แนวคิดในการทำงานเพื่อพัฒนาทรัพยากรและสังคมอย่างยั่งยืนนั้นเป็นที่เป็นงานใหญ่
ต้องอาศัยแนวคิด แนวทาง และแนวร่วม ที่มีประสบการณ์หลากหลาย กิจกรรมเชื่อมโยงกัน มีทิศทาง
และมีเป้าหมายชัดเจน จนกระทั่งมีพันธะกิจที่ชี้ชัดถึงเป้าหมายการแก้ปัญหาที่ผูกพันกันหลายๆปัจจัย
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพัฒนาหลายๆระดับพร้อมๆกัน
อย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน
เท่าที่ผมได้หารือกับทั้งระดับแกนนำเชิงแนวคิดที่ทำงานด้านนี้อยู่แล้ว
เพื่อนๆที่รู้ใจ และระดับลูกศิษย์ที่รับแนวคิดนี้ไปขยายผล ก็พบว่า
อาจพอจะแบ่งแยกนะดับกิจกรรมออกเป็นหลายลำดับชั้นดังนี้
1.
ระดับกิจกรรมย่อยที่สามารถปฏิบัติแบบเชื่องโยงกับเป้าหมายของการพัฒนาทรัพยากรและชุมชนท้องถิ่น
เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
2.
ระดับส่วนหนึ่งของการเรียนในบางวิชาที่ทำโดยกำหนดหัวข้อของการสอนเน้นไปถึงความจำเป็นของการพัฒนาชุมชนและทรัพยากร
ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้ออื่นๆที่สอนอยู่แล้ว
3.
ระดับวิชาที่สอน
ของหลักสูตรที่มีอยู่เดิม
สอนโดยบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในด้านทรัพยากรและชุมชนอย่างครอบคลุมในวิชานั้นๆ
4.
ระดับหลักสูตร
ของสถาบัน ที่จะมีทั้งวิชาต่างๆ
การปฏิบัติและการฝึกงานทั้งในและนอกสถานที่ให้สามารถพัฒนาบัณฑิต
ให้มีความพร้อมที่จะคืนถิ่นได้อย่างมีศักดิ์ศรี ทำงานเพื่อทั่งตนเอง ชุมชน สังคม
และทรัพยากรในท้องถิ่นได้
5.
ระดับสถาบัน องค์กร
ที่เป็นการทำงานแบบองค์รวม เพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกันให้บัณฑิตมีความสามารถหลากหลาย
ทำงานเชื่อมโยงและประสานกันได้ ที่จะทำให้การทำงานแต่ละส่วนมีความสะดวกมากขึ้น
ทั้ง 5 ระดับนี้
เป็นแนวทางที่สำคัญที่จะต้องสร้างความเข้าใจร่วมกัน และประสานงาน
สนับสนุนประคับประคองซึ่งกันและกัน ให้มีความมั่นใจ ชัดเจน ที่จะช่วยพัฒนาวิสัยทัศน์ให้แต่ละส่วนมีความชัดเจนมากขึ้น
ทั้งหมดเป็นเรื่องใหญ่
ต้องอาศัยความเข้าใจ และความร่วมมือหลากหลายระดับ
และหลากหลายองค์กรจึงจะสามารถขับเคลื่อนองคาพยพนี้ไปอย่างราบรื่น ที่เป็นเรื่องไม่ง่าย
แต่ก็ไม่ยากในการดำเนินการ ที่ต้องอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน
โดยอาศัยผู้ที่เคยดำเนินการอยู่แล้วเป็นตัวอย่างนำทาง
แล้วนำบทเรียนที่ได้มาปรับใช้ในสถานการณ์ใหม่ ความยากและความหนัก
ก็จะค่อยๆทุเลาเบาบางลงไป
ผมมองเห็นอย่างนี้
มีประสบการณ์อย่างนี้ ฝันและจะดำเนินการแบบนี้
ภายใต้เครือข่ายที่ผมมีอยู่ในปัจจุบันครับ
ทั้งหมดเป็นเรื่องใหญ่
ต้องอาศัยความเข้าใจ และความร่วมมือหลากหลายระดับ
และหลากหลายองค์กรจึงจะสามารถขับเคลื่อนองคาพยพนี้ไปอย่างราบรื่น ที่เป็นเรื่องไม่ง่าย
แต่ก็ไม่ยากในการดำเนินการ ที่ต้องอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน
โดยอาศัยผู้ที่เคยดำเนินการอยู่แล้วเป็นตัวอย่างนำทาง
แล้วนำบทเรียนที่ได้มาปรับใช้ในสถานการณ์ใหม่ ความยากและความหนัก
ก็จะค่อยๆทุเลาเบาบางลงไป
ผมมองเห็นอย่างนี้
มีประสบการณ์อย่างนี้ ฝันและจะดำเนินการแบบนี้
ภายใต้เครือข่ายที่ผมมีอยู่ในปัจจุบันครับ
...
สู้ สู้ ค่ะอาจารย์
กราบขอบพระคุณมากค่ะ