ชีวิตที่พอเพียง: ๑๖๐๙. เที่ยว กัวลาลัมโปร์


 

          คณะ retreat ของ สคส. เที่ยว KL สองวัน คือวันที่ ๑๓ - ๑๔ มิ.ย. ๕๕   เป็นการเที่ยวแบบมีไกด์ คือคุณริชาร์ด ไกด์มาเลย์เชื้อสายจีน อายุประมาณ ๕๐ ปีเศษ   พูดได้หลายภาษาและความรู้ดี    พูดภาษาไทยและร้องเพลงไทยได้ โดยหัดเองจากนักท่องเที่ยวไทย 

 

          ผมได้ความรู้จากคุณริชาร์ดมากทีเดียว   เพราะแกบอกเกร็ดความรู้มาก   เกี่ยวกับประเทศมาเลเซียและจีน   ที่ตื่นใจคือแกบอกว่าเวลานี้บ่อนการพนันใหญ่ที่สุดในโลกไม่ใช่เมือง ลาส เวกัส    แต่เป็นเมือง มาเก๊า     

 

          แกบอกว่าคนมาเลย์รู้ภาษาไทยดีกว่าคนไทยรู้ภาษามาเลย์   ทั้งๆ ที่ภาษามาเลย์ง่ายกว่า    แกยกตัวอย่างให้ฟังก็เห็นจริง    ดังคำว่า ยินดีต้อนรับ แปลว่า ซาลามัท ดาตัง, อรุณสวัสดิ์ แปลว่า ซาลามัท ปากี, สวัสดีตอนกลางวัน แปลว่า ซาลามัท ดาตัง,  ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ แปลว่า ซาลามัท จาลัน, จาลัน แปลว่า ไป เดินทาง หรือถนน, จาลันจาลัน แปลว่าเดินเล่นหรือไปเที่ยว

 

          แกบอกว่า คนมาเลเซียเรียกชื่อเมืองหลวงของเขาว่า กัวลาลัมโปร์   ไม่ใช่กัวลาลัมเปอร์ อย่างที่คนไทยเรียก   คนชาติอื่นๆ ก็เรียกชื่อลงท้ายด้วย โปร์ ทั้งนั้น

 

          แกใช้โอกาสการบรรยายสอนภาษามาเลย์ และภาษาอังกฤษให้แก่สาวๆ ชาว สคส. ด้วย   และตัวแกเองก็ได้เรียนภาษาไทยเพิ่มเติมด้วย

 

          ความสนใจ เอาใจใส่ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อการทำมาหากินหรือเพื่อการติดต่อค้าขายหรือทำกิจการร่วมกัน น่าจะเป็นเรื่องสำคัญของสังคมไทย    ที่วงการศึกษาไทยต้องเอาใจใส่

 

          ที่ศูนย์ราชการ ปุตรา จายา เราตื่นตาตื่นใจกับความกว้างขวางและการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม และออกแบบอาคารและสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะสะพาน ให้โอ่โถงกลมกลืนและแสดงความยิ่งใหญ่ ความภูมิใจในชาติ    คำว่าปุตรา แปลว่าเจ้าชาย   ถ้า ปุตรี ก็แปลว่าเจ้าหญิง    คุณริชาร์ดเล่าเรื่องการก่อสร้างอาคาร Petronas Twin Towers เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้คนรู้จักประเทศมาเลเซีย ที่คิดโดยนายกรัฐมนตรี ๒๒ ปี มหาธีร์ ซึ่งผมก็คิดว่าได้ผลจริงๆ    เรื่องใหญ่ทางการเมืองของเขาอยู่ที่การสร้างสรรค์ให้แก่บ้านเมือง เพื่อให้อยู่ในโลกได้อย่างภาคภูมิ   ในขณะที่การเมืองไทยเราเน้นรบกันเองภายในบ้าน

 

          ตอนไปเที่ยวศูนย์การค้าSuria สาวน้อยกับผมไปนั่งพักและชมความงามของสวนสาธารณะหลังอาคาร   ที่ทำเป็นพื้นที่สาธารณะ (public space) ใหญ่    มีลู่วิ่งออกกำลังกาย  มีที่นั่งพักผ่อน และชมน้ำพุเต้นระบำ   เราไม่สนใจสินค้าและร้านค้าเลย เพราะมันเหมือนๆ กันทั้งโลก    แต่ผมก็เริ่มสังเกตสถาปัตยกรรมเป็นบ้าง จากการหัดเรียนกับสามสถาปนิกของสถาบันอาศรมศิลป์ตอนไปอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว   ผมเริ่มมองศูนย์การค้าใหญ่ๆ เป็น public space ที่ไม่จำเป็นต้องไปซื้อของฟุ่มเฟือยและไม่จำเป็น   เราฝึกตนเองให้เห็นความไร้สาระของสินค้าแฟชั่นฟุ่มเฟือย   แล้วไปใช้พื้นที่สาธารณะนี้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น

 

        ออกจากศูนย์การค้า Suria ไปโรงแรม My Hotel ที่ย่าน Sentral ไม่ไกลแต่รถติด   ผ่านย่านไชน่า ทาวน์ ที่อาคารเก่า ๒ ชั้น ขาดการบำรุงรักษา    เมื่อเข้าห้องพักแล้วคณะหนุ่มสาวออกไปเที่ยวชมเมืองต่อ เพราะบริเวณนี้อยู่ใกล้ไชน่า ทาวน์ นั่งรถโมโนเรลไปสะดวก    และ ลิตเติล อินเดียก็อยู่ติดกัน    แต่สาวน้อยหมดแรงเสียแล้ว เราจึงแค่ออกไปกินอาหารที่ภัตตาคารจีน โลกฟัตต์ (Loke Fatt) ที่อยู่ใกล้ๆ

 

          เช้าวันที่ ๑๔ มิ.ย. เราตื่นตีสี่ไทยหรือตีห้ามาเลย์ตามความเคยชินของร่างกาย    พอหกโมงครึ่งมาเลย์ผมก็ออกไปวิ่ง    ฟ้าเพิ่งเริ่มสางแต่ยังต้องใช้ไฟถนนและทางเท้า    ผมวิ่งไปเจอ ลิตเติล อินเดีย ที่สถานที่โอ่โถงสวยงามสะอาด และทางเท้ากว้างมาก    ทางเท้าสองฟากถนนกว้างกว่าตัวถนนรถวิ่ง

 

          หลังกินอาหารเช้า  ล้อหมุนเวลา ๙.๓๐ น.   เนื่องจาก สคส. ติดต่อบริษัททัวร์ไทยให้ติดต่อเช่ารถทัวร์มาเลเซีย    เราจึงได้ไกด์คือคุณริชาร์ดติดมาด้วย   เพราะเขาบอกว่าเป็นกฎของมาเลเซียว่า รถทัวร์ที่นักท่องเที่ยวเกิน ๑๔ คน ต้องมีไกด์    และคุณริชาร์ดก็มาช่วยทำให้เราได้มี short city tour ใน KL เช้าวันนี้

 

          โดยเริ่มจากไปชมพระราชวังใหม่ ที่ค่าก่อสร้างสูงถึง ๘๐๐ ล้านริงกิต   ต่อด้วยการไปชมจตุรัสอิสรภาพ (Merdeka Square) ที่มีอาคารยุคโบราณสวยงามมาก คือ อาคารสุลต่าน อับดุลซามัด   อาคาร “หัวลำโพง” เก่าของมาเลเซีย ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นพิพิธภัณฑ์   อาคารโรงพิมพ์เก่า ที่เดี๋ยวนี้เป็นอาคาร Kuala Lumpur City Gallery (KLCG)อาคาร The Royal Selangor Club เป็นอาคารทรงทิวดอร์   เราเข้าไปชมภายในอาคาร City Gallery ที่มีนิทรรศการภาพเมืองกัวลาลัมโปร์สมัยเริ่มก่อตั้ง กับสมัยปัจจุบัน   และนิทรรศการศิลปะ The Arches

 

          หลังจากนั้น รถวนไปให้เราถ่ายรูปอาคาร Petronas Twin Towers ซึ่งเขาคุยว่าเป็นอาคารแฝดที่สูงที่สุดในโลก และมี ๘๘ ชั้น   ระหว่างทางเราผ่าน National Mosque หลังคาสีฟ้า ไม่เป็นโดมตามปกติ เป็นโดมทรงแหลมหยักๆ   จุคนถึงห้าหมื่น   นี่ก็เป็นจุดรวมใจคนอีกจุดหนึ่ง    แล้วไปร้านช็อกโกเลต ชื่อ Cocoa Boutique   ฟังคำบรรยายเรื่องสินค้าช็อกโกเลตปรุงรสหลากหลายแบบ   คุณริชาร์ดบอกว่า มาเลเซียผลิตโกโก้เป็นอันดับ ๕ ของโลก   จึงมียุทธศาสตร์สร้าง ผลิตภัณฑ์ช็อกโกเลตที่เป็นแบรนด์ของตนเอง   น่าชื่นชมความฉลาดของนักการเมืองมาเลย์   เขาพยายามไม่ขายผลิตภัณฑ์เกษตรในลักษณะ primary product   แต่หาทางเพิ่มมูลค่า เป็นสินค้าราคาสูง

 

          หลังจากนั้น เราไปกินอาหารเที่ยงที่ศูนย์การค้าPavilion ที่มี food court อยู่ชั้นใต้ดินใหญ่มาก ผมกินข้าวหน้าเป็ดย่าง   สาวน้อยกินบะหมี่เกี๊ยวสองคน ๑๖ ริงกิตกว่าๆ   อาหารตาม food court ในศูนย์การค้าราคาไม่แพง

 

          อิ่มหมีพีมันแล้วรถพาเราขึ้นทางด่วนระยะทาง ๑๕๐ ก.ม. ตรงสู่มะละกา    คุณริชาร์ดคุยว่าทางด่วนมาเลย์ดีมาก นั่งเรียบ หลับสบาย   ซึ่งผมก็เห็นจริง   น่าจะเป็นเพราะคนขับขับรถแบบมีวินัยด้วย

 

          เราแวะที่พักระหว่างทางเพื่อเข้าห้องน้ำและพักผ่อน   ไปเห็นนักท่องเทียวมาเลเซียซื้อทุเรียนฉีกกินกันอย่างเอร็ดอร่อย   รวมทั้งฉีกเปลือกมะม่วงสุกผลโตแทะกิน    ผลไม้ที่นี่ราคาสูง เช่นมังคุดกิโลละ ๑๐ ริงกิต

 

วิจารณ์ พานิช

๑๘ มิ.ย. ๕๕

 

 มัสยิด ปุตรา


 

 โดมของมัสยิด ปุตรา ถ่ายจากมุมใกล้


 

 สาวน้อยกับสะพานวิสัยทัศน์ ทางซ้ายของสะพานคือมัสยิด ปุตรา จายา


 

 มัสยิดสีน้ำเงิน


 

สาวๆ ไปปีนถ้ำบาตู


 

 พื้นที่สาธารณะสำหรับคนนั่งพักผ่อนหลังศูนย์การค้า Suria


 

 ลู่วิ่งยามเช้าใน เคแอล โปรดสังเกตว่าทุกถนนเอื้อเฟื้อต่อคนตาบอด


 

 สะพานข้ามถนนมีลิฟท์


 

 วิ่งไปพบ ลิตเติ้ลอินเดีย ทางเท้ากว้างกว่าถนน


 

บอนไซสวยที่หน้าวังใหม่ของพระราชา


 

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 495928เขียนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2012 11:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2012 11:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท