ครูเอกชนเฮ! สช.เตรียมจ่ายเงินเดือน 1.5 หมื่น พร้อมตกเบิกย้อนหลัง 3 เดือนใน ม.ค. 56


ครู เอกชนได้เฮ! สช.รอจัดสรรงบกว่า 1.8 ล้านบาท จ่ายเงินเดือนให้ครู 1.5 หมื่นบาท ผ่านเงินรายหัวเด็กและตกเบิกย้อนหลัง 3 เดือนในเดือน ม.ค. 56 นี้ ส่วนกลุ่มที่ไม่ถึง 1.5 หมื่น สช.ขอเวลาตรวจสอบความถูกต้อง ขณะที่บอร์ดเห็นชอบกำหนดเพดานจ่ายเงินสมทบ 3% ของครูเอกชนเข้ากองทุนสงเคราะห์ที่ 1,500 บาทหรือเงินเดือนสูงสุด 5.5 หมื่น 
นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการกช. เปิดเผยภายหลังการประชุม กช. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงแนวทางการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนใน โรงเรียนเอกชน เพื่อปรับเงินเดือนครูวุฒิปริญญาตรีให้ได้รับเงินเดือนละ 15,000 บาทตามนโยบายรัฐบาลนั้น ในปี 2555 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณปี 2556 ประมาณ 1,858 ล้านบาทแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้เสนองบประมาณเพิ่ม เงินอุดหนุนรายหัวเพื่อใช้ปรับเงินเดือนในระดับอนุบาล-ประถมศึกษา หัวละ 601 บาทต่อปี และระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษา หัวละ 711 บาทต่อปี ซึ่งขณะนี้กำลังรอการจัดสรรงบประมาณและจะสามารถจัดสรรเงินส่วนนี้เพื่อให้ตก เบิกย้อนหลัง 3 เดือนให้ในเดือนมกราคม 2556 ส่วนค่าครองชีพชั่วคราว 1,160 บาทต่อเดือนที่รัฐจะจัดสรรให้ครูโรงเรียนเอกชนที่เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท จำนวน 87,000 คน ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณให้แล้วประมาณ 2,000กว่าล้านบาทนั้นยังไม่ได้เบิกจ่ายเพราะรอตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง 

“ส่วนในปี 2557 ที่รัฐกำหนดให้ปรับเงินเดือนระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาทที่ประชุม กช.ได้มอบให้ สช.ที่เป็นผู้แทนร่วมกับสำนักงบประมาณ และผู้แทนครูโรงเรียนเอกชนได้เข้าหารือกับคณะอนุกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาร่วมกันศึกษาผลกระทบและจะพิจารณาเงินช่วย เหลือตามอัตราเงินเดือนใหม่และหากได้ผลอย่างไรก็ให้เสนอที่ประชุมพิจารณา ครั้งต่อไป” รองเลขาธิการ กช.กล่าว 

นายชาญวิทย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินสะสมเข้ากอง ทุนสงเคราะห์สำหรับโรงเรียนในระบบ พ.ศ... ที่ได้กำหนดอัตราการหักเงินร้อยละ 3 ของเงินเดือนสะสมเข้ากองทุนและโรงเรียนจะอุดหนุนเพิ่มอีก 3% และรัฐอุดหนุนเพิ่มอีก 6% รวมทั้งหมด 12% โดยที่ประชุมได้ให้คณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ไปพิจารณาร่างกฎกระทรวงฯ อีกครั้งหนึ่งว่าควรต้องกำหนดเพดานเงินสูงสุดที่จะหักเงินครู ผู้อำนวยการและบุคลากรโรงเรียนเอกชนเข้ากองทุนนี้ได้สูงสุดเดือนละเท่าไร รวมทั้งควรศึกษาผลดีผลเสียด้วย ซึ่งในเบื้องต้นที่ประชุมเห็นว่าควรกำหนดเพดานสูงสุดที่ 1,500 บาท หรือเงินเดือนสูงสุด 50,000 บาท 

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 ธันวาคม 2555


ของขวัญปีใหม่..เงินเดือนครูเอกชน

สช.จ่ายตกเบิกย้อนหลัง 3 เดือน ในเดือน ม.ค.56 

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.55 นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ กช. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.)ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงแนวทางการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนใน โรงเรียนเอกชน เพื่อปรับเงินเดือนครูวุฒิปริญญาตรีที่ยังไม่ถึง 15,000 บาทจำนวน 70,353 คน ให้ได้รับเงินเดือนละ 11,680 บาท ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณปี 2556 ประมาณ 1,858 ล้านบาทแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้เสนองบประมาณเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัว เพื่อใช้ปรับเงินเดือนในระดับอนุบาล-ประถมศึกษา หัวละ 601 บาทต่อปี และระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษา หัวละ 711 บาทต่อปี ซึ่งขณะนี้กำลังรอการจัดสรรงบประมาณ และจะสามารถจัดสรรเงินส่วนนี้เพื่อให้ตกเบิกย้อนหลัง 3 เดือนให้ในเดือน ม.ค.56 

ส่วนค่าครองชีพชั่วคราว 1,160 บาทต่อเดือน ที่รัฐจะจัดสรรให้ครูโรงเรียนเอกชนที่เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทจำนวน 87,000 คน ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณให้แล้วประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท นั้นยังไม่ได้เบิกจ่ายเพราะรอตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง 

"ส่วนในปี 2557 ที่รัฐกำหนดให้ปรับเงินเดือนระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาทที่ประชุม กช.ได้มอบให้ สช.ที่เป็นผู้แทนร่วมกับสำนักงบประมาณ และผู้แทนครูโรงเรียนเอกชนได้เข้าหารือกับคณะอนุกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาร่วมกันศึกษาผลกระทบและจะพิจารณาเงินช่วย เหลือตามอัตราเงินเดือนใหม่และหากได้ผลอย่างไรก็ให้เสนอที่ประชุมพิจารณา ครั้งต่อไป" 

รองเลขาธิการ กช. กล่าวและว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ สำหรับโรงเรียนในระบบ พ.ศ.(...) ที่ได้กำหนดอัตราการหักเงินร้อยละ 3 ของเงินเดือนสะสม เข้ากองทุนและโรงเรียนจะอุดหนุนเพิ่มอีก 3%และรัฐอุดหนุนเพิ่มอีก 6% รวมทั้งหมด 12% โดยที่ประชุมได้ให้คณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ ไปพิจารณาร่างกฎกระทรวงฯ อีกครั้งหนึ่งว่า ควรต้องกำหนดเพดานเงินสูงสุดที่จะหักเงินครู ผู้อำนวยการ และบุคลากรโรงเรียนเอกชน เข้ากองทุนนี้ได้สูงสุดเดือนละเท่าไร รวมทั้งควรศึกษาผลดีผลเสียด้วย 

ซึ่งในเบื้องต้นที่ประชุมเห็นว่าควรกำหนดเพดานสูงสุดที่ 1,500 บาทหรือเงินเดือนสูงสุด 50,000 บาท 

นายชาญวิทย์ กล่าวต่อว่านอกจากนี้ยังได้เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์ การดำเนินการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ของสถานศึกษาเอกชน ประเภทอาชีวศึกษา เพื่อให้นักศึกษาในอาชีวศึกษาเอกชนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.)อายุ ไม่ต่ำ 18 ปี และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีสามารถนำผลงาน ประสบการณ์วิชาชีพที่ทำอยู่มาเทียบโอนเพื่อเทียบหน่วยกิตได้โดยจะใช้แนวทาง เดียวกับการเทียบโอนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่จะทำให้นักศึกษาได้จบการศึกษาเร็วขึ้น ทั้งนี้ สช.จะประกาศรายละเอียดในการเทียบโอนและสถานศึกษาที่จะรับเทียบโอนให้ ทราบต่อไป 

ที่มา สยามรัฐ

คำสำคัญ (Tags): #ครูเอกชนเฮ
หมายเลขบันทึก: 512135เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2012 16:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม 2012 07:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท