ผู้เขียนได้เขียนเรื่องความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี ซึ่งบัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พ.ศ. 2481 ใน มาตรา 5 อันมีความว่า "ถ้าจะต้องใช้กฎหมายต่างประเทศบังคับ ให้ใช้กฎหมายนั้นเพียงที่ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนชาวสยาม" มาถึง 2 ครั้งแล้ว
ในครั้งนี้ผู้เขียนจะพาเที่ยวต่างประเทศบ้าง ประเทศญี่ปุ่นได้บัญญัติไว้ใน มาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมาย หรือ ACT Concerning the Application of Laws ค.ศ. 1989 ว่า " In the case where the law of a foreign country is to govern and application of the provisions in such law in contrary to public order and good morals, such provisions shall not apply.
จากบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าบัญญัติไว้คล้ายคลึงกันมากทีเดียว แต่ผู้อ่านต้องตั้งข้อสังเกตุว่าถึงแม้บทบัญญัติจะมีเนื้อหาเหมือนกัน แต่ในประเด็นว่าเรื่องใดขัดหรือไม่ขัดกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับ จารีตประเพณี วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ของแต่ละประเทศ ซึ่งแตกต่างกันออกไป อาทิเช่น ความสมบูรณ์ของการแต่งงาน สำหรับประเทศไทย การแต่งงานจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนกันถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องมีการทำพิธีทางศาสนาหรือไม่
แต่ในบางประเทศ จะต้องมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาด้วยจึงจะถือว่าสมบูรณ์
สวัสดีค่ะ,
คุณพรพรรณพูดถึงตัวกม.ที่เรียกว่า Conflicts ใช่ไหมคะ
น่าสนใจเหมือนกันค่ะ บังเอิญเคยเรียนป.โทด้าน Private International Law มาตอนอยู่อเมริกาเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะทิ้งไปเป็นชาติแล้วน่ะนะคะ
แล้วก็บังเอิญตอนนี้กำลังสนใจเรื่องเกี่ยวกับสังคมญี่ปุ่นอยู่พอดี
Public Order ของญี่ปุ่น นั้น เป็นไปได้ว่ามีที่มายาวนานมากเลยล่ะค่ะ แต่ก็อาจจะสะท้อนให้เห็นได้ในตัวรัฐธรรมนูญ
ตอนอยู่ญี่ปุ่นเคยได้อ่านข่าวที่เกี่ยวกับการบังคับคดีต่าง ๆ ของญี่ปุ่นในเชิงที่เกี่ยวกับสังคมบ้างเหมือนกันค่ะ ด้วยความสนใจเฉย ๆ ไม่ได้ลงลึกด้านกม.
แต่เท่าที่เห็น ญี่ปุ่นค่อนข้างอนุรักษ์สูงมากเลยนะคะ ทุกวันนี้ก็ยังตีความรัฐธรรมนูญแบบค่อนข้างอนุรักษ์อยู่มาก ๆ เลย
เพราะฉะนั้น ที่ตั้งคำถามไว้ในประโยคเด่น ตัวเองก็ตอบไม่ได้หรอกค่ะ แค่แวะเข้ามาคิดด้วยคนเล่น ๆ ว่า คงต้องดูที่รัฐธรรมนูญเขา แล้วก็ตีความแบบอนุรักษ์เอาไว้ก่อนน่ะค่ะ สำหรับความหมายของ Public Order
สวัสดีค่ะ,
ณัชร