การวัดระดับความดีของคน และต้นไม้


สำหรับผมเห็นว่าความดีสัมบูรณ์นั้นไม่อาจนิยามได้ เพราะความดีต้องเป็นแบบสัมพัทธ์เสมอ ของบางอย่างคนบางคนในบางสังคมว่าดี แต่กลับเป็นการไม่ดีในสังคมอื่น เช่น การพูดจาโผงผาง ตรงไปมา เป็นต้น (ฝรั่งว่าดี ไทยว่าเลว)

การวัดความดีของคนและต้นไม้

ความดี มีนิยามว่ากระไร หลายท่านคงพอทราบ แต่วันนี้ผมจะมากระตุกให้เขวสักหน่อย


บางท่านอาจว่าคนดีคือคนไม่เห็นแก่ตัว แต่ผมขอแย้งว่าคนดีนั้นบันไดขั้นแรกคือ ต้องเห็นแก่ตัวเสียก่อน  ธ่อ...ตัวเองยังไม่ห่วง ไม่เห็น  แล้วจะมาอ้างว่าห่วงคนอื่น อมพระมาพูดผมก็ไม่เชื่อหรอก 


บางท่านว่าคนดีคือคนเสียสละ  ยอมทนทุกข์เพื่อคนอื่น เช่น พระพุทธเจ้า  แต่ผมว่าพพจ.ท่านไม่ได้เสียสละอะไรนักหรอก  ออกบวชก็เพื่อตัวเองหลุดพ้นเป็นหลัก  จะได้มีชีวิตอมตะ  เพราะกลัวตาย  นี่แสดงว่าท่านเห็นแก่ตัวก่อน พอบรรลุแล้ว เอาตัวรอดได้แล้ว  จึงเห็นแก่ผู้อื่น   (แบบนี้พอทน) 


คนดีไม่ขโมย  ...แล้วถ้าผมไปขโมยปืน m๗๙ ของโจรที่กำลังจะเข้ามายิงถล่มผู้ชุมนุมทางการเมืองโดยสันติล่ะ ผมจะเลวไหม


คนดีชอบทำบุญ...ธ่อ ทำบุญร้อยบาท แต่ขอตายแล้วไปสวรรค์ เกิดเป็นเทวดา  แบบนี้ค้ากำไรเกินควรไหม  ควรถูกจับติดคุกนรกเสียมากกว่า    แผนกคดีอาญานักเศรษฐกิจบุญนิยม 


คนดีปิดทองหลังพระ....แค่ปิดทองก็แย่แล้ว ไม่ว่าหน้าพระหรือหลังพระ เพราะมันเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ ....  โง่ปานนี้แล้วจะดีได้อย่างไร


มองไปแล้ว ต้นไม้เนี่ย มันดีมากเลยนะ  มันมีแต่ให้ ไม่เอาเปรียบอะไรใครเลย   แดดออกก็ทำงานกลั่นออกซิเจนมาให้เราหายใจฟรีโดยไม่เก็บเงิน  (แต่วันนี้พวกอียูมันจ้างให้ต้นไม้หายใจกันแล้ว  เรียกว่า carbon credit นี่มันกำลังติดสินบนต้นไม้ เลวได้ใจไหม)  ถ้าคนเราดีแบบต้นไม้เนี่ย มันก็น่ากราบแล้ว  แต่วันนี้แม้หาคนดีเท่าต้นไม้ยังยากเลย  ผักคะน้า ผักกาดขาว ก่อนกินเขา กราบหน่อยก็ดีนะ


ผมเลยแต่งคำขวัญไว้ว่า  “ใฝ่รู้ ใฝ่คิด ใฝ่ดี  คือวิถีของปัญญาชน”  อ้าว..แล้วดีคืออะไร???


ก็ต้องใฝ่คิด ใฝ่รู้กันต่อไปสิ

สำหรับผมเห็นว่าความดีสัมบูรณ์นั้นไม่อาจนิยามได้  เพราะความดีต้องเป็นแบบสัมพัทธ์เสมอ  ของบางอย่างคนบางคนในบางสังคมว่าดี แต่กลับเป็นการไม่ดีในสังคมอื่น เช่น การพูดจาโผงผาง ตรงไปมา เป็นต้น (ฝรั่งว่าดี ไทยว่าเลว)



อันความดีมีไว้ให้โลกสุข

หมดสิ้นทุกข์เป็นบันไดขั้นแรกหนอ

แต่ดีมากเกินไปอาจล้นคอ

ดีเพียงพอพอดีคงจะดี


ดีมากไประวังจะต้องแบก

จนเหงื่อแตกเหนื่อยล้าหน้าดำปี๋

แถมยังต้องเสรแสร้งแกล้งทำดี

ดีแบบนี้ไม่ดีเลยนะคุณ


ดีที่ดีต้องดีแบบดีดี

ไม่ซั้วซี้เห่อดีแบบวุ่นวุ่น

ต้องใฝ่รู้ใฝ่คิดจนจิตละมุน

เลิกหวังผลแห่งบุญของความดี



...คนเรานั้น รบกัน ตายเกลื่อนโลก เพราะยึดติดในความดีมากกว่าความชั่ว 

สงครามแทบทุกครั้ง รบกันเพราะฝ่ายหนึ่งอ้างว่า ดีกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง  เสื้อแดง เหลือง หลากสี ไม่มีสี รบกันวันนี้ ก็อีหรอบเดิม 


การรบเพียงครั้งเดียวที่นำสู่ความเศร้าสลดคือ การรบของพระเจ้าอโศก ที่รบชนะ ศพตายเกลื่อน แทนที่จะฉลองชัยชนะเหมือนคนอื่น  กลับสลดใจ แล้ววางอาวุธหันมาใฝ่รู้ ใฝ่คิด ค้นหาธรรมะ


แต่การรบกันมันก็จำเป็นนะ  เพราะมันเป็น ธรรม นั่นเอง  ถ้าไม่รบ อธรรมก็ครองเมือง แล้วธรรมคืออะไร ก็ลองไปหาอ่านเอา ในรามเกียรติ์ หรือ ภควัตคีตา  (ดนตรีแห่งพระเจ้า The Dance of Shiva) ก็ได้  โดยเราอาจเอา ธรรม ของเราเข้าไปสวมแทนในบริบทแห่งการรบ


ต้นไม้ที่ว่าดีนั้น มันก็รบกันนะ  ได้ยินเสียงดาบอันเงียบกริบไหม


...คนถางทาง  (๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕) 


หมายเลขบันทึก: 509948เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2012 09:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 20:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

 

 ได้ยินเสียงดาบอันเงียบกริบไหม
 
ไม่เคยได้ยินค่ะ
 
เป็นยังไงคะ ยิ้ม ๆ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท