หนูเคยเพียงแค่ได้ยินครูเปรย ๆ ให้ฟังว่าสิ่งที่มาถึงมือครู มีแต่ของที่คนอื่นไม่เอา ของดี ๆ มักไม่ค่อยถึงมือครู ณ ตอนที่ฟังหนูก็ยังรู้สึกแย้ง ๆ อยู่ข้างในค่ะ เพราะสิ่งที่อยู่ในมือครู ดูงดงาม เพราะใจ ครูงาม
แต่พอมาวันทำโรงทานที่วัด อยู่ดี ๆ โต๊ะที่ครูจัดเตรียมไว้ หายไปพร้อม ๆ กันถึง 2 โต๊ะ หนูเองก็รู้สึกตกใจ อืมอาจจะไม่ขานาดนั้น แต่ต้องบอกว่า “หนูรู้สึกใจหาย”
หนูได้รับโอกาสกับน้องทุ่งให้ไปจัดหาโต๊ะ หนูกับน้องพยายามซ่อมโต๊ะที่พอใช้ได้ เอามามัด
แบบพอใช้งานได้ แต่สำหรับหนูตอนนั้นตั้งใจว่า “ทำให้ดีที่สุด”
บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ
ครูงดงาม
แต่สิ่งเหล่านี้ ก็ใช้ประโยชน์ได้ตามอัตภาพ
ภาพสะท้อนนี้ทำให้หนูรู้สึก “เข้าใจ ถ้อยความที่ครูเปรยให้ฟัง”
ท่านไม่เคยคร่ำครวญกับสิ่งที่ท่านได้รับ
ในทางกลับกัน ครูมักจะพลิกขยะ ให้มีคุณค่าอยู่เสมอ ๆ
ซึ่งหนูเองก็ไม่แตกจากจากขยะในมือครู
ค่อย ๆ ถูกชะล้าง เคาะ แคะ ทุบ ตอก ขัดเงา
จนพอจะใช้งานได้บ้าง
หากจะเปรียบ หนูดั่งขันเงินเก่า ๆ
หนูก็คงเป็นขันเงินโบราณที่เบี้ยว ๆ และมีรอยกระดำกระด่างเต็มไปหมด
ครูค่อย ๆ เคาะ ค่อยลนไฟ แล้วก็ตี ๆ แล้วก็ขัดไปเรื่อย ๆ
ขันเงินเก่า ๆ ก็พอที่จะเป็นขันที่ไม่เบี้ยวแล้วก็ดูเป็นขันขึ้นมาได้
ไม่ค่อยมีใครทราบว่าครูเหนื่อยยากแค่ไหน เพราะของที่เข้ามาในมือครูมาในสภาพ ติดลบ
ครูคือ ผู้อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จของสิ่งต่าง ๆ จริงๆ
รวมถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตหนูด้วย
จากขันเงินใบเบี้ยว ๆ ที่มีรอยบุบขาดรั่ว ครูก็ช่วยเมตตาให้ขันใบนี้ไร้รอยรั่วแล้วทำประโยชน์ได้งดงามย่างที่มันเป็น
ไม่มีความเห็น