ตอนที่ ๔.๑ ใช้เทคโนโลยีมือถือให้เป็นประโยชน์
แอร๊ยะ...คำคำนี้ได้มาจากภาษาวัยรุ่นในอินเตอร์เน็ต จ๊ากว่ามันแปลว่าอีหยังก็บ่รู้ (ไม่รู้ความหมาย) สงสัยมันคงมาจากคำว่า ไอ้ย๊า (นึกถึงเวลาหนังจีนกำลังควบม้าวิ่งไล่กวดกันอยู่)เด็กๆแอบเล่นเฟสบุ๊คในคาบเรียน เพราะว่าแทบทุกคนมีมือถือกันทั้งนั้น ครูไทบ้านของเราก็มีนะจ๊ะเด็กๆ ครูมีรุ่นโน-เกีย เอ๊กเพร๊สมูวสิก สีขาว(เอ๊ะ!สีขาวจริงไหมน้อ ไงมันสีออกเหลืองอมครีมละเนี่ย ) เด็กๆวัยรุ่นเห่อตามดารา ตามกระแสสมัยนิยม เปลี่ยนมือถือกันว่าเล่น ชนิดที่ว่าอดข้าว ทานมือถือแทนยังได้เลย เด็กๆบอกว่า
“คุณครู.. มือถือเปลี่ยนใหม่ได้แล้วนะครับ” เด็กๆเว้าวอน
“ทำไมต้องเปลี่ยนด้วยหล่ะลูกของครูยังใช้ได้อยู่เลยนะเนี่ย โทรออก โทรเข้า” ครูน้อยโอดครวญ
“ของอาจารย์ตกยุคแล้วแหละค่า ..ถ่ายรูปก็ไม่ได้.. แชทก็ไม่ได้” เด็กประชด
“แหม..ลูกก็ว่าไปได้ ของครูน่ะถ่ายรูปได้ เล่นเน็ตก็ได้ แต่อาจจะช้านิดหน่อย ก็เท่านั้น” ครูอธิบาย
“แต่ว่าอาจารย์ใช้เครื่องนี้ตั้งแต่ผมอยู่ม.๑ เลยนะครับ ผมจำได้ ว่าก่อนหน้านี้มันสีขาว แต่ตอนนี้สีมันไม่ขาวแล้วครับ เปลี่ยนเหอะครับ” เด็กชายเมื่อ๓ปีที่แล้วอ้างเหตุผล
“ไหนๆ รุ่นไหนกันที่พวกเธอว่าดีนักหนา เล่ามาสิ” ครูเริ่มฉุน
ครูเถียงไม่สู้เด็กเลยสีหน้าถอดพร้อมกับมาแสดงไซน์โชว์ “พวกเธอดูมือถือครูนะ...ตุ๊บ..ตุ๊บ (เสียงครูปล่อยมือถือเข้าสู่ศูนย์กลางของโลก ในระยะที่แรง g เท่ากับ ๙.๘ พอดีเป๊ะ)” โทรศัพท์เหมือนกับสภาพที่โรงงานกำลังจะประกอบแต่ชิ้นส่วนของมันวางอยู่แบบกระจายอย่างไร้เอนโทรปี้
เด็กๆงง ว่าทำไมครูถึงกล้านัก “คุณครูไม่กลัวมันพังเหรอคะ” สาวที่ขี้เหร่ที่สุดในห้องถาม (เด็กคนนี้ชื่อสุนทรีลักษณ์ แต่ผมมักจะเรียกเธอว่า สุนทรีลึก เพราะแกไร้อารมณ์ ตอนเขาขำ แกไม่ขำ พอไม่ขำแกกลับขำคนเดียวซะงั้น)
“ครูไม่ได้เป็นทาสของมือถือ ครูเป็นผู้ใช้ไม่ใช่ผู้ถูกใช้เหมือนเราบางคน” ครูเริ่มแรงส์..
“อาจารย์แน่จริง! เอาทิ้งน้ำในห้องน้ำเลย โทดรศัพท์มันเป็นของนอกกาย” เด็กยั๊วะ
“เอาของเธอมาด้วยครูจะยอมทดลองดู ” (ฮฮ..ฮ่า)ครูชนะ ๑ ประตูต่อ ๐
“แอร๊ยะ.." ......
ไม่มีความเห็น