เยียวยาด้วยหัวใจและปัญญาในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
จากหัวเรื่องข้างต้น...เป็นประเด็นที่เราใช้ร่วมกันเสวนาในงาน "การประชุมวิชาการโรคมะเร็งแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๑ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ภายใต้หัวข้อ
"Bridging cancer research to optimized cancer care and control"
วันที่ ๑๔-๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๕
ณ โรงแรมรามากาเด้นท์
โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และศูนย์มะเร็วส่วนภูมิภาค กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
Healing by Wisdom and Mind in Cancer Patients
Cancer is chronic disease effecting patients and caregivers’ body, mind, spiritual, and psychosocial. Patient will face suffering physically because of disease pathology; they will also have to face the uncertainties of life, fear of death, health anxiety, and family relationship. Cancer patients’ life styles have been changed to dependent on others. So that their esteem decline and lack of encouragement. Consequently, patients feel discourage, hopeless and boredom. Caring cancer patients need efficiency holistic care covering all perspective that decline patients suffering and enhance quality of life during illness and the end of life.
However, cancer patients are treated with advanced technology that we aim to manage overcoming disease and illness. We try to treat patients with more processes than healing patients by wisdom and heart. Wisdom illustrates to understand the nature of illness and individual. Moreover, we have to bow our gentle heart for caring patients and caregiver. Healing cancer patient require both knowledge of science and art that delicate balance of holistic approach for caring illness people with chronic disease.
Wisdom is the thoughtfulness that illustrates understanding of knowing the cause of suffering. Then exploit the thoughtfulness for caring cancer patients with holistic approach. The process in the Buddha’s teaching about how to analysis problem is based on the “Four Noble Truths” that is consistent the conventional medicine for exacting diagnosis, analyzing the cause of problems and the cessation of problems. However, the Four Noble Truths can apply on the boarding view for cessation suffering in cancer patients that they have to living with people , natural , environment, and other factors for well being together.
The gospel mind is the principles for good behave those health personnel must have for monitor performing of them. The principle of mind in the Buddha’s teaching is Brahmavihara , nurse, and caregiver must approach cancer patients with unconditional love, sympathy, empathy, benevolence (metta), compassion (karuna), joy in the accomplishments of a person (mutida), and learning to accept loss and gain, praise and blame, and success and failure, all with detachment, equally, for oneself and for others (upeksa).
Healing by wisdom and mind is the elegant of a person, a term and an organization for caring illness people with thoughtfulness and love. This healing emphasize holistic approach that not only treating diseases but also eliminating the suffering that association with other factors. We aim to expand the living for well being and happiness in varieties status of our life that are happiness on the process of birth, old, illness and death.
การเยียวยาด้วยปัญญาและหัวใจในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
“Healing by Wisdom and Mind in Cancer Patients”
มะเร็งเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยและญาติทั้งทางร่างกาย จิตวิญญาณ อารมณ์ สังคม และเศรษกิจ ผู้ป่วยนอกจากจะเผชิญความทุกข์ทรมานด้านร่างกายเนื่องจากพยาธิสภาพของโรคแล้ว ยังจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของชีวิต หวาดกลัวกับความตาย วิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง หน้าที่การงาน สัมพันธภาพในครอบครัว แผนการดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงที่ต้องพึ่งพาผู้อื่น ความรู้สึกมีคุณค่าของชีวิตลดลง ขาดกำลังใจ ทำให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกหมดหวัง เศร้าโศก ท้อแท้ เบื่อหน่าย การดูแลผู้ป่วยมะเร็งจึงต้องการดูแลที่มีประสิทธิภาพอย่างเป็นองค์รวม ครอบคลุมทุกมิติเพื่อให้ ผู้ป่วยมีความทุกข์น้อยลงและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นในขณะเจ็บป่วยและระยะสุดท้ายของชีวิต
การรักษามะเร็งในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เราต่างมุ่งจัดการที่ไปในทิศทางของความเอาชนะโรคและความเจ็บป่วย พยายามที่จะเข้าไปแก้ไขจัดการอันเป็นกระบวนการที่เป็นเลิศมากเกินไปกว่าที่จะ เยียวยาด้วย “ปัญญา” ที่แสดงถึงความเข้าใจในธรรมชาติแห่งความเจ็บป่วยของปัจจเจกบุคคล และน้อม “ใจ” ลงให้อ่อนโยนในการดูแลผู้ป่วยและญาติ งานรักษาเยียวยาผู้ป่วยมะเร็งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทั้งองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และศิลปะศาสตร์ที่มีความละเอียดอ่อนและมีความสมดุลอย่างเป็นองค์รวมเพื่อการเยียวยาเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
ปัญญา คือความรู้คิด ที่แสดงถึงความรู้ถึงเหตุถึงผล รู้อย่างชัดเจนโดยเข้าใจ และสามารถใช้ความรู้ความเข้าใจปัญหา เพื่อการดูแลเยียวยาผู้ป่วยอย่างเป็นองค์รวม กระบวนการหลักที่ใช้ในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาตามแนวพุทธคือ หลักอริยสัจสี่ คือการหา ปัญหา สาเหตุของปัญหา มองหาเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้น และวิธีแก้ปัญหานั้น การใช้หลัก อริยสัจสี่นั้นสอดคล้องกับการเยียวยารักษาโรคของการแพทย์กระแสหลักในปัจจุบัน ซึ่งต้องวินิจฉัยโรคให้ ถูกต้อง หาสาเหตุของโรคให้พบ หาวิธีการรักษาโรคนั้น แต่หลักอริยสัจสี่นี้สามารถใช้ในภาพกว้าง ในการแก้ไขปัญหาชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องดำเนินชีวิตร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ทั้งสิ่งที่มีชีวิต และธรรมชาติ แวดล้อม ให้เกิดความสุขร่วมกันได้
ใจ อันประเสริฐ เป็นหลักความประพฤติที่ประเสริฐบริสุทธิ์ ที่ต้องมีไว้เป็นหลักใจและกำกับความประพฤติของบุคคลากรทางสาธารณสุข และปฏิบัติตนต่อผู้ป่วยโดยชอบ หลักใจนั้นคือพรหมวิหาร ๔ การเยียวยาผู้ป่วยมะเร็งนั้นต้องอาศัยความอ่อนโยนทางจิตใจและความเข้าใจของผู้ให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขเพื่อนำไปสู่การเยียวยาการเจ็บป่วยของผู้ป่วยไปสู่จุดสมดุลของโรคและการเจ็บป่วยนั้นได้โดยมี เมตตา ปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข กรุณา คิดช่วยให้พ้นทุกข์ ใฝ่ใจในอันจะปลดเปลื้องบำบัดความทุกข์ยากเดือดร้อนของผู้ป่วยมะเร็ง มุทิตา ความยินดี ในเมื่อผู้อื่นอยู่ดีมีสุข มีจิตผ่องใสบันเทิง และ อุเบกขา ความวางใจเป็นกลาง อันจะให้ดำรงอยู่ในธรรมตามที่พิจารณาเห็นด้วยปัญญา ไม่เอนเอียงด้วยรักและชังในผู้ป่วย
การเยียวยาด้วยปัญญาและหัวใจ คือความงดงามของคนหนึ่ง ทีมหนึ่งทีม องค์กรหนึ่งองค์กรที่มีหน้าที่เกื้อกูลกรุณาผู้คนที่กำลังเผชิญกับความเจ็บป่วยด้วยความรู้และความรักที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เป็นการเยียวยาแบบองค์รวมเน้นที่ชีวิต ไม่ได้เน้นที่โรค มุ่งให้เกิดชีวิตที่ปราศจาก โรค ปราศจากความทุกข์ทั้งปวงเป็นสำคัญ ไม่ได้มุ่งเยียวยาเฉพาะตัวโรค แต่เยียวยาทั้งชีวิตที่จะไปสัมพันธ์กับปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย และมุ่งมั่นพัฒนาชีวิตไปสู่ชีวิตที่ดีงาม มีความสุข ไม่ว่าจะ เป็นชีวิตที่อยู่ในสภาวะใด ทั้งภาวะชรา พยาธิ มรณะ หรืออาจกล่าวอย่างง่ายๆ ว่า ให้มีการ แก่ เจ็บ และตายที่ดี และมีความสุขนั่นเอง
ข้างต้นคือ บทความ...
ในการเสวนาครั้งนี้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมทำงานกับ อาจารย์ชลิยา วามะรุน จากศูนย์มะเร็งอุบลราชธานี ดร.นุสรา ประเสริฐศรี จากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ... และ อ.อัคริยา สมรรคบุตร จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเป็นผู้นำเสวนาครั้งนี้
บรรยากาศดี...
คือ การเปิดประตูไปสู่การเยียวยา "ชีวิต" มากไปกว่าการมุ่งรักษาโรค
ในท่ามกลางกระแสของการบริโภคนิยมข้อมูลทางวิชาการ คล้ายกับว่าในชั่วโมงนั้นเราได้ชวนกันหันกลับมาพูดความดีความงาม ของชีวิตและการเกื้อกูล...
เมตตาต่อ...สภาวะการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นในร่างกายเรา
ช่วยเหลือเกื้อกูลด้วยหัวใจที่อ่อนโยน...
แม้เป็นช่วงเวลาสั้นของการเสวนา แต่นั่นก็ได้เกิดการเรียนรู้ที่น้อมกลับมาสู่ภายในอันผสมผสานระหว่างองค์ความรู้ที่มีร่วมกับหัวใจอันกรุณาและอ่อนโยนในการเยียวยาผู้ป่วยมะเร็ง
...
๑๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๕
ความเห็น (6)
การดูแล ไม่มีการเน้นย้ำภาวะของการเจ็บป่วย เราเน้นเป้าหมายระยะสั้น ให้ทุกคนมีความสุขกับปัจจุบัน ในแต่ละวันที่เรายังมีลมหายใจ เราจะทำอย่างไรให้มีความสุข..
อาจารย์ที่เคารพครับ
ในมุมมองของผมสำหรับ
ผู้ป่วยมะเร็งและญาติ
และผู้ทำงานกับผู้ป่วยมะเร็ง
เป็นการเรียนรู้ที่มีความหมายอย่างยิ่ง
เรียนรู้เพื่อไม่ให้ยึดไว้
แต่เพื่อวางไว้
และวางไว้ด้วยหัวใจที่อ่อนโยนครับ
ดีจังเลยค่ะพี่แก้ว...
คือ ความงามของการช่วยชีวิต...
ขอบพระคุณค่ะที่มาร่วมแบ่งปัน...การเยียวยาผู้ป่วยมะเร็ง เมื่อก่อนจำได้ว่าชอบเข้าไปอ่านที่พี่แก้วเขียนเรื่องราวในการเยียวยาผู้ป่วยมะเร็ง อ่านแล้วปิติสุขค่ะ
"เป็นการเรียนรู้อย่างมีความหมาย" ... เชื่อเช่นกันค่ะคุณ ทิมดาบ
คือ ความดี ความงาม ที่ปรากฏระหว่างกัน คือ ความเกื้อกูล และเยียวยากันและกัน
ปรารถนาอยากให้คนทำงานมีหัวใจที่อ่อนโยน...อ่อนโยนต่องานเบื้องหน้าที่เราทำ
มีความสุขมากที่มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับอ.กะปุ๋มและอ.อ้อ ทำให้มีพลังใจในการรังสรรค์งานต่อไป เพื่อการดูแลผู้ป่วยและญาตื ได้เห็นความงดงามของชีวิตในอีกมิติ แม้ว่าจะเจือด้วยความเศร้าของการต้องจากไป แต่เวลาที่เหลืออยู่สามารถทำให้มีความหมายของชีวิตที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างมีความสุข แล้วเจอกันอีกนะคะเมื่อชาติต้องการ
ดีใจที่ได้เจอพี่แป๋ว ผู้หญิงที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งความดี ความงาม และความตั้งใจต่อการทำเพื่อผู้อื่น
เป็นกำลังใจและยินดีร่วมมือในการทำความดีความงามค่ะ
ประทับใจ อ.อ้อ เช่นกันค่ะ