ระบบกับคน…อะไรสำคัญกว่ากัน


รัฐธรรมนูญusaที่เป็นที่ชื่นชมและเป็นแบบอย่างกันไปทั่วโลกนั้น ยกร่างด้วยมือของคนเพียงคนเดียว คือ James Madison

ชาวบ้านเถียงกันมานานว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้   ส่วนชาวเมือง (ที่ยังไม่รู้ว่าพัฒนามาจากลิงหรือก้าวกระโดดมาจากไก่) ก็เถียงกันมานานพอสมควรว่าระหว่างระบบกับคนอะไรสำคัญกว่ากัน

 

ประเทศไทยเราวันนี้ (หรือแม้แต่โลก) มีคนอยู่สองพวก พวกหนึ่งว่าถ้าระบบดีเสียแล้วไม่ว่าคนจะดีหรือเลวสังคมและการเมืองมันก็ดีไปเองแหละ ส่วนอีกพวกบอกว่าต้องสร้างคนก่อน เมื่อคนดีเสียแล้วระบบมันจะดีหรือเลวอย่างไรก็ไม่มีผล

 

โดยเฉพาะในเรื่องของการเมืองไทย มีการถกเถียงกันมาก กลาดเกลื่อนในทุกระดับ ตั้งแต่ร้านเหล้ายาดอง จนถึงกาลาดินเนอร์ ตั้งแต่หน้าบ้านผู้ใหญ่ที่ด๊อกวิ่งไปมาไปจนถึงเวทีการประชุมระดับนานาชาติที่ด๊อคใส่แว่นตาเต็มพรืด ต่างถกกันหน้าดำคร่ำเครียดว่าระบบหรือคนกันแน่ที่จะสร้างชาติไทยให้เจริญ (รวย?)

 

ผมเชื่อว่าแท้จริงแล้ว สองสิ่งนี้มันเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน เพราะถ้าคนไม่ดี ไฉนเลยจะมาวางระบบให้ดีได้ และถ้าระบบไม่ดีไฉนเลยคนมันจะดีไปได้ เช่น ในระบบของหมู่โจรเป็นไปได้หรือว่าจู่ๆลูกของพวกมันจะเกิดมาเป็นพระอรหันต์ได้ ส่วนในระบบของพระแม้แรกเริ่มคนดีทั้งนั้นแต่ถ้าไม่มีการวางระบบที่ดีพระดีๆก็อาจกลายเป็นอลัชชีไปได้ดังเช่นในหมู่อรหันต์ชาวพุทธที่มีจำนวนมากมายหลายพันในสมัยพุทธกาลแต่ทำไมสงฆ์ไทยทุกวันนี้จึงกลายเป็นอลัชชีเสียส่วนใหญ่

 

การที่ตำรวจไทยไม่ดี...โกงกิน รีดไถ ข่มขู่ นั้น เราต่างพากันด่าตำรวจ เพราะการด่าคนอื่นมันเป็นกระบวนการปลดปล่อยความเครียดที่ลงทุนน้อยที่สุดแต่ได้ผลเฉพาะตนมากที่สุด แต่เราไม่เคยด่าตัวเราเองเลยว่า เราคนไทยทุกคนต่างมีส่วนรับผิดชอบในการสร้าง”ระบบ”สังคมที่บีบคั้นให้ตำรวจของเราต้องกลายเป็นแบบนั้น  ซึ่งไม่ต่างอะไรกับพวก ข้าราชการทุกกระทรวง  นักวิชาการทุกมหาลัย  รวมทั้งนักการเมืองทุกพรรค

 

ระบอบทักษิณ เกิดขึ้นมาได้ในสังคม เราต่างก็พากันด่าทักษิณ แต่หาได้ตระหนักไม่ว่าถ้าไม่มีทักษิณ มันก็ต้องเกิดระบอบนายก. ระบอบนางข. ขึ้นมาจนได้ ซึ่งอาจเลวร้ายกว่าระบอบทักษิณเสียอีก ทั้งนี้เพราะ “คน” ไทยเรา “ไม่ดี” จนปล่อยปะละเลยให้ระบอบเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้ และอย่าลืมด้วยว่าคนพวกนี้ก็มิได้แปลงร่างมาจากสัตว์สกุลใดโดยฉับพลัน ก็คือคนไทยเราด้วยกันนี่แหละที่เกิดโตเรียนหล่อหลอมมาในสังคมไทย

 

ในระหว่างรอยต่อของ “คน”(จำนวนมาก) และ “ระบบ” นั้น เราลืมนึกไปถึง “ปัจเจกชน”  แม้เพียงคนเดียวที่อาจพลิกโลก พลิกฟ้าพลิกดินได้มาก หากลองหวนย้อนมองอดีตดูก็จะเห็นว่า คนเพียงคนเดียวสามารถเปลี่ยนโลกเปลี่ยนสังคม เปลี่ยนคนทั้งโลก เปลี่ยนระบบทั้งหลายได้หมด

 

ขอยกตัวอย่างว่า แม้แพียง “คนคนเดียว” ก็เปลี่ยนโลกได้มากกว่า “คนทั้งโลก” เช่น สิทธทัตถะ โคตะมะ แห่งลุมพินี - จีสัส ไครสต์แห่งนาซาเรท์ - และโมฮัมหมัดแห่งเมดินา  เป็นต้น - รวมทั้ง มหาตมะ คานธี  อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และพระเจ้าตากสิน  นี่ว่าแต่ฝ่ายหนึ่ง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็มีมาก เช่นเอล็กซานเดอร์ ฮิตเลอร์ เลนิน เหมา  หลุย วิตตอง เอลวิส มาดอนน่า และทักษิณ เป็นต้น ....สรุปคือ ทิศทางของสังคมโลกของคนทั้งโลกนี้ถูกกำหนดโดยคน “เพียงไม่กี่คน” เท่านั้นเอง  ซึ่งมันเป็น”ระบบ” ย่อยๆ ในตัวของมันเอง

 

สิ่งเพียงเล็กน้อย...ที่ไม่น้อยจนเกินไป...คือสิ่งที่กำหนด “ส่วนใหญ่” เสมอ ผิดกันแต่ว่าสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้เป็นสิ่งดีหรือเลว ถ้าดีก็ดีไปหมด แต่ถ้าเลว ก็เลวไปหมด

 

เสียดายแต่ว่า ยังมีคน “คนเดียว”  “อีกจำนวนมาก” ที่มีความคิดดีๆ แต่ไม่เคยได้มีโอกาสสร้างผลกระทบในวงกว้าง ดังนั้น ถ้าเราเพียงสร้างกลไก (ไม่อยากเรียกว่าระบบ) ให้พวกเขาเหล่านั้นมีสิทธิได้ส่งเสียงให้ดังได้ มันอาจเป็นทางรอดของประเทศและโลกเราก็เป็นได้

 

เช่น ในยุคนี้เป็นยุคอินเตอร์เน็ทแล้วแต่หน่วยงานรัฐบาลที่วางนโยบาย ระดับรัฐบาล กระทรวง กรม ยังไม่เปิดรับข้อคิดความเห็นของประชาชนทางเว็บไซต์เลย คงกลัวจะได้รับความเห็นดีๆ จนเอาไปปฏิบัติไม่ได้ การร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาสองฉบับก็ไม่เปิดรับฟังความเห็นทางเว็บไซต์ หรืออีเมล์ก็ยังดี

 

 

เชื่อหรือไม่ว่า รัฐธรรมนูญusaที่เป็นที่ชื่นชมและเป็นแบบอย่างกันไปทั่วโลกนั้น ยกร่างด้วยมือของคนเพียงคนเดียว คือ James Madison กลายมาเป็น”ระบบ” ปชต. ที่นำพา usa ขึ้นเป็นมหาอำนาจโลกได้ แต่คนไทยเราก็จะอ้างกันมั่วๆว่าคนในประเทศเขาดี เอาระบบอะไรมามันก็ดีเสมอ

 

.... ส่วนรธน.ของไทยเรา โดยเฉพาะฉบับปี 2540 ที่ยกย่องกันหนักหนา (ยกเว้นผมที่วิจารณ์สาดเสียมาโดยตลอด) ร่างกันมาอย่างเป็น “ระบบ” แล้วทำไมมันถึงได้สร้างระบอบทักษิณขึ้นมาได้ แล้วทำไมขจัดการซื้อเสียงไม่ได้ (ก็อ้างกันว่าคน “ไทย” มันเลวอีกตามเคย)

 

ระบบดีกับคนดี..อันไหนควรเกิดก่อนกัน ถ้าให้ผมตอบก็ขอตอบว่า อย่าไปเสียเวลาคิดให้หนักสมองเลยครับ ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด พัฒนาตนเป็นลำดับ สนใจสวัสดิภาพสังคมรอบข้างตามสมควร (อย่านิ่งดูดาย) และอย่าก้มหัวให้อธรรม  

 

ทำเพียงแค่นี้ ผมเชื่อว่าทั้งคนและระบบมันจะดีของมันเองตามธรรมชาติ

 

.......คนถางทาง (๒๘ มีนาคม ๒๕๕๕)

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 483468เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2012 05:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 21:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

ถ้าคนดีมีอยู่มากๆ

ระบบดีจะดียิ่งๆขึ้นนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ถ้าคนดี ซะอย่าง ระบบก็ดีตาม อย่างเมืองไทยเรา ต่อให้ระบบ ดีเลิศประเสริฐศรี แต่หากคนไม่ดี มาเป็นผู้นำ ก็แย่ ซ้ำซาก เช่นเดิม

...

ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด พัฒนาตนเป็นลำดับ สนใจสวัสดิภาพสังคมรอบข้างตามสมควร (อย่านิ่งดูดาย) และอย่าก้มหัวให้อธรรม

...

คนดีแท้ คือ คนที่กล้าต่อสู้ เพื่อความถูกต้อง บนพื้นฐานส่วนรวม ประโยชน์ร่วมโลก ชาติ สังคม ชุมชน ครอบครัว และตัวเอง ต้องมาสุดท้าย ตามลำดับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท