ประโยคที่ผู้คนทั่วไปกล่าวกันว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" ยังใช้ได้ในชีวิตของเขาชื่อ สล่าจั๋น.....
คำว่าสล่า(อ่านว่า สะหล่า)หมายถึงนายช่างสร้างบ้านให้ผู้คนได้อยู่อาศัย....
มาวันนี้ มีแม่หม้ายลูกติดได้ว่าจ้างให้สล่าจั๋นไปสร้างหอผีปู่ย่าขึ้นหลังใหม่แทนหอผีปู่ย่าหลังเดิมที่ทรุดโทรม...
หอผีปู่ย่าหลังเดิมหันหน้าไปทางทิศเหนือและมีบันไดหักผุพังไปมากเพราะมอดปลวกต่างมาร่วมกันแทะเล็ม พร้อมกับหญิงแม่หม้ายฝันว่าแม่ย่าของนางมาบอกว่าอยากได้บ้านหลังใหม่ขอให้หญิงหม้ายทำให้ด้วยแล้วจะช่วยให้มีชีวิตดีขึ้น...
ด้วยความเชื่อว่า ผีปู่ย่าหรือผีบรรพบุรุษต้องรักลูกหลาน ญาติเครือ หญิงหม้ายจึงว่าจ้างให้สล่าจั๋นไปรื้อหอผีปู่ย่าเก่าออกไป ออกแบบใหม่สวยงามตามศิลปะล้านนา มีกาแล มุงด้วยแป้นเกล็ด(แผ่นไม้)สูงเมตรครึ่ง กว้างสองเมตรยาวสามเมตร ด้านหน้าหอมีชานยื่นออกมา ถัดเข้าไปมีประตูปิดเปิดเข้าสู่ห้องหอใหญ่ แต่เจ้าของบอกว่าหอใหม่ขอให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตกจะดีกว่าเพราะเป็นทางเข้าวางเครื่องสังเวยได้ง่าย.....
สล่า(ช่าง)จั๋นก็ทำตามเจ้าของบอกจนแล้วเสร็จสวยงามยิ่ง ผู้คนมาเห็นต่างชมกันว่าเหมือนบ้านหลังเล็กๆน่าจะให้คนขึ้นไปอาศัยอยู่ได้..เหมาะแล้วที่ผีปู่ย่าหรือผีบรรพบุรุษได้มาอาศัยปกป้องคุ้มครองลูกหลานญาติๆ....
หลังจากรับเงินค่าจ้างเสร็จ สล่าจั๋นกลับบ้าน แวะข้างทางพาพวกสล่าดื่มเหล้ายาดองพอแก้เหนื่อยหลังจากนั้นต่างคนต่างวกลับบ้าน
ตกดึกมีคนเห็นสล่าจั๋นนอนซมข้างถนนโคนต้นขนุนที่ปากประตูบ้าน จึงร้องเรียกให้ภรรยาสล่ามาเอาเข้าบ้าน....
รุ่งขึ้นสล่าจั๋นได้สติ..บอกเล่าแก่ภรรยาว่า ขณะที่จะเข้าบ้านเกิดวูบลงและฝันเห็นผู้หญิงชรามาบอกให้เปิดประตูบ้าน เพราะไม่สามารถจะเข้าบ้านที่สร้างใหม่ได้....
สล่าจั๋นจึงไปหาลูกน้องพากันไปที่หอผีปู่ย่า พบเห็นว่าประตูหอผีปู่ย่าปิดจริงๆ....จึงบอกให้เจ้าของเปิดไว้เหตุการณ์ทุกอย่างกลับเป็นปกติดังเดิม แถมพกด้วยหญิงหม้ายเจ้าของหอผีปู่ย่าถูกหวยใต้ดินได้เงินเลขหกหลัก สร้างความปีติยินดีอย่างยิ่ง....
อยู่ต่อมาไม่นานสล่าจั๋นกลับมีอาการผิดปกติอีก ไปดื่มเหล้ายาดองเหมือนปกติก่อนๆมา..แต่ค่ำนี้สล่าจั๋นหมดสตินอนข้างถนนทางเข้าหมู่บ้านผู้คนต้องรีบพากันหามเข้าบ้าน..พอตื่นขึ้นสล่าจั๋นก็บอกว่ามีแม่เฒ่าชราคนเดิมมาบอกให้เปิดประตูหอผีปู่ย่าหลังเดิม หาไม่แล้วเขาจะต้องตาย.....
สล่าจั๋นจึงพาลูกน้ิองกลับไปบ้านหญิงหม้ายนั้นอีกพบว่า ประตูหอผีปู่ย่าปิดไว้เขาจึงบอกให้หญิงหม้ายเปิดประตูหอผีเอาไว้... แต่หญิงหม้ายเจ้าของบอกว่าถ้าเปิดประะตู มันมีพวกแมวพากันขึ้นไปอยู่ไปขี้บนหอผีปู่ย่าจึงต้องปิด..
เหตุการณ์อย่างนี้เป็นอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า..เมื่อปิดประตูหอผีปู้ย่าเมื่อใด...สล่าจั๋นต้องมีอันเป็นไปทุกครั้ง....
สล่าจั๋นจึงนำสวยข้าวตอกดอกไม้ไปไหว้ขมาโทษที่อาจล่วงเกิน พลันในจิตคิดได้ว่า หญิงหม้ายบอกให้หันหน้าศาลไปทางทิศตะวันตกซึ่งผิดจากหน้าศาลเดิมที่หันไปทางเหนือ.....เขาจึงช่วยกันยกเบ่นหน้า(หันหน้า)ศาลไปทางทิศเหนือดังเดิม..พร้อมกับเปิดประตูหอผีปู่ย่าตลอดเวลา...
ตั้งแต่นั้นมา..สล่าจั๋นไม่มีอาการผิดปกติ..ไม่ฝันเห็นหญิงชรามาบอกกล่าวโทษอีกต่อไป..แม้จะดื่มเหล้ายาดองหมดโหล....
ผู้คนต่างพูดกันว่า...การกระทำในสิ่งเหนือธรรมชาติต้องให้ความเคารพไม่ว่าจะมีจริงหรือไม่ก็ตาม.....หาไม่แล้วอาจตายก่อนเวลาอันควร....คนล้านนาบอกว่า มันต๋ายก่อนเฒ่า....เน้อหมู่เฮา....
พลังจิตเป็นเรื่องเหนือวิทยาศาสตร์ที่เราต้องร่วมกันค้นหาและพิสูจน์กันต่อไป....
ไหว้สาและขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้กำลังใจครับ....
เรื่องหลายๆเรื่องที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายไเราใจชีวิตจริงยังมีอยู่มากครับ...
ช่วยกันศึกษาหน่อยเพื่อเราจะได่กระจ่างกัีนเสียทีเนาะ....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา
สวัสดีเจ้า
พลังจิตเป็นเรื่องเหนือวิทยาศาสตร์ น่าคิดเนาะเจ้า
สวัสดีครับครูดาหลา.....
นานนักแกที่ไม่ได้พบกัน..ขอบคุณที่เข้ามาแวะอ่านครับ....
พลังจิตมีจริงครับเพียงแต่เ้ราจะถึงหรือไม่..
ขอบคุณครับ.....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา