"เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์...กับฮอนด้า"


เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์

"เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์...กับฮอนด้า"

            โลกถือกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลาถึง 4600 ล้านปี โลกใบนี้ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่มหัศจรรย์ต่างๆ มากมาย การที่ลูกอุกกาบาตขนาดยักษ์พุ่งเข้าชนโลกเป็นเหตุให้ทะเลและมหาสมุทรเหือดแห้ง โลกเริ่มเย็นลงจนจับตัวเป็นน้ำแข็งคล้ายก้อนหิมะ การเกิดภูเขาไฟระเบิดที่ทำลายล้างสิ่งมีชีวิตไปเกือบหมดโลก และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่าง ๆ มากมาย  ทำให้
บรรพบุรุษของเราต้องดิ้นรนต่อสู้กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเหล่านี้  จนวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ยุคใหม่ในปัจจุบัน
ตอน...ดวงดาวแห่งการทำลายล้าง – ปริศนาการกำเนิดชีวิต
- บริวารของโลก คือ ดวงจันทร์
- การเกิดระบบดาวเคราะห์โลกและดวงจันทร์
- บริวารของโลกทุกวันนี้ เป็นผลมาจากการชนกันของดาวเคราะห์ต้นแบบจำนวนหนึ่ง
- การที่โลกมีขนาดใหญ่ขึ้นนั้นเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับชีวิตที่จะเจริญต่อไป
- จากการสำรวจครั้งล่าสุดพบว่า ดาวอังคารเคยมีมหาสมุทรมาก่อน ตอนก่อกำเนิดขึ้นใหม่ๆ ระยะห่างระหว่างดวงอาทิตย์นั้นเหมาะที่จะให้สิ่งมีชีวิตได้อาศัยอยู่ แต่มหาสมุทนในดาวอังคารหมดไปเพราะ ดาวอังคารไม่ได้ขยายใหญ่ขึ้นตอนก่อกำเนิดขึ้นครั้งแรก แรงดึงดูดอ่อนจนไม่สามารถเก็บมหาสมุทรและความอุดมสมบูรณ์ไว้ในพื้นผิวได้
- ถ้าโลกยังมีขนาดเล็กก็คงจะแห้งแล้งเหมือนดาวอังคารในปัจจุบัน
- โลกและดาวอังคารมีขาดต่างกัน
- ขนาดของโลกมีแรงดึงดูดมากพอที่จะทำให้สามารถเก็บมหาสมุทรให้อยู่บนพื้นผิวโลกได้และเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิต
- กรีนแลนด์มีน้ำแข็งปกคลุมมากกว่า 80% ตลอดทั้งปี
- อีซัวร์ ดินแดนที่อยู่ระหว่างธารน้ำแข็ง ภาษาพื้นเมือง แปลว่า แผ่นดินจรดน้ำแข็ง มีแนวหินเก่าแก่ที่สุดบนผืนโลก อายุประมาณ 3800 ล้านปี ลักษณะเป็นแนวหินสีดำ พบสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ที่สุดในโลก โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า คาร์บอนที่พบในแนวหินเก่านี้เป็นสารที่สำคัญ เป็นบล็อกที่ก่อสร้างจุลชีพเมื่อ 3800 ล้านปีก่อน
- ดร.มินิค รอสซิง (นักธรณีวิทยา) เชื่อว่ามีลักษณะคล้ายแบคทีเรียในปัจจุบัน
- มนุษย์วิวัฒนาการขึ้นในเวลากว่า 4000 ล้านปี
สรุป
            โลกเกิดขึ้นมาแล้วเป็นเวลาถึง 4600 ล้านปี  ช่วงแรก สิ่งมีชีวิตบนโลกเป็นเพียงแค่จุลินทรีย์ที่มีขนาดเล็กกว่า 1 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นในมหาสมุทร และกระจายสู่ที่ต่าง ๆ และบ้างก็อยู่ลึกไปสู่ใต้ดิน ในอดีตลูกอุกกาบาตขนาดยักษ์พุ่งเข้าชนโลกมากกว่า 6 ครั้ง ทำให้โลกต้องถูกปกคลุมด้วยไอหินที่มีความร้อนอันบ้าคลั่ง มหาสมุทรซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตก็ไม่สามารถรอดพ้นจากหายนะภัยครั้งนี้ได้ มันเดือดระอุและระเหยจนเหือดแห้ง ซึ่งได้ทำลายกวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ก่อตัวในมหาสมุทรไป แต่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินนั้นยังคงอยู่รอด ถึงแม้เหตุการณ์การระเหยทั้งหมดจะทำให้ดาวเคราะห์กลายเป็นลูกบอลไฟขนาดยักษ์ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปไอหินจะสามารถหายไป และอุณหภูมิจะค่อย ๆ ลดลง

            การระเหยของน้ำทะเล ในที่สุด ก็จะเกิดการควบแน่นกลายเป็นฝนที่เชี่ยวกราดไหลลงสู่อ่างมหาสมุทรอันว่างเปล่า ณ จุดหนึ่งของเวลา โลกใหม่ของมหาสมุทรก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง และลึกลงไปใต้พื้นมหาสมุทรนั้นเอง จะมีจุลินทรีย์มากมายที่ดำรงชีวิตอยู่รวมถึงบรรพบุรุษของมนุษย์ แม้จะมีขนาดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ด้วยการยืนหยัดของชีวิต พวกเขาค้นหาทุกสถานที่ที่เป็นไปได้ที่จะอาศัยและดำรงชีวิตอยู่ และด้วยการผจญภัยของพวกเขานั้นเอง วงล้อแห่งวิวัฒนาการ ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเราได้ดำเนินผ่านมา 4600  ล้านปี ก็จะเริ่มต้นขึ้นและเริ่มหมุนอีกครั้ง
ตอน...วิกฤตยุคโลกก้อนหิมะ – มิติซับซ้อนของต้นกำเนิดมนุษย์
 - ลาวาที่แข็งตัวเมื่อ 2200 ล้านปีมาแล้ว (กลายเป็นหิน)
- ลาวาที่หลอมละลายจะไหลไปในมิศทางเดียวกับขั้วแม่เหล็กของโลกเหมือนเข็มทิส
- เมื่อลาวาเย็นตัวลงแล้วทิศทางแม่เหล็กจะคงที่และถาวร
- การกำหนดจุดที่ทิศทางของลาวาทำมุมตรงกันกับทิศทางแรงแม่เหล็กของโลกก็จะกำหนดเส้นรุ้งของลาวาสถานที่ที่ลาวาเย็นตัวลงได้อย่างถูกต้อง
- ในอดีตบริเวรใกล้เส้นศูนย์สูตรนั้นเคยมีธารน้ำแข็งปกคลุมมาก่อน
- ภัยพิบัติจากการที่โลกเป็นน้ำแข็ง จะเกิดขึ้น 2 ยุค ในประวัติศษสตร์โลก ระหว่าง 800-600 ล้านปี และ ในราว 2200 ล้านปี มาแล้ว
- ถ้ามองในอวกาศจะเห็นโลกเป็นก้อนหิมะขนาดมหึมาลอยอยู่ในอากาศ
- สาหร่ายทะเลและแพลงตอนพืชที่ใช้แสงในการสังเคราะห์อาหารมาสามารถอยู่ได้โดยไม่มีแสง
- เมื่อ 2000 ล้านปีก่อน เชื่อกันว่ามีจุลินทรีย์ที่เรียกว่า เมทาโนเจน อยู่ทั่วไปใต้มหาสมุทร มันปล่อยก๊าซมีเทนออกมา ขณะที่ย่อยสารอินทรีย์เป็นอาหาร
- ก๊าซมีเทนทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้มากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ หลายคนเชื่อว่า มีเทน ให้ความอบอุ่นแก่โลกแทนคาร์บอนไดออกไซด์
- เกิดไซยาโนแบคทีเรีย ใช้แสงสังเคราะห์ ปล่อยออกซิเจนสู่อากาศ บรรยากาศโลกจำนวนมหาศาล ทำให้มีเทนในอากาศลดลงและหมดไปในที่สุด เมื่อโลกเย็นลงก็จะเกิดยุคหิมะโดยเร็ว
สรุป
            ณ สองช่วงเวลาในประวัติศาสตร์โลก คือ เมื่อ 600 ล้านปีก่อน และ 2200 ล้านปีก่อน โลกได้ถูกกลบฝังอยู่ภายในน้ำแข็ง ซึ่งมีลักษณะเหมือนลูกบอลหิมะขนาดยักษ์ พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งหนาเหมือนกับดินแดนแอนตาร์กติก้าในปัจจุบัน น้ำทะเลเย็นยะเยือกกลายเป็นน้ำแข็งจนถึงระดับความลึก 1,000 เมตร   ในช่วงนี้บรรพบุรุษของมนุษย์ยังคงเป็นแบคทีเรียที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นประมาณพันเท่าเมื่อเทียบกับขนาดที่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งหลังจากสภาวะโลกกลายเป็นลูกบอลหิมะได้สิ้นสุดลง บรรพบุรุษของมนุษย์ก็สร้างวิวัฒนาการอันยิ่งใหญ่แบบก้าวกระโดดไกลไปจากสิ่งมีชีวิตในรูปแบบอื่น ๆ

สิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้วิวัฒนาการไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตซึ่งอยู่รอดจากสภาวะโลกเป็นลูกบอลหิมะทั้งสองครั้งได้ทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้ พร้อมที่จะเริ่มบทบาทใหม่ในประวัติศาสตร์ของตัวมัน และมนุษย์ คือ ผลพวงจากวิวัฒนาการนั้น ๆ
ตอน...จากมหาสมุทรสู่แม่น้ำแห่งชีวิต - วิวัฒน์เพื่อการอยู่รอด
            โลกเมื่อประมาณ 450 ล้านปีก่อน ไม่มีสัตว์หรือพืชชนิดใดที่อาศัยอยู่บนผืนดิน พื้นดินเป็นดั่งโลกอันแห้งแล้งที่มีเพียงทะเลทรายครอบคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล ในทางตรงกันข้ามมหาสมุทรเป็นโลกที่อุดม ไปด้วยสิ่งมีชีวิต บรรพบุรุษของมนุษย์ในอดีตกาลเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายปลาในยุคดึกดำบรรพ์ แต่เมื่อแผ่นดินทวีปเริ่มเคลื่อนที่และมหาสมุทรเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตเริ่มถูกผลักดันออกมาสู่พื้นดิน และต่อมาพื้นดินแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นเวทีใหญ่แห่งการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตซึ่งนำไปสู่มนุษย์ในที่สุด พืชได้ย้ายไปสู่พื้นดินก่อนพวกสัตว์ และปกคลุมพื้นผิวดินไว้ บรรพบุรุษของเราได้จากมหาสมุทรและย้ายไปสู่โลกใหม่ของน้ำจืดซึ่งในภาวะแวดล้อมที่อุดมไปด้วยน้ำจืดใหม่นี้ พวกสัตว์เริ่มที่จะใช้ชีวิตด้วยการก้าวสู่พื้นดินด้วยวิธีการต่าง ๆ กันไป เริ่มพัฒนาการหายใจด้วยปอด เริ่มมีมือและเท้าซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้สิ่งมีชีวิตกระจายออกจากมหาสมุทรไปสู่แหล่งที่อยู่อาศัยเกือบจะทุกแห่งรวมทั้งพื้นดินและท้องฟ้า

 

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : http://www.phuketdata.net/main/index.php?option=com_content&task=view&id=176&Itemid=1

หมายเลขบันทึก: 493214เขียนเมื่อ 3 กรกฎาคม 2012 06:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม 2012 19:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

บันทึกและจับใจความได้ระเอียดดีมากเลยครับ

(_) ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยนะคะอาจารย์ (_)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท