บันทึกประจำเดือนมกราคม

การบริหารสมอง  (Brain Gym)

การบริหารสมอง (Brain Gym) หมายถึง  การบริหารร่างกายในส่วนที่สมองควบคุม  โดยเฉพาะในส่วนของ corpus callosum ซึ่งเชื่อมสมองสองซีกเข้าด้วยกันให้ประสานงานกัน  ซึ่งจะทำให้การถ่ายโยงข้อมูลและการเรียนรู้สมองสองซีกเป็นไปอย่างสมดุลเกิดประสิทธิภาพ  รวมถึงจะช่วยให้เกิดการผ่อนคลายความตึงเครียด  ทำให้สภาพจิตใจเกิดความพร้อมในการเรียนรู้  เกิดความจำทั้งระยะสั้นและระยะยาวโดยใช้กิจกรรมที่มีรูปแบบการเคลื่อนไหวง่ายๆ  และมีความตื่นตัว

การบริหารสมอง  (Brain Gym)  แบ่งท่าบริหารสมองออกเป็น 4 กลุ่มท่า คือ

1.   การเคลื่อนไหวสลับข้าง  ( Cross Over Movement )

เป็นท่าที่ช่วยให้การทำงานของสมองสองซีกถ่ายโยงข้อมูลกันได้  เช่น  สมองซีกซ้ายสามารถนำจินตนาการและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จากสมองซีกขวามาใช้ช่วยในการอ่าน  เขียน  และช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานประสานกันได้ดี  เช่น Cross crawl  เป็นการเคลื่อนไหวของแขนด้านตรงข้ามกับขาสลับกัน  , LAZY 8  เป็นกิจกรรมที่ใช้มือในการวาดเลข 8 ในแนวนอน  โดยใช้ระดับสายตาเป็นจุดกึ่งกลางของเลข 8 , NECK ROLLS เป็นการส่ายคอช้า ๆ จากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง  พร้อมกับสูดลมหายใจลึก ๆ และผ่อนลมหายใจขณะทำ เป็นต้น

2.  การยืดส่วนต่างๆ  ของร่างกาย  ( Lengthening Movement )

เป็นท่าที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของสมองส่วนหน้าและส่วนหลัง  ทำให้มีสมาธิในการเรียนรู้และการทำงาน   เช่น  THE OWL เป็นท่าที่เน้นทักษะการมองเห็นและการได้ยิน โดยจะใช้มือบีบนวดไหล่และคอ  พร้อมกับค่อย ๆ เคลื่อนศีรษะจากขวาไปซ้าย และกลับมาขวา เมื่อศีรษะอยู่ตรงกลางให้ก้มศีรษะ , ARM ACTIVATION  เป็นท่าที่ใช้ยืดกล้ามเนื้อบริเวณอกและไหล่  โดยยกแขนข้างใดข้างหนึ่งและใช้มือจับแขนข้างที่ยก ปล่อยให้ศีรษะอยู่ในท่าผ่อนคลาย พร้อมดันแขนออกห่างศีรษะ  ดันไปข้างหน้า  ข้างหลัง  และดันกลับเข้ามาที่หู  , THE FOOTFLEX  เป็นท่าที่ช่วยเพื่อความยาวของเอ็นที่ปลายเท้าและปลายขา  โดยอยู่ในท่านั่งยกข้อเท้าข้างหนึ่งมาวางบนเข่าอีกข้าง ใช้ปลายนิ้วจับบริเวณกล้ามเนื้อน่องที่จุดเกาะต้น (หลังเข่า)  และจุดเกาะปลาย (เอ็นข้อเท้า)และกระดกข้อเท้าขึ้นลง  จากนั้นสลับข้างทำ  เป็นต้น 

3.   การเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้น ( Energizing Movement )

เป็นท่าที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระแสประสาท  ทำให้เกิดการกระตุ้นความรู้สึกทางอารมณ์  เกิดแรงจูงใจเพื่อช่วยให้เรียนรู้ได้ดีขึ้น   เช่น  BALANCE  BUTTON เป็นท่าที่ปรับสมดุลของร่างกายทั้งสามมิติ คือ บน /ล่าง  ซ้าย/ ขวา  หน้า/ หลัง  โดยใช้นิ้ว 2 นิ้วแตะตรงหลังกกหู  และมืออีกข้างแตะที่บริเวณเหนือสะดือ 30 วินาที  แล้วเปลี่ยนมาทำเหมือนกันอีกข้าง , SPACE  BUTTON  ตามหลักของวิชาฝั่งเข็มเป็นทั้งจุดต้นและปลายของเส้นแบ่งกึ่งกลางตัว  เมื่อกระตุ้นแล้วจะช่วยให้เลือดและน้ำไขสันหลังไปบำรุงเลี้ยงสมองได้มากขึ้น  โดยใช้มือข้างหนึ่งวางเหนือริมฝีปาก  ส่วนมืออีกข้างวางเหนือกระดูกก้นกบ  กระตุ้นโดยการกดและนวด  รวมถึงมองขึ้นบนหรือตามแนวดิ่งเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นทางสายตา เป็นต้น

4.  บริหารร่างกายท่าบริหารความรู้สึกภายใน  ( Depening Attitudes )   

เช่น  HOOK-UPS  เป็นการนั่งลงและวางข้อเท้าซ้ายไขว้บนข้อเท้าขวายื่นแขนออกมาข้างหน้า  วางมือซ้ายไว้บนมือขวา  จากนั้นพลิกฝ่ามือเข้าหากันแล้วสอดประสานนิ้วเข้าหากัน  ขยับมือเข้ามาอยู่ที่อก  หลับตา  หายใจลึก ๆ และผ่อนคลายประมาณ 1 นาที  ยกขาที่ไขว้กันออกแล้ววางเท้าราบกับพื้น  แตะปลายนิ้วมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน  หายใจต่อเนื่องกันไปประมาณ 1 นาที  , P0SITIVE POINT  เป็นท่าที่ใช้นิ้วมือแตะที่เหนือตาเบา ๆ  นวดเบา ๆ  เพื่อคลายความตึงเครียดทางสายตา