แรงงานต่างด้าว AEC


แรงงานต่างด้าว

แรงงานต่างด้าว

ตามความหมาย ของพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 คนต่างด้าว หมายถึงบุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย

ปัจจุบันเราจึงเรียกพี่ๆน้องๆ แรงงานที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ( พม่า ลาว กัมพูชา ) ว่าแรงงานต่างด้าว สมัยแรกที่เรานำเข้าแรงงานกลุ่มนี้มาจากต่างประเทศใหม่ ๆ แบบเริ่มจะถูกกฎหมาย (สิบกว่าปีที่แล้ว) บริษัทเก่าที่ผมเคยทำงานด้วย เป็นบริษัทแรกๆ ที่นำเข้ามากลุ่มใหญ่ เพื่อมาทดแทนแรงงานชาวไทยที่เริ่มขาดแคลน

สมัยนั้นปัญหาเยอะมาก เริ่มจาก ที่อยู่ที่หลับนอน อาหารการกิน หยูกยา ปัจจัยปฐมพยาบาลในโรงงานของเราที่ไว้บริการเบื้องต้นสำหรับพี่น้องชาวต่างด้าว

            ผมจำได้ว่า อาการบางอาการ หรือโรคบางโรคเราก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไร เพราะการสื่อสารที่ไม่ค่อยจะตรงกันนัก รู้แต่ว่า ยาแก้สารพัดโรคของพวกเราอย่าง พาราเซตามอล หมดวันละ 1 กระปุกเป็นอย่างน้อย อีกยาหนึ่งที่จ่ายให้พนักงานทุกวันคือ ยาธาตุ  ซึ่งทั้งสองชนิดนี้ เป็นยาสามัญประจำแค้มป์ต่างด้าวของบริษัทเลยทีเดียว

            ตอนที่พาพี่น้องชาวมอญพม่าของเราไปรายงานตัวกับป้องกันจังหวัดอยุธยา เราออกเดินทางจากโรงงานตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปให้ถึงศูนย์ราชการในตัวจังหวัดก่อน 8 โมงเช้า รถสองแถวขนาดใหญ่กับกองกำลังต่างด้าวจำนวน 50 คนพอดีไม่ขาดไม่เกินมุ่งหน้าจากต่างอำเภอที่ห่างไกล เข้าสู่เมืองหลวงในอดีต ทำให้ผมนึกถึงตัวเองในขณะนั้น เหมือนได้พากองทัพแรงงานบุกเข้าสู่สมรภูมิรบอีกครั้ง พอถึงตัวเมืองที่มีซากปรักหักพังของเจดีย์เก่า และวัดวาอาราม พี่น้องชาวมอญพม่าของเราชี้ไม้ชี้มือ เหมือนสงสัย เหมือนตื่นเต้น หรือเหมือนอะไรซักอย่างที่ผมไม่เข้าใจ แต่ตอนนั้นผมแค้นและเศร้า พูดกับคนขับรถว่า เราชักศึกเข้าบ้านอีกครั้งรึเปล่า ดูสิ พวกเขาสะใจมากที่ได้มาเห็น ซากสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาได้เคยมาเผาทิ้ง   เราแกล้งคนงานพม่ารามัญพวกนี้เพื่อล้างแค้นให้นายจัน หนวดเขี้ยวกับชาวบ้านบางระจัน จะดีไหม  ลูกน้องผมหัวเราะแต่ไม่พูดอะไร เหมือนรู้ว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน

            และก็มีจริงๆ สิ่งที่มันเกิดขึ้นกลุ่มแรงงานต่างด้าวยุคแรกของผมก็เหมือนกับวงจรเวรกรรมที่หวนมากลั่นแกล้งเขาจริงๆ เพราะพนักงานผมทะเลาะกันทุกวันด้วยสารพัดเรื่อง ทำงานด้วยกันไม่เคยราบรื่น ของเสียมากมาย  ตกแผนผลิตทุกวัน คนงานขาดแคลนยิ่งกว่าเดิมอีก ทั้งๆ ที่นำเข้าต่างด้าวมามากมาย ที่สำคัญด้วยสภาพดินฟ้าอากาศและอาหารการกินที่แปลกไป ทำให้พนักงานหยุดงานลาป่วยทุกวัน ตามมาด้วยยาตรารวงข้าวที่ไม่แน่ใจว่า เมืองพม่ามีหรือเปล่า พอมาเจอที่อยุธยา พวกก็เล่นจนเพลิน เงินออกมาทีก็หยุดงาน 3 วันรวด เพราะเมาไม่ฟื้น  เรื่องชู้สาวที่พนักงานคนไทยชอบแก้มขาวๆ ที่ปะแป้งทานาคาจนลืมไปว่า แฟนเขาก็มาด้วย เลยมั่วนิ่มๆ เข้าไปอีก และเรื่องแพ้ท้อง มาทำงานได้เดือนเดียว พวกนึกว่ามาฮันนีมูน คู่สามีภรรยา 7 คู่ ท้องพร้อมกัน 6 ท้อง พระเจ้าช่วยต้องขับรถพาไปพวกท้องเกือบทุกอาทิตย์

 

รำลึกความหลังให้ฟัง ยังไม่แก่ แต่กันลืมก็เขียนไว้ ปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้นแล้วครับ แรงงานชาวพม่ารามัญ แขมร์ หรือหลวงพระบาง มีความเป็นมืออาชีพยิ่งกว่าเจ้าบ้านบางท่านเสียอีก รวมถึงการตื่นตัวต่อ AEC ที่กำลังจะมาถึง ว่าแต่ว่า  “แรงงานไทย พัฒนาไปถึงไหนแล้วครับ”

หมายเลขบันทึก: 501785เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2012 16:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 กันยายน 2012 16:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท