่ใจคนเราสิจะเหนื่อยหนักหนาสาหัสไม่รู้กี่เท่า  คิดเสียใหม่ว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะชอบหรือไม่ชอบใคร หรือเพื่อที่จะให้ใครมาชอบหรือมาชัง แต่เราเกิดมาสู่โลกนี้เพื่อทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะทำเอาเวลาที่รู้สึกแย่ๆ กับคนอื่นนั้นหันกลับมามองตัวเองดีกว่า ชีวิตนี้เรามีอะไรบ้างที่เป็นแก่นสาร มีงานอะไรบ้างที่เราควรทำ นอกจากนั้นก็ ควรมองกว้างออกไปอีกว่า เราได้ทำอะไรไว้ให้แก่โลกบ้างแล้วหรือยัง

วันพฤหัสบดีที่ ๑๔  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๖  วันแห่งความรัก Valentine day ที่กลายเป็นสัญลักษณ์มากกว่าความรักของหนุ่มสาว คนสูงวัยก็ขอใช้สิทธิส่งความรักและความปรารถนาดีในวันนี้ด้วย  เช้าประชุมพัฒนาบุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ได้ทำพิธีเปิดและบรรยายพิเศษ ประมาณ ๑ ชั่วโมง เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม จะได้ทำงานอย่างเป็นสุข  เย็นนี้จะเดินทางไปศึกษาดูงานที่ สพป.หนองคาย เขต ๑ ในวันพรุ่งนี้ วันเสาร์จะอนุญาตให้เข้าไปทัศนศึกษาที่นครเวียงจันทน์ เป็นการเยือนเพื่อนบ้านในชุมชนอาเซี่ยน บ่ายทำงานแฟ้มเอกสารอีกเล็กน้อย เพราะเจ้าหน้าที่กลับไปเตรียมสัมภาระ ผมจะเดินทางในวันพรุ่งนี้ถึงหนองคายบ่าย ๆ ผมเคยไปหนองคายหลายครั้งหลายครา แต่ไม่รู้สึกเบื่อเพราะเป็นเมืองที่มีสิ่งน่าสนใจ โดยเฉพาะบรรยากาศริมฝั่งโขง ถ้าจะเบื่อบ้างก็คงเป็นความไกลในการเดินทาง แต่หากไปเครื่องบินลงที่อุดรธานี ต่อรถยนต์ไปอีก ๕๐ กม. ก็ถึงหนองคาย  ส่วนการเหยียบแผ่นดินลาวก็เพื่อดูความเป็นไปของบ้านเมืองเขามากกว่าอย่างอื่น มีคนเคยบอกว่ามีเงินอย่างเดียวซื้อของที่ลาวไม่ได้ จะต้องโง่ด้วย เขาคงหมายถึงสินค้าเลียนแบบที่ส่งมาจากจีน

                   

วันศุกร์ที่ ๑๕  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๖  ออกจากบ้านแต่เช้าใช้เส้นทางชัยพฤกษ์และราชพฤกษ์ข้ามสะพานพระราม ๔ ผ่านแจ้งวัฒนะ ไปออกหลักสี่ มุ่งดอนเมือง นำรถลงยอดชั้น G ขึ้นมาเช็คอินเพื่อเดินทางกับ Nokair ไปลงที่สนามบินอุดรธานี เพื่อต่อรถยนต์ไปหนองคาย เนื่องจากมีเวลาคอยเครื่องค่อนข้างนาน จึงได้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับเมืองหนองคาย เผื่อจะได้เลือกกิจกรรมที่ชอบเมื่อไปถึง จากประมวลผลพบว่ามีเรื่องควรทราบอยู่ ๖๐ เรื่อง บางเรื่องอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว เพราะคนเขียน เขียนไว้นานแล้ว กล่าวคือ

๑. หนองคายอยู่บนสุดของภาคอิสาน ตัวจังหวัดทอดยาวตามแม่น้ำโขงกว่า ๓๐๐ กม.

๒. หนองคายเคยถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่อันดับที่ ๗ ของโลก จากนิตยสาร Modern Maturity ของอเมริกา

๓. หนองคายอยู่ใกล้เมืองหลวงประเทศลาวเพียง ๓๐ กม.เท่านั้น แต่อยู่ห่างกรุงเทพฯตั้ง ๖๑๕ กม.

๔. การเดินทางมาหนองคายมีเกือบทุกอย่างทั้งรถยนต์ รถไฟ และเรือ จะขาดก็แค่เพียงทางเครื่องบินเท่านั้น

๕. คุณสามารถนั่งเรือเลาะมาตามแม่น้ำโขงแล้วมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือหนองคาย ใกล้ๆกับวัดหายโศกและตลาดท่าเสด็จ

๖. เมื่อก่อนหนองคายเคยมีสนามบิน แต่ทุกวันนี้บริเวณนั้นกลายเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการไปแล้ว

๗. หากขึ้นเครื่องมาแล้วลงที่อุดร สามารถนั่งรถต่อมาที่หนองคายได้แค่ ๑ ชม.หรือน้อยกว่านั้น เพราะอยู่ห่างจากอุดรแค่ ๕๐ กม.

๘.  ถ้าไม่มีรถส่วนตัว มาหนองคายด้วยรถทัวร์จะสะดวกที่สุดเพราะ บขส.อยู่ในเมือง รองลงมาก็รถไฟแต่ต้องต่อรถสามล้อเครื่องเข้ามาในเมืองอีกที

๙. เพราะว่าสถานีรถไฟอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางสะพานไทย-ลาว ประมาณ ๒-๓ กม.

๑๐. คุณสามารถนั่งไฟจากหนองคายข้ามฝั่งโขงไปลาวได้แต่ไม่ถึงเวียงจันทน์

๑๑. ไม่แปลกที่จะเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินอยู่ในตัวเมือง เพราะหนองคายกำลังฮอตฮิตมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

๑๒. จากที่ดูๆจะเป็นคนแถบตะวันตกมากกว่าแถบเอเชีย 

๑๓. หนองคายมีคนเชื้อสายเวียดนามอยู่มาก จึงไม่แปลกที่อาหารเวียดนามจะขึ้นชื่อพอๆอาหารอิสานและเมนูปลาแม่น้ำโขง

๑๔. ในบรรดาอาหารเวียดนามแหนมเนืองดังที่สุด และต้องที่ร้านแดงแหนมเนืองเท่านั้น

๑๕. แดงแหนมเนืองอยู่ตรงริมแม่น้ำโขงติดกับตลาดท่าเสด็จ ซึ่งคนเยอะมากๆโดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุด

๑๖. กรุงเทพฯมีจตุจักร เชียงใหม่มีไนท์บาร์ซ่า หนองคายมีตลาดท่าเสด็จ

๑๗. นอกจากตลาดท่าเสด็จก็ยังมีตลาดนัดคลองถมทุกวันพุธและวันอาทิตย์ด้วยนะ ของกินเยอะมากขอบอก

๑๘. ที่ตลาดท่าเสด็จมีทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ครบครันที่คุณต้องการ แต่จะขึ้นชื่อมากเรื่องสินค้านำเข้าจากอินโดจีน

๑๙. เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของกรุ๊ปทัวร์ที่มาหนองคายต้องมาเดินที่ท่าเสด็จ

๒๐. ใกล้ๆท่าเสด็จตรงถนนริมโขงจะเป็นวัดลำดวน มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่(มาก)ตั้งอยู่บนพระอุโบสถ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากฝั่งลาวเลยทีเดียว

๒๑. หลวงพ่อพระใสเป็นพระพุทธรูปที่ชาวหนองคายเลื่อมใสและศรัทธามาก ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย(พระอารามหลวง)  อยู่ใกล้ๆกับตลาดโพธิ์ชัยและ บขส.

๒๒. ถนนริมโขงหากไปตอนกลางคืนคุณจะพบกับร้านเนื้อย่างมากมาย รวมทั้งร้านนมสดและร้านอาหารชิลๆด้วย

๒๓. ที่สังสรรค์พบปะพูดกันที่ฮอตฮิตของคนหนองคายก็คือร้านเนื้อย่างนี่ล่ะ

๒๔. ว่าด้วยเรื่องของกินในตัวเมืองมีหลายที่นอกจากริมโขงแล้วก็จะมีที่หน้าโรงจำนำแล้วก็ที่หน้าเทศบาล รวมไปถึงตรงหน้า ธกส. แถวๆวงเวียนน้ำพุพญานาค ซึ่งขายเฉพาะตอนเย็นๆถึงตอนกลางคืนเท่านั้น

๒๕. หากไม่ชอบทานอาหารบนดินลองเปลี่ยนไปนั่งทานที่แพหายโศก เป็นเรือล่องไปชมวิวแม่น้ำโขงก็เก๋ไม่เบา

๒๖. หมูยอ ไส้กรอก ก็ขึ้นชื่อเช่นกัน ซึ่งมีหลากหลายเจ้าให้เลือกสรรตามใจชอบ

๒๗. ในตัวเมืองหนองคายไม่มีรถประจำทาง จะมีก็เพียงรถสามล้อเครื่องรับจ้างเท่านั้น

๒๘. แต่หนองคายก็มีรถทัวร์ไปถึงระยอง ชัยภูมิ นครพนม เมืองเลย สนามบินสุวรรณภูมิและเวียงจันทน์ด้วย

๒๙. ถ้าจะไปเวียงจันทน์ด้วยรถทัวร์ให้ไปทำบัตรผ่านแดนก่อน แนะนำให้ไปทำที่ศูนย์โอท็อปหรือถ้ามีพาสปอร์ตก็ซื้อตั๋วแล้วขึ้นรถได้เลย

๓๐. ศูนย์โอท็อปที่กล่าวมานั้นหาได้ง่ายมากๆเพราะอยู่ริมถนนมิตรภาพขาเข้าเมืองข้างศาลหลักเมือง ใกล้ศาลากลาง เยื้องๆเรือนจำและตรงข้ามกับโรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร

๓๑. ริมโขงตรงแถวๆวัดหายโศกจะมีเกสเฮ้าส์เก๋ๆเยอะเลยแถมราคาไม่แพงด้วย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบมากของนักท่องเที่ยว

๓๒. งานประจำปีของหนองคายคืองานอนุสาวรีย์ปราบฮ่อซึ่งจะจัดทุกๆเดือนมีนาคมในแต่ละปี

๓๓. อีกหนึ่งที่เที่ยวที่อยู่ไม่ไกลตัวเมืองคือศาลาแก้วกู่ ขอบอกว่าสวยงามมากๆ

๓๔. หากเอ่ยคำว่า “บั้งไฟพญานาค” มีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก 

๓๕. ในแต่ละปีผู้คนมืดฟ้ามัวดินจะแห่กันมาชมบั้งไฟพญานาค สถานที่ฮอตฮิตที่สุดก็คงหนีไม่พ้นอำเภอโพนพิสัย

๓๖. ซึ่งวันนั้นก็จะเป็นวันที่หนองคายรถติดที่สุดในรอบปี 

๓๗. คำแนะนำเรื่องปัญหารถติดถ้าจะไปชมบั้งไฟพญานาค คือ ให้เดินทางไปก่อนช่วงบ่าย เพราะถนนจะโล่งๆอยู่

๓๘. ภูทอกเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของหนองคายที่สวยงามมากๆ บนภูทอกคุณสามารถมองได้ไกลถึงภูลังกาเลยทีเดียว

๓๙. แต่การจะไปเที่ยวภูทอกนั้นค่อนข้างลำบากเล็กน้อย เพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองเกือบสองร้อยกิโลเมตร แถมไม่มีรถประจำทางผ่านด้วย

๔๐. หากไปเที่ยวภูทอกแล้วแนะนำให้ไปเที่ยวที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าวัวด้วย มีทัศนียภาพที่สวยงามมากๆให้ได้ชม แนะนำนิดนึงให้ไปช่วงหน้าหนาวจะยิ่งสวยงามมากขึ้นอีก

๔๑. น้ำตกที่ขึ้นชื่อของหนองคายมีหลายที่ยกตัวอย่างเช่น น้ำตกธารทิพย์ น้ำตกธารทอง น้ำตกเจ็ดสี น้ำตกวังหมอก น้ำตกถ้ำฝุ่น น้ำตกภูถ้ำพระ น้ำตกชะแนน จะเห็นได้ว่าเยอะมากๆแม้แต่คนหนองคายเองยังไปเที่ยวไม่หมดเลย

๔๒. ระหว่างทางไปเที่ยวน้ำตกธารทิพย์ ธารทอง จะผ่านสถานที่สำคัญๆหลายแห่ง ได้แก่ วัดพระธาตุบังพวน วัดหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ วัดหินหมากเป้ง วัดอรัญบรรพต หมู่บ้านประมงน้ำจืด รวมไปถึงหมู่บ้านทำยาสูบด้วย ซึ่งแต่ละที่ก็น่าสนใจทั้งนั้น

๔๓. ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น(ข้อ๔๒)อยู่ระหว่างทางบนถนนหมายเลข ๒๑๑ ซึ่งเลาะไปเรื่อยๆตามริมโขงจนยาวไปถึงอำเภอปากชมและอำเภอเชียงคานของจังหวัดเลย 

๔๔. ถนนสาย ๒๑๑ มีรถประจำทางผ่าน คือ ศรีเชียงใหม่-โคราช , ศรีเชียงใหม่-อุดรธานี , หนองคาย-เมืองเลย รวมไปถึง กรุงเทพฯ-ศรีเชียงใหม่ ด้วย

๔๕. หากไม่ชอบเที่ยวน้ำตกก็ลองไปเที่ยวที่บึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่มีสัตว์น้ำนานาชนิดแถมยังมีนกให้ดูเยอะด้วย คนที่ชอบดูนกไม่ควรพลาดที่นี่

๔๖. บนเส้นทาง ๒๑๒ ก่อนถึงตัวอำเภอบึงกาฬจะพบกับวัดอาฮงศิลาวาสตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งเชื่อกันว่าแก่งอาฮงตรงบริเวณนั้นเป็นจุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง จึงเรียกกันว่า”สะดือแม่น้ำโขง”

๔๗. เมื่อเร็วๆนี้บึงกาฬจะแยกตัวออกจากหนองคายเป็นจังหวัดที่ ๗๗ ของประเทศไทย ซึ่งจะพ่วงเอาเอาอำเภอในแถบนั้นไปด้วยอีก ๗ อำเภอ

๔๘. ทำให้หนองคายจะเหลือเพียง ๙ อำเภอ จากเดิมที่เคยมีทั้งหมด ๑๗ อำเภอ

๔๙. และจากผลสำรวจประชาชนชาวหนองคายก็เห็นด้วยถึง ๙๘ เปอร์เซ็นต์ที่จัดตั้ง "จังหวัดบึงกาฬ"

๕๐. หากมาเที่ยวหนองคายในช่วงฤดูร้อน สถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดคือหาดจอมมณี  อยู่บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว

๕๑. หาดจอมมณีเป็นหาดทรายที่ขึ้นมาในช่วงที่แม่น้ำโขงลด เป็นที่พักผ่อนตากอากาศชั้นยอดของชาวหนองคายแถมไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลด้วย

๕๒. การไปเที่ยวลาวของสำหรับคนหนองคายถือเป็นเรื่องที่ธรรมดาและไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นเลย (เพราะอยู่ใกล้แค่นี้เอง)

๕๓. หนองคาย อะควอเรี่ยม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืด ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นวิทยาเขตหนองคาย  มีอุโมงค์ใต้น้ำด้วย

๕๔. หนองคายมีห้างสรรพสินค้าบิ๊กเจียง-เทสโก้โลตัส และในเร็วๆนี้ก็จะมีแมคโครด้วย (ตอนนี้สร้างใกล้จะเสร็จแล้ว)

๕๕. หนองคายมีร้านกาแฟสตาร์บั๊คด้วยนะ อยู่ในห้างบิ๊กเจียง (S&P ก็มีเหมือนกันอยู่ที่บิ๊กเจียงอีกนั่นล่ะ)

๕๖. แกงเส้นอร่อยที่สุดต้องที่ร้านป้ารวงอยู่แถวตลาดชัยพรใกล้โรงแรมไทย-ลาวฯ ราคาไม่แพงด้วย

๕๗. แต่ถ้าอยากกินผัดไทยต้องที่ร้านผัดไทย ๙๙ ถนนประจักษ์  แต่ก็มีบางคนบอกมาว่าผัดไทยยายแกละกับผัดไทยสี่ภาคอร่อยกว่า ของแบบนี้ต้องพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง

๕๘. หนองคายมีเทศกาลสำคัญคือ เทศกาลสงกรานต์ริมฝั่งโขง เทศกาลเข้าพรรษา และเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค

๕๙. ค่าครองชีพที่หนองคายถูกมาก (ถ้าเทียบกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ)

๖๐. คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อทั้ง ๕๙ ข้อที่ผ่านมา เพราะถ้าคุณพร้อมแล้วก็มาเที่ยวหนองคายกันเลย ชาวหนองคายยินดีต้อนรับทุกคนด้วยความเต็มใจ

เที่ยง ๒๐ นาทีเครื่อง nokair เหินฟ้าสู่อุดรธานี ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงที่หมาย  ทีมรอง ผอ.สพป.ปทุมธานี เขต ๑ นำรถตู้มารับเพื่อเดินทางไปหนองคาย ระยะทาง ๕๐ กม. ไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารริมโขง มีลาบปลาแข้ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมพริกไทย ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน ปลาลวก เป็นอาหารแนะนำที่พวกเราสั่งมาทาน ต้องบอกว่าอร่อย ปลาเขาสดซิง ๆ  จากนั้นเดินทางไปชมกู่แก้ว ซึ่งเขาจำหน่ายบัตรเข้าชมคนละ ๒๐ บาท ด้านในเป็นปูนปั้นเทวรูปปางต่าง ๆ ดูประหลาดดี เสียแต่อากาศร้อนไปหน่อย  กลับมาเข้าวัดโพธิ์ชัย ไหว้หลวงพ่อพระใส พระคู่เมืองหนองคาย จากนั้นไปเข้าที่พักโรงแรม Royal Mekong Nongkhai ห้องพักอยู่ติดแม่น้ำโขงมองเห็นฝั่งลาวอยู่ลิบ ๆ ซึ่งพรุ่งนี้จะไปเยือน  อาหารเย็นจัดที่ห้องอนันต์ชั้นล่างสุด มีดนตรีมาให้รีแล็กซ์กันพอสมควร สี่ทุ่มแยกย้ายกันไปพักผ่อน           

                              

วันเสาร์ที่ ๑๖  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖  ตื่นตั้งแต่ตีสี่มาชมบรรยากาศยามเช้าสองฝั่งโขง ที่เงียบสงบ  จนดวงอาทิตย์เริ่มทอแสงจึงเห็นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เชื่อมสองฝั่งโขงอยู่ทิศตะวันออกของโรงแรมแม่โขงรอยัล  อาหารเช้าแบบบุพเฟ่ของโรงแรมมีให้เลือกหลากหลาย ที่สุดฮิตคงจะเป็นไข่กะทะซึ่งทุกคนเข้าคิวสั่งจนทำแทบไม่ทัน  ก่อน ๙ นาฬิกา รถพาพวกเราไปที่ด่าน ต.ม. เพื่อเดินทางไปกำแพงนครเวียงจันทน์ บริษัทัวร์ได้ดำเนินการไว้ล่วงหน้า พวกเราเพียงเดินผ่านให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งก็เรียบร้อยเป็นอันว่าพวกเราออกนอกประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ก่อนเข้าประเทศลาวก็ต้องลงจากรถให้เขาตรวจในทำนองเดียวกันจึงผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองของเขา  มีมัคกุเทศก์ของลาวมาต้อนรับและบรรยายให้ฟังตลดดการเดินทาง  ถนนหนทางเรียบร้อยเหมือนทางหลวงบ้านแบบที่แบ่งถนนออกเป็นสองข้างวิ่งสวนทางกัน การขับรถต้องชิดขวา ตรงข้ามกับบ้านเราที่ต้องชิดซ้าย  สองข้างถนนจะเป็นทุ่งนาและโรงงานอุตสาหกรรม ร้านค้ามีให้เห็นตลอดเส้นทาง เหมือนต่างจังหวัดบ้านเรา  เข้าเขตกำแพงนครเวียงจันทน์จะมีป้อมไฟจราจรตามแยกต่าง ๆ ให้เห็น แต่จำนวนรถยนต์ที่วิ่งน้อยกว่าแถวอุดรฯขอนแก่น  จุดแยกที่พวกเราไปคือ การไปไหว้พระธาตุหลวง พระธาตุหลวงสร้างขึ้นในศตวรรษที่ ๑๖ เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะโดดเด่นที่สุดในอาณาจักรล้านช้างมาตั้งแต่ในสมัยของสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชเจ้า พระธาตุหลวงองค์นี้มีรูปทรงที่ไม่เหมือนกัลพระธาตุองค์อื่น ๆ เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุธทศาสนากับสถาปัตยกรรมของอาณาจักร  ลักษณะรูปทรงของพระธาตุหลวงน่าจะได้รับการถ่ายทองความเชื่อมาจากคติจักรวาลที่มีเขาพระสุเมรุเป็นแกนกลาง เริ่มจากภายนอกตั้งแต่ระเบียบและทางเข้าทั้ง ๔ ทิศ เสมือนเป็นเทือกเขาน้อยใหญ่ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุส่วนฐานที่ลดหลั่นกัน ๓ ชั้น ขององค์พระธาตุหมายถึงโลก ๓ ภูมิ คือ มนุษย์โลก เทวโลก และพรหมโลก เหนือฐานชั้นที่ ๓ เป็นองค์ระฆังเตี้ยคล้ายสถูปทรงฟองน้ำในผังทรงสี่เหลี่ยม  ปัจจุบันพระธาตุหลวงมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ ด้วยระเบียงสูงใหญ่ที่โอบล้อมองค์พระธาตุไว้พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็ก ๆ เอาไว้โดยรอบ ประตูทางเข้านั้นเป็นประตูไม้บานใหญ่ลงรักสีแดงไว้ทั้งหมดรอบ ๆ องค์พระธาตุใหญ่มีเจดีย์บริวารล้อมรอบอยู่โดยรอบอีกหลายองค์ เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ จะเห็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของพุทธศาสนาแห่งนี้ปรากฏอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นรูปแกะสลักพญานาค พระธาตุรูปปิดทอง ลายกลีบบัวประดับอยู่บนฐานปักษ์ ถัดมาบริเวณทางเข้าด้านหลังขององค์พระธาตุมีศิลาจารึกเกี่ยวกับประวัติของพระธาตุหลวง  ถนนด้านหน้าทั้งสองฝั่งมีร้านค้าหลากหลายให้จับจ่ายตามอัธยาศัย  จุดที่สองที่ได้ไปเยี่ยมชมคือพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหอพระแก้ว ตั้งอยู่บนถนน เชษฐาธิราช ติดกับทำเนียบประธานประเทศ แต่เดิมเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว พระเชษฐาธิราชมีพระราชประสงค์ให้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.๒๑๐๘ เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ได้อัญเชิญมาจากล้านนา เมื่อต้องเสด็จกลับมาครองราชบัลลังก์ล้านช้างหลังจากที่พระราชบิดาคือพระ เจ้าโพธิสารสิ้นพระชนม์ลงในการทำศึกสงครามกับประเทศสยาม เมื่อปีพ.ศ.๒๓๒๒ นครเวียงจันทน์ถูกกองทัพสยามตีแตก กองทัพสยามได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของนครเวียงจันทน์ไป พร้อมทั้งกวาดต้อนราชวงศ์ชาวลาวกลับไปยังกรุงเทพฯมากมาย สำหรับหอพระแก้วที่นักท่องเที่ยวเห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นของที่ถูกบูรณะขึ้น ใหม่เกือบทั้งหมด ในปีพ.ศ.๒๔๘๐ -๒๔๘๓ ภายใต้การควบคุมดูแลการก่อสร้างของ เจ้าสุวรรณภูมา ผู้ที่จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์จากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และต่อมายังได้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีหลังจากได้รับเอกราชอีกด้วย แม้หอพระแก้วปัจจุบันจะไม่ใช่วัดอีกต่อไป แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังนครเวียงจันทน์ก้ยังเดิน ทางมาสักการะบูชากันเป็นจำนวนมาก สำหรับส่วนในของพิพิธภัณฑ์นั้น จัดแสดง พระแท่นบัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฏก ภาษาขอมและกลองสำริดประจำราชวงศ์ลาว สำหรับประตูใหญ่ทั้งสองเป็นของเก่าที่หลงเหลือมาแต่เดิม บานประตูจำหลักเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริเวณโดยรอบของหอพระแก้วเงียบสงบ ร่มเย็นมีไหขนาดกลางจากทุ่งไหหิน ในเชียงขวางวางตั้งอยู่ ๑ ใบ อาณาบริเวณรอบๆ วัดสีสะเกดและหอพระแก้วเคยถูกใช้เป็นศูนย์กลางของหน่วยงานปกครองของฝรั่งเศส สมัยอาณานิคมมาก่อน บนเส้นทางนี้ผ่านหอคำ อาคารรูปทรงสวย จำลองแบบมาจากพระราชวังแวร์ซาย แห่งกรุงปารีส แต่เดิมเป็นพระราชวังที่ประทับของสมเด็จเจ้ามหาชีวิตของลาว หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองมีการใช้เป็นทำเนียบของประธานประเทศ ปัจจุบันใช้เป็นที่พักรับรองอาคันตุกะของประเทศ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยเสด็จประทับ เนื่องในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนิน เยี่ยมเยียนประเทศลาว หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีเปิดสะพานมิตรภาพ ไทย - ลาว  เขาว่าหอคำแห่งนี้ หากมองมาจากยอดของอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะในยามเช้าแล้ว จะได้ภาพที่สวยงามน่าชมเป็นอย่างยิ่ง 

                         

 อาหารกลางวันเป็นอาหารพื้นบ้านของลาว ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของกำลังหิวกำลังเหนื่อยรสชาติจึงอร่อยเป็นพิเศษ  ในทุกแห่งที่รถทัวร์จอดจะมีแม่ค้าขายของสารพัดติดตามไปให้อุดหนุนแบบไม่ยอมถอย พวกเราก็อุดหนุนกันในทุกโอกาสแม้ราคาจะขึ้นลงรวดเร็วมาก ทัวร์พาไปชมร้านผ้าไหม สินค้าเครื่องเงินที่ได้มาตรฐาน ราคาก็สูงตามขึ้นไปหลายเท่าตัว ออกจากร้านผ้าไหมเขาจะพาไปถ่ายรูปที่ประตูชัย ประตูชัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเวียงจันทน์บนถนนล้านช้างไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ประตูชัยแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รันเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างประตูชัยแห่งนี้ ใช้ปูนที่อเมริกาซื้อเพื่อนำมาสร้างสนามบินใหม่ในนครเวียงจันทน์ในระหว่าง สงครามอินโดจีน แต่ไม่ทันได้สร้างเพราะอเมริกาแพ้สงครามในอินโดจีนเสียก่อน จึงนำปูนซีเมนต์มาสร้างประตูชัยแทน ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย บันไดเวียนให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ บนยอดของประตูชัยอีกด้วย

                           

ตลอดบันไดวนของประตูชัยจะแบ่งออกเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นชมวิวทิวทัศน์ทุกวัน และในตอนเย็นจะมีประชาชนชาวลาว มาออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมร่วมกันที่นี่ด้วย แต่วันนี้อากาศยามบ่ายร้อนยิ่งนัก พวกเราจึงรีบเบิ่งรีบไป  ออกจากเวียงจันทน์มาแวะช็อปปิ้งที่ร้านค้าปลอดภาษีเป็นที่สุดท้ายก่อนกลับเข้าไทย คืนนี้มีกำหนดการจะค้างที่อุดรธานี เมื่อรถผ่านย่าน OTOP ของเทศบาลตำบลนาข่าจึงต้องแวะอุดหนุนคนไทยด้วยกันบ้าง เดี๋ยวจะหาว่ารักกันไม่จริง  เข้าตัวเมืองแวะทานอาหารที่ร้านระเบียงพัชนี ริมหนองประจักษ์ฯ ก่อนเข้าที่พักโรงแรมบ้านเชียง  ผมต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพราะจะกลับก่อนคณะในในเที่ยวบิน ๐๗.๓๐ น.ม่วนซื่นเน้อ

หมายเลขบันทึก: 519869เขียนเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2013 19:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2014 09:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อากาศยามเช้าสองฝั่งโขง ที่เงียบสงบ 


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท