หลังจากเราชมอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ไปไหว้พระที่วัดอนงคารามและวัดพิชัยญาติ ซึ่งไม่ไกลกันเท่าไหร่ แล้วเราก็เดินย้อนกลับมาริมน้ำอีกครั้งตามที่เราตั้งใจไว้ว่าจะเดินเลาะเลียบริมฝั่งเจ้าพระยาไปจนถึงท่าเรือคลองสาน ซึ่งยังมีสถานที่เก่าควรแก่การเยี่ยมชมหลายแห่ง เช่น มัสยิดเซฟี ศาลเจ้าซำไนเก็ง วัดทองธรรมชาติ สมาคมเต็กก่า บ้านหวั่งหลี วัดทองนพคุณ ป้อมป้องปัจจามิตร ทุกแห่งน่าจะมีอายุหนึ่งร้อยปีขึ้นไปทั้งนั้น.....
บริเวณย่านหลังวัดอนงคาราม จนมาถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นท่าเรือและคลังสินค้าที่สำคัญในอดีต ยังคงอาคารเก่าๆให้เราเห็นร่องรอย...
...ทางเดินช่วงนี้สวยงามครับ...
...เส้นสีขาวบนทางเดิน หมายถึงเส้นทางของจักรยานท่องเที่ยวครับ..
แวะสักการะศาลเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ที่จอดจักรยาน..
....จากศาลเจ้าแม่ทับทิม ไม่ไกลนักก็จะถึงมัสยิดเซฟี หรือ สุเหร่าตึกขาว..
...เป็นของมุสลิมนิกายชีอะห์ ความเป็นมานั้นคือชาวอินเดียเชื้อสายดาวูดี โบราห์จากเมืองสุหรัตประเทศอินเดียที่เข้ามาติดต่อซื้อขายสินค้าตั้งแต่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มัสยิดนี้จะอยู่ใกล้กับคลังสินค้าตึกสีขาว...
...ชาวมุสลิมของสุเหร่าตึกขาวนี้ยังคงแต่งกายเหมือนกับในอดีต..
...ทางเข้าค่อนข้างจะหายากหากไม่ถามคนแถวนั้น คงจะหาไม่เจอครับ..
ทางเดินริมน้ำจากตึกขาวไปจนถึงท่าดินแดง น่าจะเป็นที่ของเอกชน น่าจะยังไม่เป็นทางสาธารณะแต่ว่าสามารถเดินผ่านไปออกที่ท่าดินแดงได้
จากท่าเรือข้ามฟากท่าดินแดงเดินตามถนนขึ้นไปก็จะเจอศ่าลเจ้าซำไนเก็งเป็นศาลเจ้าของชาวจีนแคระ สร้างสมัยปลายรัชกาลที่ ๓ ภายในประดิษฐานสามเทพธิดา
...เราเข้าไปสักการะเทพธิดาทั้งสาม พร้อมทั้งเติมน้ำมันตะเกียงเพื่อความสว่างไสวของชีวิตในช่วงขึ้นปีใหม่...
..ไม่ห่างจากศาลเจ้าซำไนเก็ง ซอยท่าดินแดง ๑๖ คือทางลัดที่สามารถเดินไปวัดทองธรรมชาติ ได้.....
...วัดทองธรรมชาติเป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเดิมเป็นวัดราษฏร์ชื่อวัดทองบน พระขนิษฐานของรัชกาลที่ ๑ ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ต่อมาในรัชกาลที่ ๓ ทรงบูรณะใหม่ทั้งหมดแต่รูปทรงยังคงเดิมซึ่งจะไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักพระอุโบสถที่มีชายคาด้านหน้าและด้านหลัง และทรงรับเป็นพระอารามหลวง...
..เราเข้าไปสักการะหลวงพ่อสิบทัศน์ ในพระวิหาร เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปสักการะพระประธานในพระอุโบสถ....
...เราลัดเลาะตามเส้นทางจักรยาน..จากวัดทองธรรมชาติ ไปยัง จีจินเกาะ
สมาคมเผยแผ่ "เต็กก่า" จีจินเกาะ มองจากแม่น้ำเจ้าพระยา..
จีจินเกาะ เป็นวัดจีนที่ใช้ประกอบพิธีกรรม ปฏิบัติธรรม และปฏิบัติธรรม ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕ มีพระมหาเจดีย์พระจอมธาตรีไทยจีนเฉลิมพระเกียรติ สูง ๘ ชั้น แต่ละชั้นประดิษฐานเทพเจ้าต่าง ๆ ...
ภายในบริเวณจีจินเกาะมีอาคารเก่าที่อนุรักษ์ไว้สวยงามมาก
ติดกับจีจินเกาะ เป็นอาคารอนุรักษ์ "บ้านหวั่งหลี"..เราไม่ได้เข้าไปชม ทราบว่าต้องติดต่อขอเข้าชมล่วงหน้า...
บ้านหวั่งหลี ถ่ายจากชั้น ๘ ของพระมหาเจดีย์ภายใน จีจินเกาะ..
..วัดทองนพคุณ อยู่ใกล้ๆ กับจีจินเกาะ..
...เดิมชื่อวัดทองล่าง คาดว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ต่อมาพระยาโชฎึกราชเศรษฐี(ทองจีน) บูรณะซ่อมแซมแล้วถวายให้รัชกาลที่ ๓ วัดนี้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร..
..ต้นโพธิ์บนเรือสำเภาจีน ที่วัดทองนพคุณ..
จุดหมายสุดท้ายคือ ป้อมป้องปัจจามิตร และหอสัญญาณ ซึ่งอยู่ใกล้กับปากคลองสาน
ป้อมป้องปัจจามิตร รัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดให้สร้างเพื่อป้องกันข้าศึกตามริมน้ำเจ้าพระยา ต่อมาในรัชกาลที่ ๕ ได้ใช้ป้อมเป็นสถานที่ตั้งเสาธงสัญญาณ
....เสาธงสัญญาณถ่ายจากป้อมปัองปัจจามิตร....
เราแวะที่ตลาดตรงท่าเรือข้ามฟากปากคลองสาน ไหว้พระสมเด็จโต..ก่อนข้ามฟากไปฝั่งกรุงเทพ...
...บนเรือข้ามฟากจากคลองสานไปท่าสี่พระยา ฝั่งกรุงเทพ..
... ริเวอร์ ซิตี้ กรุงเทพ..
ขอบคุณทุกท่านครับ....
ชมมัสยิดเซฟี
ทางเข้าค่อนข้างแคบ...
ถ่ายภาพสวยมากๆๆ
ภาพหลวงพ่อโตเหมือนภาพท่านมีชีวิตจริงเลยครับ
..คลองสาน..ท่าเรือข้ามฟากคลองสาน ฝั่งธนบุรี....ข้ามไปที่ท่าสี่พระยา ฝั่งกรุงเทพ..
เสาสัญญาณที่ป้อมป้องปัจจามิตร อยู่ในระหว่างการซ่อมทำ...
ขอบคุณครับอาจารย์ขจิต ...แวะมาทักทายให้กำลังใจกันครับ....
.ทางเรือน่าจะช่วยให้เดินทางสะดวกไม่มีรถติด..ช่วงนี้ในกรุงเทพชั้นในมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน...จากนั้นก็เดินไปตามทางรถจักรยานครับ...เหนื่อยก็หยุดพัก..ไม่ต้องรีบร้อนไปใหน..กรุงเทพเมืองหลวงของเรา...
เห็นเรือยนต์รูปร่างอย่างนี้ นึกถึงเรือโดยสารที่วิ่งในคลองที่บ้านเมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว วิ่งไม่เร็วเพราะใช้เครื่องยนต์เผาหัว...แต่ที่เห็นวิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยานี่คงจะเป็นเครื่องดีเซลวิ่งเร็วมาก..
สวัสดีค่ะ หนุ่มกร
มาชมภาพการเดินทางท่องเที่ยวสวยๆ ค่ะ
ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง ที่ให้กำลังใจครับ...
...ช่วงเดินทางโดยเรือด่วน ...ส่วนใหญ่ใช้เรือด่วนธงสีส้ม ครับ ๑๕ บาทตลอดสาย แวะจอดทุกท่า...ลำนี้แหละครับ
..สำหรับลำนี้ น่าจะเรียกว่า ด่วนพิเศษ ...สังเกตเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศนิยม เรือด่วนธงสีฟ้า แบบนี้ค่าโดยสารคิดเป็นระยะทาง จอดเฉพาะท่าที่กำหนดส่วนใหญ่เป็นจุดที่มีสถานทีี่ท่องเที่ยว.. เช่น ท่าช้าง ท่าเตียน ฯลฯ
สำหรับลำนี้ "เรือหางยาว"...นักท่องเที่ยวก็นิยมเหมือนกัน รวดเร็วและเป็นส่วนตัวดี...เปรียบเทียบน่าจะเหมือนรถรถตุ๊กตุ๊กในลำน้ำคงได้...นะครับ