หมออนามัย การร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์


หมออนามัย การร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี

นายอานนท์ ภาคมาลี นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการ

 

           การร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ นาทีแห่งความสุข ความอิ่มเอมที่ได้แนบชิด ได้ผูกพันกันอย่างไร้สิ่งขวางกั้น ฝ่ายชายฝ่ายหญิงมอบความรักให้กันและกันฝ่าไออุ่นของร่างกาย แต่การร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์นั้นมีเทคนิคซ่อนเร้น อยู่มากมายในแต่ละท่วงท่า การ่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ทุกคนต้องรู้

        1.ท่าของการร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ ศิลปะในการร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจสรีรวิทยาของร่างกายและอุปนิสัยใจคอ ตลอดจนเจตคติของบุคคล ต่อการปฏิบัติทางเพศ โดยเฉพาะการเลือกท่าของการร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ให้เหมาะสมและให้สอดคล้องกับบรรยากาศหรือสถานการณ์ในขณะนั้น จึงจะทำให้การร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ เป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข ท่าต่างๆที่ใช้ในการร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ ของคนเรามีมากมายเป็นร้อยๆท่าแต่ท่าที่เป็นพื้นฐานหรือใช้กันบ่อยๆมีอยู่ไม่กี่ท่า ได้แก่ท่าชายอยู่บน ท่าหญิงอยู่บน ท่าตะแคง ท่าเข้าข้างหลัง ท่านั่ง ท่ายืน แต่ทางปฏิบัติกันจริงๆ การร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ ครั้งหนึ่งๆคู่ร่วมรักอาจใช้ในหลายท่าในการร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ สุดแต่ความเหมาะสม หรือความพอใจในขณะนั้น เช่นสามีเริ่มสอดองคชาต เข้าไปในช่องคลอด อาจใช้ท่าตะแคง แล้วก็เปลี่ยนแปลงท่าไปเรื่อยๆ เป็นท่าเข้าข้างหลัง หรือท่าผู้หญิงอยู่บนและจบลงด้วยท่าชายอยู่บน เป็นต้น ท่าต่อไปนี้จะกล่าวถึงวิธีปฏิบัติ ข้อดี ข้อเสียของแต่ละท่าเพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม

       - ท่าชายอยู่บนนับเป็นท่าพื้นฐาน ท่าชายอยู่บน เป็นท่าที่ใช้กันมากที่สุดของผู้ชาย อาจอยู่ระหว่างหรือนอกขาของผู้หญิงได้ และชายอาจนอนทับ หรือพยุงตัวเองด้วยศอกและเข่า ก้นอยู่หญิงอาจหนุนให้สูง ขึ้นบนหมอนและชายเป็นผู้ควบคุมการเคลื่อนไหว โดยที่ฝ่ายหญิงอาจขยับสะโพกตาม ให้เข้าจังหวะกับฝ่ายชายพร้อมกับกับการขมิบช่องคลอดสลับคลายเป็นระยะหรือเกร็งกล้ามเนื้อส่วนอื่นของร่างกายไปด้วยในขณะเดียวกันได้ ถ้าขาของชายอยู่บนนอกขาของหญิงองคชาต จะเสียดสีกับคลิตอริส มากขึ้นและแคมเล็กจะรัดองคชาต  ทำให้เกิดความสึก    ที่องคชาต อย่างมาก จนอาจถึงจุดสุดยอดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นท่านี้จึงไม่ดีสำหรับชายที่ไม่สามารถควบคุมการหลั่งของน้ำกาม นอกจากนั้นยังเป็นท่าที่ฝ่ายชายค่อนข้างเหนื่อย เพราะต้องออกแรงมาก จึงอาจต้องเปลี่ยนท่าอื่นสักพัก หรือหยุดชั่วคราว เพื่อให้ถึงจุดสุดยอด ช้าลง คนบางคนพบว่าท่านี้มักเป็นท่าที่จบ มากกว่าจะเป็นท่าเริ่มต้นของการร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์หรือฝ่ายหญิงตั้งครรภ์พบว่าไม่เหมาะสมและกรณีที่องคชาตของฝ่ายชาย ไม่แข็งเต็มตัวหรือช่องคลอดหลวมเนื่องจากการคลอดบุตรหลายๆ ก็อาจร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ได้ลำบากหรือไม่ให้ความสุขเต็มตัว ข้อดีของท่านี้ คือ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงมีโอกาสกอดจูบและสัมผัสกันและกัน การยกก้นของหญิงขึ้นโดยใช้หมอนรอง หรือยกขาของหญิง พาดบ่าบนไหล่ของชายจะทำให้การเสียดสีขององคชาต  เสียดสีกับคลิตอริสน้อยลง แต่เป็นโอกาสให้สอดใช้องคชาตเข้าไปในช่องคลอด    ได้ลึกและช่วยให้องคชาตเสียดสีกับช่องคลอดดีขึ้นในกรณีที่ช่องคลอดหลวมแต่ข้อเสียของท่านี้คือ ชายต้องพยุงน้ำหนักของตัวเองด้วยขา ด้วยแขน และมือ ดังนั้นเขาจะไม่สามารถใช้มือลูบไล้ฝ่ายหญิงหรือหยุดพักได้นาน เพื่อชะลอความรุนแรงของอารมณ์เพศ

       - เมื่อใช้ท่าหญิงอยู่บน เป็นท่าที่นิยมน้อยกว่าท่าแรกเพราะคนทั่วไปมีความรู้สึกว่าผู้ชายเป็นฝ่ายการกระทำหรืออยู่เหนือ ฝ่ายหญิง ท่านี้อาจเริ่มต้นด้วยชายอยู่บนแต่เมื่อองคชาตเข้าไปในช่องคลอดแล้วฝ่ายชายจึงพลิกตัวฝ่ายหญิงขึ้นมาอยู่ข้างบน หรือให้ฝ่ายชายนอนหงายหญิงคุกเข่าคร่อมตัวผู้ชายโดยขาของหญิงอาจอยู่ระหว่างขาของชายหรือข้างนอกก็ได้ แล้วใช้มือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจับองคชาตค่อยสอดเข้าไปในช่องคลอดพร้อมๆกับหญิงค่อยๆ ย่อตัวลง ทิ้งน้ำหนักไว้บนหัวหน่าวของผู้ชายหรือนั่งทับบนขาของตัวเองสลับกันไปก็ได้ ท่านี้เป็นท่าที่หญิงสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวและแรงกดของ คลิตอริสและเอนตัวมาข้างหน้ามากๆ จะทับผู้ชาย ทำให้การเคลื่อนไหวขององคชาต ลดน้อยลงและผู้ชายมีความรู้สึกช้าลงถ้าฝ่ายชายยกก้นขึ้นโดยใช้ข้อศอกยันหรืองอเข่าขึ้นเพื่อพยุงหลังจะทำให้องคชายยังสอดเข้าไปได้ลึกในคลอด แต่ฝ่ายหญิงก็สามารถควบคุมความลึกได้โดยไม่ย่อเข่าลงมามาก การเคลื่อนไหวไม่ว่าโดยวิธีใดในท่านี้จะกระตุ้นความรู้สึกของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ถ้าฝ่ายหญิงใกล้จะถึงจุดสุดยอดก็อาจจะยกสะโพกขึ้นเพื่อให้ชายเคลื่อนไหวได้บ้าง ความรู้สึกของทั้งคู่ก็จะมาถึงระดับเดียวกัน ข้อดีของท่านี้คือผู้ชายมีโอกาสลูบไล้เต้านม สะโพก และ คลิตอริสของหญิงได้ รวมทั้งอาจจูบหรือดูดหัวนมถ้าหญิงเอนตัวมาข้างหน้ามากๆยิ่งกว่านั้นยังเป็นท่าที่กระตุ้นความรู้สึกของฝ่ายหญิงมากที่สุดจึงเป็นท่าที่ใช้รักษาปัญหาการไม่บรรลุความสุขสุดยอดของกามารมณ์ของหญิง แต่ข้อเสียคือจะต้องออกกำลังมาก และสำหรับคนมีลูกยากท่านี้ลดโอกาสของการตั้งครรภ์ ควรเลือกท่าชายอยู่บนจะเหมาะกว่า

       - ท่าตะแคงมักใช้เพื่อสลับฉาก ท่านี้เป็นท่าที่ฝ่ายชายนอนหันหน้าเข้าหาฝ่ายหญิงขาของชายจะอยู่ระหว่างขาของหญิงหรือวางสลับกัน ข้อดีของท่านี้คือ หญิงชายสามารถกอดจูบและใช้มือลูบคลำกันได้ ไม่ต้องออกกำลังมากในการพยุงน้ำหนักซึ่งกันและกัน และสามารถร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างยาวนาน จึงเหมาะสำหรับทำสลับกับท่าอื่นซึ่งต้องออกแรงมาก หรือเพื่อรอให้อารมณ์เพศของฝ่ายหญิงขึ้นมาทันฝ่ายชายและในระหว่างตั้งครรภ์แต่ข้อเสียของท่านี้คือ การเคลื่อนไหวและการเสียของท่านี้คือการเคลื่อนไหวและการเสียดสีขององคชาต กับ คริตอริสเป็นไปได้ดีทั้งยังสามารถสอดใส่องคชาตเข้าไปในช่องคลอดได้ลึก กรณีฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ การใช้ท่าตะแคงโดยฝ่ายหญิงหันหลังให้ฝ่ายชายจะทำให้ฝ่ายหญิงไม่รู้สึกอึดอัด และการที่อวัยวะเพศชายเข้าในช่องคลอดไม่ได้ลึก ก็จะไม่กระทบกระเทือนต่อทารกในครรภ์ด้วย

       - ท่าอื่นๆ เป็นทางเลือกเพื่อลดความปลอดภัยสำหรับกระเพาะปัสสาวะของหญิง ท่านี้หญิงนอนตะแคงงอตัว ชายท่าเข้าข้างหลังนอน ชายปะกบด้านหลังและงอตัวตามฝ่ายหญิง หญิงอาจคุกเข่าหน้าอกชิดพื้น หน้าอกยกขึ้น โดยการใช้ศอกยันกับพื้นฝ่ายชายคุกเข่าหรือนอนทับอบู่บนหลังของฝ่ายหญิงหรือผู้ชายนอนหงาย ผู้หญิงนั่งทับผู้ชายโดยหันหน้าไปทางปลายเท้าของชายหรือชายนั่งบนเก้าอี้ หญิงนั่งตักโดยหันหลังให้หน้าอกของฝ่ายชายฯลฯ สำหรับท่านี้การสอดใส่องคชาตเข้าช่องคลอดจะทางใต้ก้นของผู้หญิงและมือของฝ่ายชายจะอิสระที่จะกอดหรือลูบคลำส่วนต่างๆ ของฝ่ายหญิง รวมทั้งคริตอริส แต่องคชาตกับคริตอริสไม่สัมผัสกัน และการสอดใส่องคชาติทำได้ไม่ค่อยได้ดี ยกเว้นในท่าหญิงนอนคว่ำก้นกระดก ชายนั่งคุกเข่านั่งอยู่ด้านหลัง แต่ท่านี้อาจมีลมเข้าทางช่องคลอดทำให้เกิดเสียงขณะฝ่ายชายขยับ องคชาต เข้าๆออกๆโดยเฉพาะถ้าฝ่ายหญิงมีปากช่องคลอดกว้างจากการคลอดบุตรและกรณีทั้งคู่มีรูปร่างอ้วนจะทำให้ใช้ท่านี้ลำบาก ท่านั่งมีไว้ไม่ให้หน้าเบื่อ ท่านั่งง่ายๆคือชายนั่งอยู่บนเตียงที่ขอบเตียงหรือบนเก้าอี้ส่วนหญิงนั่งบนขาชาย โดยขาของหญิงอยู่นอกสะโพกของชายหรือเกี่ยวกันไว้ข้างหลังของผู้ชายและหันหน้าเข้าหากัน ฝ่ายชายอาจรั้งสะโพกหรือขาของหญิงใกล้ชิดกับตัวเองทำให้องคชาตเข้าไปในช่องคลอดได้ลึกขึ้น ท่านี้จะกระตุ้นที่คลิตอริสมาก และองคชาตเข้าไปในช่องคลอดได้ลึก หญิงมักจะเป็นฝ่ายควบคุมการเคลื่อนไหวซึ่งเป็นไปได้ดีควร แต่ต้องออกแรงมากสักหน่อยบางครั้ง ท่านี้อาจดัดแปลงเป็นหญิงนอนหงายและชายนั่งอยู่ระหว่างขาของหญิงหรือชายนอนหงายหรือหญิงนั่งทับขาของชายโดยหันหน้าเข้าหากันก็ได้ร่วมเพศที่แข็งแรงหรือเป็นนักกีฬาเท่านั้น คู่สมรสที่เลือกท่านี้มักนิยมความแปลกใหม่หรือการผจญภัย แต่ควรกระทำอย่างระมัดระวัง มิฉะนั้นอาจเกิดอาการปวดหลังกล้ามหรือกล้ามเนื้อขาอักเสบได้จะเลือกท่าไหนเป็นท่าพิเศษสำหรับคุณเองหรือคู่ของคุณ ศึกษาข้อดีข้อเสียให้รอบคอบก่อนจะได้มีความสุขสมปรารถนา

2.  ท่าร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีบุตรได้ง่าย ท่าร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ โดยมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยให้เหมาะสมกล่าวคือ ให้ใช้หมอนหนุนบริเวณแก้มก้น หรือสะโพกของฝ่ายหญิง เพื่อให้ช่องคลอดทำมุมชันจะได้กักเก็บน้ำอสุจิไว้ได้มากขึ้น และควรให้หญิงนอนชันขาทั้งสองขึ้น และแยกเข่าทั้งสองข้างออกจากกันพอให้ฝ่ายชายปฏิบัติการได้ เมื่อฝ่ายชายหลั่งความสุขออกไปแล้ว หญิงควรนอนสบายๆในท่วงท่าดังกล่าวต่ออีกสัก 30 นาที ก็จะทำให้โอกาสตั้งครรภ์สูง และท่าฝ่ายชายโอ้โลมปฏิโลมก่อนร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ จนหญิงมีอารมณ์มากๆและเสร็จไปก่อนหรือถึงจุดสุดยอดพร้อมๆกับเขาแล้ว โอกาสของการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น เป็น 3 เท่าที่เดียว ไม่เชื่อลองดูถ้าความสามารถพอ

3. ท่าร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ที่หญิงถึงจุดสุดยอดได้ง่าย จะไม่มีท่าร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ใดที่ทำให้หญิงไปถึงดวงดาวได้ง่ายกว่าท่วงท่า หันหน้าเข้าหากันนั้นได้อรรถรสเป็นอย่างมากทั้งสองฝ่าย และฝ่ายชายยังสามารถใช้มือของเขากระตุ้นจุดยุทธศาสตร์และปมสัมผัสเสน่หาของหญิงตลอดเวลาด้วย เชื่อไหมว่า ท่วงท่านี้นอกจากจะได้รสรักอย่างเต็มเปี่ยม ยังมีประโยชน์ด้านอื่นด้วย เป็นท่วงท่าที่หญิงเจ็บน้อยที่สุดจาการร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เพราะหญิงเป็นผู้ควบคุมมุมตกกระทบ มุมเสียดสี รวมทั้งความรุนแรงของการเข้าออกภายในส่วนสงวนของหญิงด้วย เคล็ดลับอยู่ตรงที่เธอจะต้องทำเหมือนกำลังเบ่งถ่ายอุจราระเบาๆ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อโดยรอบช่องคลอดของหญิงขยายตัวออก ให้องคชาตของชายผ่านเข้าไปง่าย และให้กำลังใจหญิงในการที่จะทำกิจกรรมแห่งความรัก เป็นท่วงท่าที่เหมาะสมกับฝ่ายชายที่มีลักษณะตัวอ้วนไม่เหมาะกับเป็นผู้ปฏิบัติ จึงต้องให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ออกท่วงท่าแทนจึงจะร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จ

4. ท่าร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์สำหรับหญิงที่ไปถึงจุดสุดยอดยาก เป็นท่าร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์  เป็นท่าร่วมรักที่แพทย์แนะนำให้ใช้ในหญิงที่ไม่ถึงฝั่ง ฝันได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นการร่วมรักหรือมีเพศสัมพันธ์แบบท่ามาตรฐานใดๆ ท่วงท่าเริ่มต้นจากการมีเพศสัมพันธ์แบบธรรมดา แล้วฝ่ายชายเลื่อนตัวให้กระดูกเชิงกรานของเขาอยู่ในระดับเดียวกับกระดูกเชิงกรานของหญิงทาบทับร่างกายเข้าด้วยกันให้แนบสนิท แล้วเคลื่อนไหว เข้าออกตามมุมของอวัยวะส่วนนั้นที่จะทำมุมกันพอดี ท่านี้จะทำให้เกิดการเสียดสีกับปมประสาทสัมผัส เสน่หาของหญิง ตั้งแต่คลิตอริส ปมประสาทรอบปลายเปิดของท่อปัสสาวะ และจี – สปอต ไปพร้อมกันในครั้งเดียว จึงทำให้สัมผัสที่เกิดขึ้นมีมากพอที่จะฉุดหญิงขึ้นสวรรค์ดาวดึงส์ได้ เพียงแต่ท่วงท่านี้ต้องการ การฝึกฝน และร่วมมือระหว่างชายและหญิงเป็นอย่างดี

5. ท่าร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์อันตราย ท่าร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ที่อันตรายที่สุดของชายกลับเป็นท่าที่ทำให้หญิงถึงจุดสุดยอดได้ง่าย เพราะบางครั้งถ้าหญิงเกิดความเมามันในอารมณ์แล้ว กระแทกตัวลงมาอย่างไม่บันยะบันยันโดยไม่ดูมุมตกกระทบที่ดี อาจจะกระแทกลงบนลำตัวขององคชาตที่ตั้งอยู่ เป็นเหตุให้หักกลางลำได้ ด้วยเหตุนี้ชายที่เข้าใจในท่วงท่าลีลารักจะต้องพยายามใช้มือ 2 ข้าง ประคองแก้มก้นของหญิงไว้ให้ดี ให้ลงมามุมที่ต้องการด้วยความแรง เป็นการป้องกันอันตรายในของรักของหวงของตน

 

 

หมายเลขบันทึก: 478389เขียนเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน 2012 18:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท