เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา
จะกล่าวถึงกรุงศรีอยุธยา |
|
เป็นกรุงรัตนราชพระศาสนา |
มหาดิเรกอันเลิศล้น |
เป็นที่ปรากฏรจนา |
สรรเสริญอยุธยาทุกแห่งหน |
ทุกบุรีสีมามณฑล |
จบสกลลูกค้าวานิช |
ทุกประเทศสิบสองภาษา |
ย่อมมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาเป็นอัคนิด |
ประชาราษฎร์ปราศจากไภยพิศม์ |
ทั้งความพิกลจริตแลความทุกข์ |
ฝ่ายองค์พระบรมราชา |
ครองขันทสิมาเป็นศุข |
ด้วยพระกฤษฎีกาทำนุก |
จึ่งอยู่เย็นเป็นศุขสวัสดี |
เป็นที่อาไศรยแก่มนุษย์ในใต้หล้า |
เป็นที่อาไศรยแก่เทวาทุกราศรี |
ทุกนิกรนรชนมนตรี |
คะหะบดีชีพราหมณพฤฒา |
ประดุจดั่งศาลาอาไศรย |
ดั่งหนึ่งร่มพระไทรอันษาขา |
ประดุจหนึ่งแม่น้ำพระคงคา |
เป็นที่สิเนหาเมื่อกันดาน |
ด้วยพระเดชเดชาอานุภาพ |
อาจปราบไภรีทุกทิศาน |
ทุกประเทศเขตขัณท์บันดาล |
แต่งเครื่องบันนาการมานอบนบ |
กรุงศรีอยุทยานั้นสมบูรณ์ |
เพิ่มพูลด้วยพระเกรียศคะจรจบ |
อุดมบรมศุขทั้งแผ่นภิภพ |
จนคำรบศักราชได้สองพัน |
คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย |
จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น |
ด้วยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงทศมิตราชธรรม์ |
จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ |
คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ |
อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน |
มหาเมฆจะลุกเปนเพลิงกาล |
เกิดนิมิตพิศดารทุกบ้านเมือง |
พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก |
อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง |
ผีป่าก็จะวิ่งเข้ามาเมือง |
ผีเมืองจักวิ่งออกไพร |
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี |
พระกาฬกุลีจักเข้ามาเป็นไส้ |
พระธรณีจักตีอกไหม้ |
อกพระกาลจักเกรียมกรม |
อันพุทธทำนายนี้ไม่ผิดผัน |
ด้วยนิมิตอัศจรรย์ก็เห็นสม |
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม |
มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด |
มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้นฝูงคนจักตายพรายพัด |
มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติทั้งสิงสาราสัตว์จักร้อนรน |
|
|
ทั้งเทวดาบำรุงพระศาสนา |
จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล |
ทั้งสัปรุษก็จักแพ้แก่ทรชน |
มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก |
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว |
คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์ |
อันลูกศิษย์จักสู้ครูพัก |
จักหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย |
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ |
นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย |
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย |
น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม |
ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า |
เหล่าจัณฑาลจักเข้ามาสู่สม |
ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์ |
เพราะสมัคสมาคมด้วยพาลา |
พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสีหนาท |
ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา |
คนอาสัจจักเลื่องลือชา |
พระธรรมาจักตกลึกลับ |
ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ |
จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ |
ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์ |
สัปรุษก็จักอับซึ่งน้ำใจ |
จักถอยอายุทั้งเดือนปี |
ประเพณีจะแปรปรวนตามนิสัย |
ทั้งแผ่นดินก็จักผอมไข้ |
ผลหมากรากไม้จะถอยรส |
ทั้งแพศพรรว่านยาก็อาเพศ |
เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด |
จวงจันทน์พรรณไม้อันหอมรส |
จะถอยถดไปตามประเพณี |
ทั้งข้าวก็จะยากหมากจะแพง |
สารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่ |
จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี |
ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมปน |
ทุกประเทศราชธานี |
จักเกิดกาลกลีทุกแห่งหน |
จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล |
จะสาละวนทั่วโลกทั้งหญิงชาย |
จะร้อนอกสมณาประชาราช |
จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย |
จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย |
ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ |
ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบก |
เวียงวังก็จะรกเป็นป่าเสือ |
แต่สิงห์สารสัตว์เนื้อเบื้อ |
นั้นจะหลงหลอเหลือในแผ่นดิน |
ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลาย |
จะสาบสูญล้มตายเสียหมดสิ้น |
ด้วยพระกาลจะมาผลาญแผ่นดิน |
จะสูญสิ้นการณรงสงคราม |
กรุงศรีอยุทยาจะสูญแล้ว |
จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม |
ไปจนคำรบปีเดือนคืนยาม |
จนสิ้นนามศักราชห้าพัน |
กรุงศรีอยุทยาเขษมสุข |
แสนสนุกนิ์ยิ่งล้ำเมืองสวรรค์ |
จะเป็นแพศยาอาทัน |
นับวันจะเสื่อมสูญเอยฯ |
ส่วนเรื่องผู้แต่งนั้น ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัด เพียงแต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระนารายณ์มหาราช เพราะเรื่องราวเป็นเรื่องสำคัญระดับบ้านเมือง ยิ่งเป็นเรื่องโจษขานกันทุกยุคด้วยแล้ว ยิ่งต้องเป็นถ้อยคำจากผู้มีอิทธิพลในสังคม มากไปกว่านั้นศาสตร์การทำนายและการผูกเรื่องด้วยทักษะวรรณกรรมในระดับสูง
เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือหลักภาษาชั้นมัธยมศึกษาปีี่ที่ 3 หน้า 25 ครูพานักเรียนอ่านแล้ววิเคราะห์เปรียบเทียบว่าเรื่องใดเกิดขึ้นแล้ว ควรแก้ไขอย่างไร /เรื่องใดยังไม่เกิด ควรรักษาไว้อย่างไร และจะปฎิบัติตนอย่างไรในยุคปัจจุบันจนถึงอนาคต คำตอบที่ได้คือ
1. ฤดูกาลแปรปรวน แก้ไขโดยสร้างเทคโนโลยี(เขื่อน ชลประทาน คลองส่งน้ำเพื่อการเกษตรเป็นต้น)เพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อน จัดการน้ำให้ได้ใช้ในการเกษตรตลอดปี
2.คนดี(นักปราชญ์)ถูกเหยีบยย่ำ คนชั่วได้รับการยอมรับ แก้ไขโดยการสร้างค่านิยมส่งเสริมคนดีให้มีความเข้มแข็งไม่พ่ายแพ้ต่อความเลวร้ายทั้งปวง ยกย่องส่งเสริมคนดีให้มีอำนาจ
3.ประเพณีที่ดีงามผิดเพี้ยนไปตามค่านิยมของคนต่างชาติที่ถือว่าเจริญและปฏิบัติตามกันมาโดยไม่ยึดติดประเพณีดั้งเดิม แก้ไขโดยรื้อฟื้นประเพณีดั้งเดิมส่งเสริมให้เยาวชนรู้และเห็นคุณค่า ภูมิใจในวัฒนธรรมประเพณีที่ดีของตนเอง
4.เกิดโรคร้ายต่าง ๆที่ทำลายชีวิตผู้คนมากมาย แก้ไขโดยระวังรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ให้ความรู้เรื่องสุขอนามัย รู้เท่าทันโรคจะได้ป้องกันตัวเอง-ชุมชน ประเทศชาติได้
5.เกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ เพราะผู้คนขาดเมตตาต่อกัน แย่งชิงผลประโยชน์ที่คิดว่ามีค่า แก้ไขโดยให้คนรุ่นใหม่รู้จักคิดวิเคราะห์ มีค่านิยมที่สงบสุขพอเพียงไม่เบียดเบียนกัน
6.ศาสนาจะถูกย่ำยีให้หม่นหมอง แก้ไขโดยการบำรุงศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองนักบวชต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตนโดยเป็นที่พึ่งทางใจแก่ผู้ที่ทุกข์ทนทั้งหลายโดยไม่แยกศาสนาอื่น ๆ
กล่าวโดยสรุปสิ่งใดที่เกิดแล้วก็ให้รู้เท่าทันช่วยกันแก้ไขให้เป็นปกติ ส่วนเรื่องใดที่ยังไม่เกิดก็ให้ช่วยกันดูแลรักษาให้บริสุทธิ์ด้วยเป็นเรื่่องที่ทุกคนในสังคมมีส่วนในการรับผิดชอบร่วมกัน
ขอบคุณค่ะอาจารย์ขจิต สบายดีนะคะ *หลายประเด็นที่ท่านว่า...หนึ่งในนั้นคือ G2K และสมาชิกที่กำลังพยายามช่วยกันอยู่ ทุกคนเป็นกำลังใจให้กันถือเป็นประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวเราค่ะ