แบบฝึกเปตอง


ผลการใช้แบบฝึกทักษะ

ชื่อเรื่อง               ผลการใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิ    

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2  โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาลเมืองทุ่งสง (วัดท่าแพ) อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

ผู้วิจัย                     นายพิชัย จรูญรัตน์

สถานที่ทำงาน     โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาลเมืองทุ่งสง (วัดท่าแพ) อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

ปีการศึกษา           2553

 

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้  เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง ( Quasi experimental design ) ชนิด One group pretest-posttest design  เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิ    ที่มีผลต่อความก้าวหน้าด้านความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกีฬาเปตองและสมาธิ  และทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองเรื่องการโยนลูก  ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2  โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาลเมืองทุ่งสง (วัดท่าแพ) อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชากรที่ศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาลเมืองทุ่งสง (วัดท่าแพ) อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ปีการศึกษา 2553  จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย  1)แผนการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พ 33101 กีฬาเปตอง   2)แบบฝึกสมาธิ   3)แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตอง เรื่อง การโยนลูก   4)เอกสารประกอบการสอนการฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตอง  5)แบบทดสอบความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกีฬาเปตองและสมาธิ      6)แบบประเมินทักษะการโยนลูกเปตอง  7)แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล  และ 8)แบบสำรวจสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยต่อกีฬาเปตอง    ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นและตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 5 ท่าน และหาความเที่ยงของแบบทดสอบ  โดยใช้สูตรคูเดอร์ ริชาร์ดสัน 20 (KR-20)  ซึ่งมีค่าความเที่ยงของแบบทดสอบ เท่ากับ 0.756   ส่วนแบบประเมินทักษะ   แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล  และแบบสำรวจสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยต่อกีฬาเปตอง    หาค่าความเที่ยงโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แอลฟาของครอนบาค  ซึ่งมีค่าเท่ากับ 0.851,0.762 และ 0.845  ตามลำดับ

                ผู้วิจัย ดำเนินการวิจัยโดยการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิ  เป็นเวลา  7  สัปดาห์ๆละ  1-2 คาบ  รวม 13 คาบ โดยทำการทดสอบความรู้และทักษะ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิโดยใช้แบบทดสอบชุดเดียวกัน  วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ระดับพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล   ระดับสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยต่อกีฬาเปตอง    และความก้าวหน้าของความรู้และทักษะ   ใช้สถิติทดสอบค่าที (Paired t-test)  เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้และทักษะก่อนและหลังการสอน  โดย กำหนดระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05  

ผลการวิจัยพบว่า

  1. การเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกีฬาเปตองและสมาธิ  ก่อนและหลัง

การใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิ  ในแต่ละด้านและโดยรวมทั้งสองด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  โดยมีความก้าวหน้าของคะแนนเฉลี่ยด้านความรู้เพิ่มขึ้นจากระดับพอใช้เป็นระดับดีทั้งโดยรวมและรายด้าน

  1. การเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองในการโยนลูกก่อนและหลังการใช้

แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิ  ในแต่ละด้าน     และโดยรวมทุกด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยคะแนนเฉลี่ยภายหลังการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิสูงกว่าก่อนการสอน  และมีค่าเฉลี่ยทักษะการโยนลูกเปตองเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับดีมากทุกทักษะ  ยกเว้น  ทักษะลำดับที่ 10 การโยนลูกปิรามิด   มีค่าเฉลี่ยทักษะการโยนลูกเปตองเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับดี  และเมื่อพิจารณาระดับคะแนนเฉลี่ยด้านทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองโดยรวมทุกด้าน  ก่อนและหลังการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตองในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิโดยรวม   มีคะแนนเฉลี่ยทักษะการโยนลูกเปตองเพิ่มขึ้นจากระดับดีมาก(=472.0  SD = 14.36 )เป็นระดับดีมาก  (=516.9  SD = 18.91 )       โดยมีความก้าวหน้าของคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5.63 ( đ = 44.9 )

  1. ระดับพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล      ในการใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬาเปตอง

ในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิในการเรียนแต่ละครั้งและโดยรวมทุกครั้งมีค่าอยู่ในระดับดีทั้ง 13 ครั้ง  โดยมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคลในการเรียนครั้งที่ 1 เรื่องการปฐมนิเทศ  มีค่าสูงสุด  (=9.27 SD = .80 )  และมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคลในการเรียนครั้งที่ 12  เรื่อง การโยนลูกแบบปิรามิด  มีค่าต่ำสุด  (=7.97  SD = .85 ) 

  1. ระดับสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยต่อกีฬาเปตอง   ในการใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานกีฬา

เปตองในการโยนลูกร่วมกับการฝึกสมาธิ    โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก  (=3.03  SD =.87 )  เมื่อพิจารณารายด้าน   พบว่านักเรียนส่วนใหญ่มีระดับสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยต่อกีฬาเปตอง  อยู่ในระดับดีมาก  โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุดในระดับดีมาก ในเรื่องที่เห็นว่าการเล่นเปตองเป็นการส่งเสริมและฝึกให้ผู้เล่นมีจิตใจเยือกเย็น สุขมรอบคอบ อารมณ์มั่นคงมีสมาธิ มีความเชื่อมั่นในตนเอง  (=3.61  SD = .60 )   และพบว่ามีค่าเฉลี่ยต่ำสุดในระดับพอใช้ ในด้านเห็นว่ากีฬาเปตองเป็นกีฬาที่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย (=1.67  SD = .63 )

คำสำคัญ (Tags): #แบบฝึกเปตอง
หมายเลขบันทึก: 500300เขียนเมื่อ 27 สิงหาคม 2012 19:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 16:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เปตอง....กีฬาดีมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท