เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ผมและทีมงาน ได้ไปร่วมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการลดต้นทุนการผลิตข้าว ของกลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองกอง หมู่๔ ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองกำแพงเพชร ซึ่งทีมงานเราได้มีการนัดหมายสมาชิกศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองกอง ไว้ล่วงหน้าแล้ว ช่วงเริ่มแรกของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งนี้ เราได้ทักทายกันพร้อมสร้างความคุ้นเคยกันไปด้วย หรือหากจะพูดกันง่ายๆก็คือการละลายพฤติกรรมกันก่อน เพื่อที่จะเข้าสู่ประเด็นของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในครั้งนี้ อย่างมีอารมณ์ร่วมกัน คือมุ่งหวังได้ทั้งงานและได้ทั้งบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนควบคู่กันไปนั่นเองครับ
ความจริงแล้วทีมงานของเรา ก็ได้ออกแบบกระบวนการกันไว้ก่อนแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ สถานการณ์จริง ก็ต้องปรับกระบวนการใหม่เพื่อให้เป็นไปตามสถานการณ์นั้นๆของช่วงเวลาขณะนั้น เน้นการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระตรงไปตรงมา ในลำดับต่อมา เราต้องการที่จะปรับแนวคิด หรือวิธีการคิดของเกษตรกร ให้เข้าใจถึงการบันทึกรายละเอียดของต้นทุนการผลิตข้าวฤดูนาปี ๒๕๕๕ ว่ามีต้นทุนสูงหรือไม่ และมีปัจจัยตัวไหนบ้างที่ทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวต่อไร่สูง แต่ส่วนของข้อมูลเราต้องการข้อมูลในการทำนาในรอบที่ผ่านมาว่ามีการลงทุนอะไรไปบ้าง โดยเราต้องสะท้อนข้อมูลจริงให้แก่สมาชิกที่มาร่วมเวทีในครั้งนี้ ได้เห็น ได้รู้และได้รับทราบไปพร้อมๆกัน พูดง่ายก็ทำการวิเคราะห์และเปรียบเทียบไปพร้อมๆกับเกษตรกรแต่ก็เปิดโอกาสให้เกษตรกรได้นำประสบการณ์ของตนเองมาแลกเปลี่ยนกันด้วย
จากนั้นทีมงานของเราก็ได้มอบหมายให้คุณสิงห์ป่าสัก(อ.วีรยุทธ์ สมป่าสัก ) ได้จับประเด็นคือทำหน้าเป็นคุณลิขิต โดยใช้เครื่องมือกระดาษฟางปิดที่กระดาน คุณลิขิตอีกคนหนึ่งก็คือ น้องนันทมาส ทองปลี (นวส. มือใหม่) ได้ฝึกจับประเด็นโดยบันทึกข้อมูลลงในสมุดไว้ด้วยอีกทางหนึ่ง สำหรับผมทำหน้าที่เป็น คุณอำนวย ในเวทีนี้โดยชวนคุย พร้อมตั้งคำถาม เพื่อให้เกษตรกรที่ร่วมเวทีเป็นคนตอบพร้อมแลกเปลี่ยนครับ
สำหรับข้อมูลที่ได้จากบันทึกและจับประเด็น ส่วนใหญ่เราจะถามเรื่องของขั้นตอนการทำนา พร้อมรายจ่ายในการลงทุนแต่ละขั้นตอน โดยข้อสรุปออกมาเป็นภาพรวมของกลุ่ม เมื่อเกษตรกรที่เข้าร่วมให้ข้อมูลหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันมาตั้งแต่ต้นแล้ว รู้ขั้นตอน รู้วิธีคิดคำนวณ การลงทุน(ต้นทุนต่อไร่) แล้ว จากการสังเกตทุกคนพอใจที่ได้ทราบข้อมูลของตนเองในภาพรวมของกลุ่ม
จากนั้นเราได้ใช้แบบเก็บข้อมูล ให้สมาชิกทุกรายได้ทำการกรอกข้อมูลการลงทุนต่อไร่ของตนเอง โดยให้เวลาเกษตรกรในการคิดและทำการกรอกข้อมูลพอสมควร เมื่อทุกคนได้ทำการกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ทางคุณสิงห์ป่าสักและน้องนันทมาส ก็ได้รวบรวมข้อมูล โดยสรุปภาพรวมให้รู้ว่า ต้นทุนต่อไร่เป็นเท่าไร และมีปัจจัยตัวไหนที่ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อไร่สูง พอสรุปได้ดังนี้
ประการสำคัญที่เราเห็นเด่นชัดของการใช้ปัจจัยการผลิตของกลุ่มนี้ พบว่ามีการใช้ปุ๋ยเคมีผิดสูตร รวมทั้งอัตราการใช้ก็ค่อนข้างสูง โดยไม่มีการอิงเกณฑ์ของผลการตรวจวิเคราะห์ดินในแปลงนา ว่าดินในแปลงนาของตนเอง มีธาตุอาหาร N-P-K เท่าใด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้เกษตรกร ได้เก็บตัวอย่างดินในแปลงนาของตนเอง มาทำการตรวจวิเคราะห์ธาตุอาหารในดินเสียก่อน แล้วจะต้องแนะนำให้เกษตรกรใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ และใส่ตามอัตราแนะนำ เพื่อเป็นแนวทางการลดต้นทุนการผลิตข้าวได้อีกทางหนึ่ง หรือที่เราเรียกกันว่า ปุ๋ยสั่งตัดนั่นเองครับ
สำหรับการเก็บตัวอย่างดินในแปลงนา ทางทีมงานก็ต้องช่วยเหลือทางกลุ่มคือต้องนำตัวอย่างดินที่พี่น้องเกษตรเก็บมา เพื่อไปขอความร่วมมือจากสถานีพัฒนาจังหวัดกำแพงเพชร ได้ทำการตรวจวิเคราะห์ธาตุอาหารต่อไป เพราะคิดว่าในฤดูกาลทำนาครั้งนี้คงจะทัน เพราะว่า เขตพื้นที่ทำนาของหมู่๔ บ้านหนองกอง ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร อยู่นอกเขตชลประทานหรือเขตพื้นที่อาศัยน้ำฝน นั่นเอง ขณะนี้ส่วนใหญ่ยังมีการพักดินกันอยู่ ครับ
อ.สิงห์ป่าสักสรุปบทเรียน เก็บตัวอย่างไปวิเคราะห์ธาตุอาหาร
ท้ายสุดจากความตั้งใจของทีมงานในการลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ ชุมชน หรือลงไปสัมผัสกับพี่น้องเกษตรกรโดยตรง ทำให้เราได้รับทราบข้อมูล ที่เป็นข้อเท็จจริงอยู่ไม่น้อย อย่างน้อยๆเราก็เข้าใจในการดำเนินชีวิตในการประกอบอาชีพทางการเกษตรของเกษตรกร และนอกจากนี้เราต้องการที่ศึกษาลักษณะแบบกรณีศึกษา โดยค้นหาโจทย์ในการวิจัยในงานประจำต่อไป นอกจากนั้นเราก็ได้นัดหมายที่จะพบกันอีกในเวทีครั้งต่อไปครับ
เขียวมรกต
๒๕ พค.๕๕