นางสาวยุพิน ปัญญาประชุม รหัสนักศึกษา 55421231115
บทความจากวิทยานิพนธ์
ชื่อเรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่องสิ่งเสพติดให้โทษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือรูปแบบ STAD กับวิธีสอนแบบปกติ
ชื่อผู้วิจัย นภาพร สมบูรณสุข
การที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นบุคคลที่มีความสามารถนั้นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนากระบวนการเรียนการสอนให้ทันต่อเหตุการณ์ โดยการจัดการเรียนการสอนนั้นจะต้องมุ่งเน้นที่ทรัพยากรบุคคลเป็นสำคัญ จากการสอนวิชาสุขศึกษาที่ผ่านมาประสบปัญหาต่างๆ ดังที่สุชาติ โสมประยูร(2542:17)ได้สรุปสาเหตุดังนี้คือครูใช้วิธีสอนแบบบรรยายโดยให้นักเรียนฟังและจดบันทึก ใช้วิธีสอนแบบครูเป็นศูนย์กลาง จากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้นักเรียนไม่สนใจเรียน เบื่อหน่ายไม่เห็นความสำคัญของการเรียน
ในการวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่องสิ่งเสพติดให้โทษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือรูปแบบ STAD กับวิธีสอนแบบปกติ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระบุรี เขต 2 จำนวน 140 คน กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนวัดคลองไทร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระบุรี เขต 2 ได้จาก การสุ่มแบบเจาะจง (Purposive or Judgment Sampling) จำนวน 56 คน และจับสลากเลือกกลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มที่เรียนโดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือรูปแบบ STAD กับกลุ่มที่เรียนโดยวิธีสอนแบบปกติ กลุ่มละ 28 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Windows Version 12.0 เพื่อหาค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าสถิติ t-test
จากผลการศึกษาพบว่า
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่องสิ่งเสพติดให้โทษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้วิธีสอนแบร่วมมือรูปแบบ STAD ส่วนใหญ่ร้อยละ 92.86 ได้ คะแนนความก้าวหน้าสูงขึ้นจากคะแนนพื้นฐาน มีเพียงร้อยละ 7.14 ที่ได้คะแนนความก้าวหน้าต่ำจากคะแนนพื้นฐาน
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่องสิ่งเสพติดให้โทษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือรูปแบบ STAD สูงกว่าวิธีสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ไม่มีความเห็น