.
.
.
.
ภาพที่ 2: แผนที่โลก แสดงแหล่งปลูกบลูเบอรีที่สำคัญได้แก่ ครึ่งตะวันออกของสหรัฐฯ ตุรกี ยุโรปตะวันออก เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น [ wikipedia ]
.
เบอรี (berry/berries) เป็นผลไม้ที่หวานน้อย มีสารพฤกษเคมี หรือสารคุณค่าพืชผักที่มีฤทธิ์เป็นยา ป้องกันโรคสูง โดยเฉพาะสารกลุ่มฟลาโวนอยส์ (flavonoids) ที่พบในโกโก้ ชอคโกแล็ตสีเข้ม องุ่น ไวน์แดง แบลคเบอรี และมะเขือม่วง (eggplant)
.
กลไกที่เป็นไปได้ คือ สารฟลาโวนอยส์ทำให้หลอดเลือดยืดหยุ่น ขยายตัวได้อย่างพอดี และช่วยต้านการเกิดคราบไข (plaque) ที่ผนังหลอดเลือดแดง
.
ศ.อีริค ริมม์ และคณะ ทำการศึกษา (ตีพิมพ์ใน Circulation) ในกลุ่มตัวอย่างผู้หญิง อายุ 25-42 ปี จำนวน 93,600 คน
.
ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่กินบลูเบอรี และสตรอเบอรีมากที่สุด ลดเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจกำเริบ (heart attack) = 32%
.
.
เมืองไทยมีผลไม้กลุ่ม "เบอรี (berry/berries)" อย่างหนึ่ง คือ มาวเบอรี (malberry; ภาษาอังกฤษ ตัวสะกด 'L' ออกเสียงคล้ายสะกดด้วย "ว" หรือสระ "อัว") หรือลูกหม่อนสีม่วงแดงเข้ม
.
อ.นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า
- ผู้หญิงไทยเสี่ยงมะเร็งเต้านมมากเป็นอันดับ 1, อันดับ 2 = มะเร็งปากมดลูก
- น้ำหนักขึ้นหลังหมดประจำเดือนทุกๆ 1 กก. > เพิ่มเสี่ยง 1%
- ออกกำลัง 30 นาที/วัน > ลดเสี่ยง 20-30%
สรุป คือ อ้วนไม่ฟิตเสี่ยงมะเร็งเต้านมมากที่สุด
.
นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ว่า ถ้าอ้วนแล้ว... ขอให้รีบเปลี่ยนเป็นอ้วนฟิตให้เร็วที่สุด, ฟิตแล้ว ขั้นต่อไป คือ ค่อยๆ ลดน้ำหนักไปทีละน้อย
.
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ