เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๘ ภาพยนตร์จากฝรั่งเศสเรื่อง Les Choristes (The Chorus) ได้ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปคว้ารางวัลออสการ์ด้านดนตรียอดเยี่ยมในสหรัฐ ด้วยฝีมือสร้างสรรค์ดนตรีของ Bruno Coulais
เนื้อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ย้อนอดีตไปไกลกว่าเจ็ดสิบปี ณ โรงเรียนสำหรับเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาส และเด็กมีปัญหาต่างๆแห่งหนึ่ง (น่าจะคล้ายกับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ของเรา) ครูแนะแนวซึ่งเป็นนักดนตรีเก่า ได้เห็นแววของเด็กหลายคนว่าน่าจะร้องเพลงได้ดี จึงตั้งวงขับร้องประสานเสียงของโรงเรียน (school chorus) ขึ้น ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากดนตรีดีจริงแล้ว เด็กที่แสดงเป็นตัวหลัก (นักร้องนำ) ของวงก็มีส่วนอยู่ด้วย เพราะเด็กชาย ฌอง-บาปติสต์ โมนิเอร์ ซึ่งแสดงเป็น มอคร็องจ์ นั้น เป็นนักร้องจริงๆอยู่ที่โบสถ์แซงต์ มาร์ก เมืองลียง และบิดาของเขาก็เคยเป็นนักร้องเด็กของสำนักนี้มาแล้วด้วย ทีแรก กูเลส์ ผู้ประพันธ์ดนตรีกะว่าจะใช้เฉพาะเสียงร้องของเด็กๆ จากสำนักแซงต์ มาร์กเท่านั้น แต่ผู้กำกับเห็นว่าบุคลิกของ โมนิเอร์ เข้ากับเรื่องได้ด้วย ทำให้ได้ผู้แสดงที่เป็นนักร้องจริงๆมาเล่น
หลังจากภาพยนตร์ได้รับรางวัลแล้ว เด็กๆ จากแซงต์ มาร์ก ได้ออกตระเวนแสดงคอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่องหลายที่ และได้ออกอัลบัมด้วย (ที่ผมได้มา ออกในปี ๒๕๔๙)
เพลงสำคัญของเรื่องนี้คือเพลง Vois sur ton chemin (Look on your path) ซึ่งมีเนื้อหาสอดคล้องกับชีวิตเด็กๆ ที่ด้อยโอกาสมาก บทร้องของเพลงนี้ถูกจัดทำเป็นคาราโอเกะผนวกไว้ในอัลบัมด้วย
Vois sur ton chemin Gamins oubliés égarés Donne leur la main pour les mener Vers autre lendemain
Sens au cœur de la nuit L’onde d’espoir Ardeur de la vie Sentier de gloire
Bonheurs enfantins Trop vite oubliés éfacés Une lumière d’orée brille sans fin Tout au bout du chemin
ด้วยความเสียดายความไพเราะของเพลง ผมจึงต้องแปลและเรียบเรียงแบบ จับบวชเป็นไทย ไปตามฉันทลักษณ์ของร่ายสุภาพ และตามความแตกต่างของโครงสร้างภาษา ซึ่งทำให้ไม่สามารถแปลแบบบรรทัดต่อบรรทัดได้ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (ดุษฎีบัณฑิตจากฝรั่งเศส)ด้วย ที่ให้ความรู้เพิ่มเติมด้านภาษาฝรั่งเศสจน หางอึ่ง ของผมยาวขึ้นพอที่จะบังอาจแปลจนได้
บนเส้นทางของเจ้า ยังมีเหล่าละอ่อน ผู้เร่ร่อนถูกลืม จงให้ยืมมือเจ้า จูงพวกเขาก้าวเดิน ไปเผชิญวันหน้า จงช่วยผู้อ่อนล้า ล่วงพ้นอนธกาล
กลางดึกยามราตรี ยังมีคลื่นความหวัง แลพลังชีวิต ทั้งกิตติวิถี ขอเพียงพลีจิตรู้ จึ่งจักเป็นเผ่าผู้ ผ่องพร้อมนรชน
ความสุขแห่งเยาว์วัย ดั่งแสงไฟที่ส่อง ทั่วแห่งห้องช่องทาง ให้สว่างชั่วกาล แล้วกลับพาลวูบดับ ฉับพลันฝันเปล่าร้าง ความมืดมนอ้างว้าง ขนาบล้อมทะลวงราญ
กลางดึกยามราตรี ยังมีคลื่นความหวัง แลพลังชีวิต ทั้งกิตติวิถี ขอเพียงพลีจิตรู้ จึ่งจักเป็นเผ่าผู้ ผ่องพร้อมนรชน ฯ
มาอ่านร่ายค่ะ ชอบค่ะ
อาจารย์คะ รบกวนขอผังร่ายบ้างสิคะ ขอบคุณล่วงหน้า
ถ้าเขียนได้แล้วขอรบกวนว่า จะมาส่งให้ตรวจด้วยค่ะ
:-)
ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะมาอ่านและให้กำลังใจครับ สำหรับคุณภูสุภา ผมทำแผนผังร่ายเสร็จแล้วแต่พอเอามา paste ลงมีแต่ตัวหนังสือ เส้นโยงสัมผัสไม่มาด้วยเลยสักเส้นครับ นี่เป็นอย่างที่สองที่ผมยังไม่รู้วิธีทำที่ได้ผล อย่างแรก(ที่ยังทำไม่สำเร็จ)คือเอาภาพมาลงอย่างท่านอื่นๆบ้างครับ ขอเป็นหนี้ไว้ก่อนนะครับ