รูปแบบการเรียนการสอนแบบมอนเตสเซอรี
(Montessori Method)
ในปัจจุบันเด็กปฐมวัยนั้นได้ถูกอบรมเลี้ยงดูมาในรูปแบบที่แตกต่างกันไปและรูปแบบการเรียนการสอนของมอนเตสเซอรีก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่นำมาใช้ในการเรียนการสอน
โรงเรียนที่ใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบมอนเตสเซอรีนั้นจะเน้นให้ “เด็กเรียนรู้ได้จากการคิดและซึมซับความรู้สึกสัมผัสด้วยการลงมือกระทำกิจกรรมอย่างเป็นระบบ” จากการสังเกตการสาธิตของครู และอุปกรณ์เป็นสื่อการสอนที่สำคัญที่ทำให้เด็กพัฒนาความรู้และความคิดอย่างมีระบบ มีเหตุผล
รูปแบบการเรียนการสอนของมอนเตสเซอรีนั้นต้องให้เด็กๆได้ หยิบ จับ คลำ ดม ลงมือปฏิบัติการเล่นกับอุปกรณ์และแก้ไขด้วยตนเอง โดยสังเกตการสาธิตจากครู เด็กสามารถที่จะเรียนรู้ได้โดยครูไม่จำเป็นต้องให้ข้อความรู้ ให้เด็กได้ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเองอย่างอิสระหากมีปัญหาครูจะให้คำแนะนำหรือสาธิตซ้ำ การเรียนรู้เช่นนี้จะทำให้เด็กเกิดการซึมซับ การคิดและการกระทำที่มีลำดับขั้น ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ และอุปกรณ์จึงเป็นสื่อการสอนที่สำคัญที่ทำให้เด็กพัฒนาความรู้และความคิดอย่างมีระบบ มีเหตุผล
อุปกรณ์การเรียนการสอนของมอนเตสซอรี่ ได้วางรูปแบบเอาไว้ให้เด็กได้ทำงานต่างๆ เป็นไปตามขั้นตอนจากง่ายไปหายาก โดยเริ่มจากซ้ายไปขวา เพื่อให้เด็กได้ซึมซับกับการปฏิบัติกิจกรรมจากซ้ายไปขวา ซึ่งเป็นพื้นฐานของการอ่านและการเขียน สำหรับอุปกรณ์นั้นจะมีเพียงอย่างละหนึ่งชิ้น เพื่อฝึกให้เด็กรู้จักการรอคอย เด็กจะมีสมาธิในการเล่นกับอุปกรณ์และมุ่งมั่นที่จะทำจนสำเร็จ
การจัดชั้นเรียนของมอนเตสซอรี จะคละเด็กโดยให้เด็กต่างอายุอยู่ในห้องเดียวกัน เพื่อเป็นการฝึกให้เด็กที่โตกว่าช่วยเหลือเด็กที่เล็กกว่า และเด็กจะได้มีโอกาสเรียนรู้การอยู่ร่วมกันและมีความสุขในการทำกิจกรรม ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นทำให้เด็กทำงานต่อไป
วิธีการสอนของรูปแบบมอนเตสเซอรี
การสอนสามขั้นตอน เป็นวิธีการที่ใช้สําหรับสอนความคิดรวบยอดใหม่ด้วยการทําซ้ำใช้กับการสาธิตขั้นต้น เมื่อเด็กไม่เข้าใจขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งจะต้องเริ่มสาธิตให้ดูใหม่ ครูต้องแน่ใจว่า เด็กเข้าใจในสิ่งที่ทําให้ดูแล้ว จึงจะดําเนินการขั้นต่อไป
วิธีการสอนสามขั้นตอน มีดังนี้
ขั้นแรก สังเกตเห็นลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้น ทําให้เชื่อมโยงสิ่งที่ครูสาธิตให้ดูกับชื่อของสิ่งนั้นได้ “นีคือ....”
ขั้นสอง สังเกตเห็นความแตกต่าง มั่นใจว่าเด็กเข้าใจ เมื่อบอกเด็กว่า “หยิบ....
ขั้นสาม เห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งของที่มีความคล้ายคลึงกัน ขั้นตอนนี้เพื่อที่จะได้ทราบว่าเด็กจําชื่อสิ่งต่างๆ ที่ครูสาธิตให้ดูได้หรือเปล่า เช่น ชี้ที่ของหลายๆ สิ่ง แล้วถามว่า “อันไหนคือ....”
ครูสาธิตให้เด็กดู
เด็กสามารถทำตามที่ครูสาธิตได้
เด็กทำกิจกรรมด้วยตนเองเกิดการเรียนรู้จาดประสาทสัมผัสทั้ง 5
และแก้ปัญหาด้วยตนเองอย่างเป็นระบบ
ดังนั้นรูปแบบการเรียนการสอนแบบมอนเตสเซอรีจึงเน้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 และให้เด็กเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองแก้ไขปัญหาด้วยตนเองอย่างมีระบบ มีเหตุผล
อ้างอิง
รศ.ดร.กุลยา ตันติผลาชีวะ. รูปแบบการเรียนการสอนปฐมวัยศึกษา. กรุงเทพ:โรงพิมพ์มิตรสัมพันธ์กราฟฟิค
นางสาว สมหญิง มั่นพันธ์
53531104031
ผมศึกษาเรื่องนี้แล้ว พบว่า การสอนแบบนี้ สื่อต้องพร้อม ครูต้องพร้อม ทั้งกายและใจ สิ่งแวดล้อมต้องดี มีเหล่านี้บวกวิธีสอนนี้ สำเร็จแน่ และเกิดประโยชน์ที่ตัวเด็กปฐมวัยมาก สพฐ.จะนำมาใช้กับประถมฯ ผมมองว่าไปไม่รอด ยกเว้นโรงเรียนอนุบาล หรือเอกชน คุณว่าไหม