พวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ (Puangrat Patomsirirak)
นางสาว พวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ (Puangrat Patomsirirak) Cherry ปฐมสิริรักษ์

บันทึการสอบข้อเท็จจริง "นางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง" คนไร้สัญชาติ ภรรยาและแม่ของคนสัญชาติญี่ปุ่น


บันทึกการสอบข้อเท็จจริง "นางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง" คนไร้สัญชาติ ภรรยาและแม่ของคนสัญชาติญี่ปุ่น สำรวจข้อมูลและเรียบเรียงโดย นางสาวพวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ คณะทำงานโครงการบางกอกคลินิกฯ คณะนิติศาสตร์


บันทึก การสอบปากคำข้อเท็จจริงของนางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง

-------------------------

ประวัตินางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง

 ------------------------

ชื่อ                       นางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง

อายุ                    ประมาณ 30 ปี (ปรากฎตามเอกสารประจำตัว อายุ 28 ปี) 

วันเกิด                 ไม่ปรากฎข้อมูล (ปรากฎตามเอกสารประจำตัว เกิด พ.ศ.2526)

สถานที่เกิด            ไม่ปรากฏข้อมูล

ภูมิลำเนาปัจจุบัน    --- หมู่ที่ 1 ต.บ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา

เอกสารประจำตัว     1. บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน เลขประจำตัว 0-1xxx-89000-xx-x ลงวันที่ 25 มี.ค.2554 ออกโดย สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลบ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา

    2. แบบรับรองรายการทะเบียนประวัติบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน เลขประจำตัว 0-1xxxx-89000-xx-x ลงวันที่ 19 มี.ค.2553ออกโดย สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลบ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา

-------------------------

ข้อมูลบิดาและมารดาผู้ให้กำเนิด

-------------------------

บิดา                     ไม่ปรากฏข้อมูล

มารดา                  ไม่ปรากฏข้อมูล

-----------------------------------------

ข้อมูลบิดาและมารดาผู้ให้การเลี้ยงดูตามข้อเท็จจริง

-----------------------------------------

บิดาผู้ให้การเลี้ยงดู    นายพิสิษฐ์ เนคมานุรักษ์

---------------------------------

อายุ                         54 ปี

ประกอบอาชีพ           ช่างก่อสร้าง

ภูมิลำเนาปัจจุบัน        --- หมู่ที่ 1 ต.บ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา

เอกสารประจำตัว       1.บัตรประจำตัวประชาชนคนสัญชาติไทย เลขประจำตัว 3-xxxx-000xx-xx-x ออกโดย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 27 ต.ค.2552

                               2. ทะเบียนบ้าน ทร.14 รหัสประจำบ้าน 1416-xxxxxx-6 ออกโดยเทศบาลตำบลบ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 27 มิ.ย.2550

---------------------------------

มารดาผู้ให้การเลี้ยงดู นางกนกพร เนคมานุรักษ์

------------------------------------

อายุ                         52 ปี

ประกอบอาชีพ           แม่บ้าน

ภูมิลำเนาปัจจุบัน        389 หมู่ที่ 1 ต.บ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา

เอกสารประจำตัว       1. บัตรประจำตัวประชาชนคนสัญชาติไทย เลขประจำตัว 3-xxxx-000xx-xx-x ออกโดย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 27 ต.ค.2552  

                               2. ทะเบียนบ้าน ทร.14 รหัสประจำบ้าน 1416-xxxxxx-6 ออกโดยเทศบาลตำบลบ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยาวันที่ 27 มิ.ย.2550

--------

ครอบครัว

--------

สามีของนางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง ชื่อนายยูกิฮิโร่ คูโดะ

-------------------------------------------

สัญชาติ                    ญี่ปุ่น

อายุ                         31 ปี 

ประกอบอาชีพ           พนักงานบริษัทเมดิบะ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น

ภูมิลำเนาปัจจุบัน       3-13 มินามิคาราซูยามะ เขตเซทางายะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

เอกสารประจำตัว       หนังสือเดินทางเลขที่ TK 322xxxx ออกโดย กระทรวงการต่างประเทศ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2553

-----------------------------------------

บุตรสาวของนางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง ด.ญ.ยูริ คูโดะ

-----------------------------------------

สัญชาติ                    ไม่มีสัญชาติ

อายุ                         1 ปี

ภูมิลำเนาปัจจุบัน        389 หมู่ที่ 1 ต.บ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา

เอกสารประจำตัว       1.หนังสือรับรองการเกิด ทร.1/1 ตอน 1ที่ อท 0027-2/xxx ลงวันที่ 28 มิ.ย.2553 ลงวันที่ 28 มิ.ย.2553 โรงพยาบาลอ่างทอง อ.เมือง จ.อ่างทอง

                               2. สูติบัตร ทร.3 บุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือในลักษณะชั่วคราว เลขประจำตัว 7-1599-xxxxx-xx-x ลงวันที่ 28 มิ.ย.2553 ออกโดย สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง

                               3. ทะเบียนบ้าน ทร.13 บุคคลที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือในลักษณะชั่วคราว เลขประจำตัว 7-1599-xxxxx-xx-x เลขรหัสประจำบ้าน 1416-xxxxxx-6 ย้ายเข้าอยู่เมื่อวันที่  21 มี.ค.2554 ออกโดย สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลบ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา

-------------------------------------

ประวัติการศึกษาของนางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง

------------------------------------

ไม่ได้เข้ารับการศึกษา เนื่องจากขณะยังเด็กผู้เลี้ยงดูคือ นางนิตย์ ขว้างสาหัส (ถือบัตรประจำตัวประชาชนคนสัญชาติไทย เลขประจำตัว 3-5399-00xxx-xx-x ออกโดย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 17 พ.ย.2552) เคยพาไปฝากเข้าเรียน แต่โรงเรียนเห็นว่าไม่มีเอกสารการเกิดจึงปฏิเสธไม่รับเข้าเรียน

 

----------------------------

ประวัติของนางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง

----------------------------

 

          ประมาณ พ.ศ.2526 นางนิตย์ ขว้างสาหัส ขณะอาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นผู้ที่เลี้ยงดูนางสาวพรทิพย์ตั้งแต่อายุประมาณ 2 ปี โดยผู้หญิงคนหนึ่งได้นำ ด.ญ.พรทิพย์ มาฝากเลี้ยง แวะมาเยี่ยม 2-3 ครั้ง จากนั้นก็หายตัวและย้ายออกไปจากบ้าน ไม่เคยกลับมาเยี่ยม ด.ญ.พรทิพย์อีก นางนิตย์เข้าใจเอาเองว่าหญิงคนดังกล่าวคือมารดาของ ด.ญ.พรทิพย์ และเป็นคนไทยเพราะพูดภาษาไทยได้ แต่นางนิตย์ก็ไม่รู้จักชื่อของผู้หญิงคนนั้น นางนิตย์เคยพยายามตามหาตัวแต่ก็ไม่พบ ประกอบกับตอนนำมาฝากเลี้ยง ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทิ้งเอกสารใดๆ ของตนเองและของ ด.ญ.พรทิพย์ไว้เลย ส่วนชื่อ “ด.ญ.พรทิพย์” นั้นนางนิตย์เป็นคนตั้งให้เอง นามสกุล “ม่วงทอง” เป็นนามสกุลเดิมของนางนิตย์ แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการทางทะเบียนราษฎร ด.ญ.พรทิพย์ นับถือนางนิตย์ในฐานะยายเรื่อยมา นางนิตย์เคยนำ ด.ญ.พรทิพย์ ไปฝากเรียนแต่ทางโรงเรียนขอดูเอกสารการเกิด เมื่อ ด.ญ.พรทิพย์ไม่มี จึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน เป็นเหตุให้ปัจจุบันนี้นางสาวพรทิพย์สามารถฟัง พูดภาษาไทยได้เท่านั้น พอสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง แต่ไม่สามารถอ่านและเขียนภาษาใดๆ ได้ ด้วยนางนิตย์มีฐานะค่อนข้างยากจนทำให้ ด.ญ.พรทิพย์ขณะอายุ 7 ปี ก็ตัดสินใจช่วยนางนิตย์ทำงานซึ่งขณะนั้นประกอบอาชีพค้าขายผัก อาหาร ขนมจีน

ประมาณ พ.ศ. 2537 ขณะอายุได้ประมาณ 13 ปี นางสาวพรทิพย์ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยอาศัยอยู่กับนางกนกพร เนคมานุรักษ์ ลูกสาวของนางนิตย์ และนายพิสิษฐ์ เนคมานุรักษ์ บุตรเขยของนางนิตย์ซึ่งย้ายจากจังหวัดอุตรดิตถ์มาอยู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก่อนหน้านี้ไม่นาน นางนิตย์ฝากนางสาวพรทิพย์ทำงานกับยายแต เพื่อนของตนเองซึ่งเปิดร้านตัดผมอยู่ที่กรุงเทพฯ เพราะตัองการให้นางสาวพรทิพยมีวิชาความรู้ อาชีพติดตัว และฝากนางกนกพร และนายพิสิษฐ์ช่วยดูแลนางสาวพรทิพย์ ทำให้นางสาวพรทิพย์เริ่มสนิทและเคารพบุคคลทั้งสองในฐานะบิดา มารดา นางสาวพรทิพย์ทำงานร้านตัดผมได้ 2 ปีก็ย้ายออกมา และไม่เคยติดต่อกับยายแตอีกเลย

ประมาณ พ.ศ.2539 นางสาวพรทิพย์ ทำงานเป็นพนักงานประจำตู้ร้านถ่ายรูปสติกเกอร์ ของคุณแหม่มและคุณปูในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว และพนักงานร้านขายเสื้อผ้า ทั้งนี้นางสาวพรทิพย์จะโดนโกงค่าจ้างเสมอ โดยนายจ้างมักจะอ้างว่านางสาวพรทิพย์อ่านหนังสือเขียนหนังสือไม่ได้และไม่มีเอกสารประจำตัว ตัวนางสาวพรทิพย์เองก็ไม่กล้าไปแจ้งความเรื่องโดนโกงค่าจ้าง เพราะกลัวว่าจะถูกจับเนื่องจากตนเองไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนและหลักฐานใดๆ

นางสาวพรทิพย์เคยถูกคนอื่นว่าเป็นชาวพม่า แต่ตนเองนั้นเข้าใจมาตลอดว่าตนเองเป็นคนไทย เพียงแต่เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เท่านั้น นางสาวพรทิพย์เริ่มตระหนักถึงปัญหาจากการไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน นางนิตย์เองก็พยายามติดต่อสำนักทะเบียนในจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อให้นางสาวพรทิพย์ไปดำเนินการทางทะเบียนราษฎร แต่เจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งเสมอว่าต้องมีเอกสารการเกิดและพยานรู้เห็นการเกิด นางนิตย์จึงไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรต่อไป

นางสาวพรทิพย์ทำงานหารายได้เลี้ยงตนเองมาโดยตลอดเพราะไม่ต้องการเป็นภาระกับนางนิตย์ นางกนกพรและนายพิสิษฐ์ หากมีรายได้เพียงพอก็จะส่งกลับไปให้บุคคลเหล่านี้ซึ่งนางสาวพรทิพย์เคารพนับถือเป็นคนในครอบครัวตลอดมา และด้วยเหตุที่ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาจึงไม่มีโอกาสไปเริ่มต้น ศึกษาเล่าเรียน ทางด้านนางกนกพร และนางพิสิษฐ์ซึ่งมีบุตรที่แท้จริงอยู่แล้ว 3 คน ก็ให้ความเอ็นดูนางสาวพรทิพย์และพยายามช่วยเหลือ ติดต่อกับสำนักทะเบียนอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเกี่ยวกับการที่นางสาวพรทิพย์จะขอรับการสำรวจและมีบัตรประจำตัวประชาชนเรื่อยมา

พ.ศ. 2548 นางนิตย์เกิดอาการช็อค สมองขาดอ็อกซิเจน และเส้นเลือดในสมองแตก มีสภาวะความจำเสื่อมตั้งแต่บัดนั้น ไม่สามารถจำนางสาวพรทิพย์ คนอื่นๆ ในครอบครัว และประวัติของนางสาวพรทิพย์ได้อีกเลย ปัจจุบันนางกนกพรได้รับยายนิตย์มาอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านในอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พ.ศ. 2551 นางสาวพรทิพย์            ทำงานเป็นพนักงานเสริฟร้านก๋วยเตี๋ยว ที่สุขุมวิทซอย 1 ขณะนั้นก็ได้รู้จักและเป็นเพื่อนสนิทกับนางสาวพลอยทิพย์ซึ่งประกอบอาชีพเปิดร้านขายกาแฟ นางสาวพรทิพย์พบกับนายยูกิฮิโร่ คูโดะคนสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งสองชอบพอกัน นางสาวพรทิพย์ตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่ตนเองเป็นเด็กกำพร้า ไม่เคยเรียนหนังสือจึงอ่านและเขียนไม่ได้ รวมทั้งเรื่องที่ตนเองไม่มีบัตรประจำตัวหรือเอกสารใดๆ ให้กับนายคูโดะฟัง นายคูโดะไม่ได้รังเกียจนางสาวพรทิพย์ ทั้งสองอยู่กินฉันสามีภรรยากัน และหลังจากรู้จักกันได้ประมาณ 3 เดือน นายคูโดะก็ขอให้นางสาวพรทิพย์ลากออกจากงาน และตนเองจะเลี้ยงดูนางสาวพรทิพย์เอง เพราะขณะนั้นนางสาวพรทิพย์สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงเนื่องจากรายรับขณะนั้นไม่เพียงพอกับค่ากินอยู่ ร่างกายจึงผอมมาก นายคูโดะเห็นว่านางสาวพรทิพย์ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ จึงเปิดบัญชีธนาคารในนามของตนเอง ณ ประเทศญี่ปุ่น และนำเงินและบัตร ATM นั้นให้กับนางสาวพรทิพย์ไว้ใช้จ่าย

นายคูโดะเดินทางมาเยี่ยมนางสาวพรทิพย์ทุกเดือนโดยจะพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยครั้งละประมาณ 3 วัน จนกระทั่งนางสาวพรทิพย์ตั้งครรภ์ นายคูโดะจึงขอให้เดินทางกลับไปอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และระหว่างตั้งครรภ์นี้นายคูโดะมาเยี่ยมนางสาวพรทิพย์ทุกเดือน โดยทั้งสองจะนัดเจอกันที่กรุงเทพฯ เพราะนายคูโดะเดินทางไปบ้านของนางสาวพรทิพย์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่เป็น นายคูโดะเคยไปบ้านของนางสาวพรทิพย์เพียงแค่ 2-3 ครั้ง

พ.ศ. 2552 นางสาวพรทิพย์ซึ่งตั้งครรภ์อยู่ก็เกรงว่าลูกที่คลอดออกมาจะมีปัญหาเรื่องสถานะบุคคลและสัญชาติเช่นเดียวกับตน ตนเองและนางกนกพรจึงกระตือรือร้นเกี่ยวกับการที่ตนเองจะมีเอกสารระบุทราบตัวบุคคลอีกครั้ง  

นางสาวพรทิพย์ได้ขอเพิ่มชื่อและลงรายการสัญชาติไทย ต่อสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลบ้านแพรก อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะตนเองและคนในครอบครัวเข้าใจว่าเป็นคนสัญชาติไทย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกสอบปากคำพยานเกี่ยวกับการเกิด และบิดามารดาของนางสาวพรทิพย์ พยานทั้งที่อยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่อยู่เดิมของนางสาวพรทิพย์และพยานในอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวนกว่า 10 คน ต่างไม่รู้เห็นการเกิด รวมถึงบิดามารดาที่แท้จริงของนางสาวพรทิพย์ ส่วนนางนิตย์เองซึ่งเลี้ยงดูนางสาวพรทิพย์มาก็ไม่สามารถให้ปากคำใดๆ ได้เพราะความจำเสื่อม เท่ากับว่าไม่ปรากฎข้อเท็จจริงใดๆ ที่ยืนยันได้ว่านางสาวพรทิพย์เป็นคนสัญชาติไทยจริง ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทะเบียนของสำนักทะเบียนท้องถิ่นอำเภอบ้านแพรก จึงมีความเห็นบันทึกรายการของนางสาวพรทิพย์ ในทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ทร. 38ก และออกแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่สถานะทางทะเบียน ทร. 38ข ให้กับนางสาวพรทิพย์ และได้รับการกำหนดเลขประจำตัวประชาชน 0-xxxx-89000-xx-x เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2553 โดยลงวันเกิดของนางสาวพรทิพย์ เป็นปี พ.ศ.2526 ซึ่งเป็นปีที่นางนิตย์ได้รับเลี้ยงนางสาวพรทิพย์ ซึ่งขณะนั้นน่าจะมีอายุประมาณได้ 2 ปีแล้ว จึงทำให้อายุที่ปรากฎในเอกสารน่าจะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง 2 ปี

พ.ศ.2553 นางสาวพรทิพย์ให้กำเนิด ด.ญ.ยูริ บุตรของตนเองกับนายคูโดะ ณ โรงพยาบาลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ด.ญ.ยูริได้รับหนังสือรับรองการเกิด ท.ร. 1/1 ที่ออกโดยโรงพยาบาลอ่างทองโดยระบุชื่อบิดา คือ นายยูกิฮิโร่ คูโดะ ส่วนชื่อมารดา คือ นางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง

วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553 นางสาวพรทิพย์ และนายคูโดะเดินทางมาแจ้งการเกิดของ ด.ญ. ยูริ ต่อสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง ได้รับสูติบัตรประเภท ทร.3 บุคคลที่อาศัอยู่อยู่ในประเทศไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือในลักษณะถาวร โดย ด.ญ.ยูริ ได้รับการกำหนดเลขประจำตัว 7-1599-000xx-xx-x ระบุในช่องสัญชาติว่า “ไม่ได้สัญชาติไทย”

จากการที่นางสาวพรทิพย์ และ ด.ญ.ยูริประสบปัญหาไร้สัญชาติ บุตรของนางกนกพรคือ วรรณทวัฒน์ ซึ่งนางสาวพรทิพย์เรียกว่าน้อง ได้ค้นหาข้อมูลของหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหาไร้สัญชาติ และได้รู้จักกับคุณยินดี ห้วยหงษ์ทอง มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก คุณยินดีได้ช่วยเหลือและประสานงานให้นางสาวพรทิพย์รู้จักกับคณะทำงานโครงการบางกอกคลินิกเพื่อให้คำปรึกษาด้านสถานะและสิทธิบุคคลภายใต้กองทุนศาสตราจารย์คนึง ฦๅไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในช่วงต้นปี พ.ศ.2554 และโครงการบางกอกคลินิกก็ได้เข้ามาดูแลกรณีปัญหาของนางสาวพรทิพย์และด.ญ.ยูรินับแต่นั้น

ทางด้านนายคูโดะ ซึ่งทำงานเป็นพนักงานบริษัทเมดิบะ จำกัด มีรายได้ประมาณ $ 54,900 ต่อปีและอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ได้แจ้งกับมารดาของตนเอง คือ นางนางนาโอมิ คูโดะ คนสัญชาติญี่ปุ่น และน้องสาวคนเดียวของนายคูโดะ เกี่ยวกับนางสาวพรทิพย์และด.ญ.ยูริ เพราะนายคูโดะต้องการสมรสกับนางสาวพรทิพย์ตามกฎหมาย และต้องการพาทั้งสองคนมาร่วมสร้างครอบครัว ณ ประเทศญี่ปุ่น มารดาและน้องสาวของนายคูโดะไม่ได้รังเกียจนางสาวพรทิพย์ และด.ญ.ยูริ ที่เป็นคนไร้สัญชาติ และเห็นด้วยกับความตั้งใจของนายคูโดะ ทั้งนี้นางนาโอมิ คูโดะเคยเดินทางมาประเทศไทยพร้อมกับนายคูโดะเพื่อพบกับ ด.ญ.ยูริ และนางสาวพรทิพย์ถึง 2 ครั้ง และกล่าวยืนยันกับนางสาวพรทิพย์ว่าขอให้ไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นด้วยกัน และตนเองจะช่วยดูแล ด.ญ.ยูริและนางสาวพรทิพย์

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2554 ด.ญ.ยูริเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้าน ประเภท ท.ร. 13 บุคคลที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือในลักษณะชั่วคราว

            วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2554 นางสาวพรทิพย์ม่วงทอง ได้รับบัตรประจำตัวคนไม่มีสถานะทางทะเบียน

            วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2554 ด.ญ.ยูริ นายคูโดะและนางสาวพรทิพย์ได้ตรวจพิสูจน์ความเป็นบุตร-บิดา-มารดา(ตรวจ DNA) โดยได้รับผลว่าเป็นบุตรของนายคูโดะและนางสาวพรทิพย์จริง ปรากฎตามผลการตรวจวิเคราะห์ DNA(STRs) สำหรับพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต เลขคดี 1460/54 ID.P125/54 ลงวันที่ 31 พ.ค.2554 สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ

            วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2554 นางสาวพรทิพย์ และนายคูโดะ ยื่นคำขอจดทะเบียนสมรสต่อสำนักทะเบียนอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม้ว่านางสาวพรทิพย์ไม่สามารถมีหนังสือรับรองความโสดเพื่อยืนยันคุณสมบัติในการสมรส แต่นายทะเบียนก็ได้เรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำแทน

            วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2554 นายทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติของทั้งสองคนพบว่าครบตามเงื่อนไขการจดทะเบียนสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงได้มีคำสั่งอนุญาตให้นางสาวพรทิพย์ นายคูโดะ จดทะเบียนสมรสกันได้ ณ สำนักทะเบียนอำเภอบ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งปรากฎตามสำเนาทะเบียนสมรส คร.2 ที่ 37/4121 ลงวันที่ 15 ส.ค.54 ณ สำนักทะเบียนอำเภอบ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยาและใบสำคัญการสมรส คร.3 เลขที่ 530179xxx ลงวันที่ 15 ส.ค.54 ณ สำนักทะเบียนอำเภอบ้านแพรก โดยนางสาวพรทิพย์ยังคงใช้คำนำนามว่า นางสาว และใช้นามสกุลเดิมคือ ม่วงทอง แม้ว่าใจจริงต้องการเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของสามีตามที่พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 ให้สิทธิเลือกไว้แต่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ของส่วนการทะเบียนราษฎรล็อกข้อมูลไว้จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนชื่อและนามสกุลได้

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2554 นางสาวพรทิพย์ และนายคูโดะได้ยื่นผลการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยดังกล่าว ณ สถานกงสุลญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเพื่อให้ทางประเทศญี่ปุ่นรับรองการจดทะเบียนสมรสดังกล่าวให้มีผลตามกฎหมายประเทศญี่ปุ่น และยื่นเรื่องเพื่อรับรองความเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายญี่ปุ่นของ ด.ญ.ยูริ กับบิดาคือนายคูโดะ

ปัจจุบันนี้ทราบจากนายคูโดะว่า ทางสำนักทะเบียนในประเทศญี่ปุ่นได้บันทึกในทะเบียนแล้วว่านางสาวพรทิพย์เป็นภรรยาตามกฎหมายของนายคูโดะ และด.ญ.ยูริ เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายคูโดะเรียบร้อยแล้ว โดยนายคูโดะได้มอบเอกสารที่ยืนยันรายละเอียดดังกล่าวเป็นภาษาญีปุ่นให้กับนางสาวพรทิพย์ เพื่อที่จะนำไปแปลเป็นภาษาไทยต่อไป

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2554 นายคูโดะได้ยื่นเรื่องการบันทึกรายการสัญชาติญี่ปุ่นของด.ญ.ยูริ คูโดะ ต่อสถานกงสุลญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

 

----------------------------------------------------

จุดเกาะเกี่ยวกับประเทศไทยของนางสาวพรทิพย์ ม่วงทองและบุตร

----------------------------------------------------

  • กรณีนางสาวพรทิพย์          ประเทศไทยเป็นภูมิลำเนาโดยข้อเท็จจริงของนางสาวพรทิพย์ เนื่องจากอาศัยอยู่มาตลอดชีวิต และเป็นรัฐเจ้าของตัวบุคคลของนางสาวพรทิพย์ เพราะนางสาวพรทิพย์ได้รับการบันทึกในทะเบียนราษฎรของไทย ประเภททะเบียนประวัติ ทร.38ก สำหรับบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน
  • กรณี ด.ญ.ยูริ                  ประเทศไทยเป็นประเทศที่ ด.ญ.ยูริเกิด และอาศัยอยู่ในปัจจุบัน และเป็นรัฐเจ้าของตัวบุคคลของด.ญ.ยูริ เพราะ ด.ญ.ยูริ ได้รับการบันทึกในทะเบียนราษฎรของไทย ประเภททะเบียนบ้าน ทร.13 บุคคลที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือในลักษณะชั่วคราว

 

----------------------------------------------------

จุดเกาะเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นของนางสาวพรทิพย์ ม่วงทองและบุตร

----------------------------------------------------

  • กรณีนางสาวพรทิพย์        นางสาวพรทิพย์มีสามีตามกฎหมายเป็นคนสัญชาติญี่ปุ่น และบุตรที่มีสิทธิในสัญชาติญี่ปุ่นโดยกำลังดำเนินการเพื่อใช้สิทธิในสัญชาติญี่ปุ่น
  • กรณี ด.ญ.ยูริ                  ด.ญ.ยูริ มีบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นคนสัญชาติญี่ปุ่น ส่วนตนเองนั้นมีสิทธิในสัญชาติญี่ปุ่นตามหลักสืบสายโลหิตและกำลังดำเนินการเพื่อใช้สิทธิดังกล่าว                 

 

-------------------------------------------------------

ความประสงค์และข้อกังวลของนางสาวพรทิพย์ ม่วงทองและครอบครัว

-------------------------------------------------------

1. นายยูกิฮิโร่ คูโดะ นางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง และด.ญ.ยูริ คูโดะ ต้องการก่อตั้งครอบครัวโดยมีผลตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ นายคูโดะและนางสาวพรทิพย์ต้องการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทย และตามกฎหมายญี่ปุ่นเพื่อเป็นสามีภรรยาตามกฎหมาย และต้องการดำเนินการให้ ด.ญ.ยูริ ได้รับการบันทึกเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายคูโดะ (ขั้นตอนนี้โครงการบางกอกคลินิกฯ และคณะทำงานด้านสิทธิในสถานะบุคคล(.....ชื่อจริงๆ) ในประเทศญี่ปุ่น ได้ประสานความร่วมมือและติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือและดูแลในการดำเนินการนี้จนสำเร็จลุล่วง เหลือเพียงตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารยืนยันการสมรสและความเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายตามกฎหมายญี่ปุ่น)

 

2.  นายยูกิฮิโร่ คูโดะ นางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง และด.ญ.ยูริ คูโดะ ต้องการเดินทางอย่างถูกกฎหมายไปอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวในประเทศญี่ปุ่นโดยเร็วที่สุด ซึ่งกรณีของ ด.ญ.ยูริ นั้นหากได้รับสัญชาติญี่ปุ่นตามบิดาแล้วก็สามารถขอหนังสือเดินทางในฐานะคนสัญชาติญี่ปุ่นได้ ส่วนนางสาวพรทิพย์นั้นจะต้องดำเนินการหลายขั้นตอนตั้งแต่ขออนุญาตออกนอกประเทศ และทำเอกสารเดินทางของคนต่างด้าว ขอวีซ่า (ขั้นตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางและดำเนินการต่อไป)

 

3. เรื่องความไร้สัญชาติของ ด.ญ.ยูริ ทั้งนายคูโดะและนางสาวพรทิพย์ต้องการเร่งดำเนินการให้ ด.ญ.ยูริมีสถานะเป็นคนสัญชาติญี่ปุ่นตามบิดา โดยอาศัยหลักสัญชาติโดยสืบสายโลหิต (ขั้นตอนนี้ ปัจจุบันโดยอาศัยกฎหมายสัญชาติญี่ปุ่นตามหลักสืบสายโลหิตของบิดา นายคูโดะได้ยื่นเรื่องลงรายการสัญชาติญี่ปุ่นของ ด.ญ.ยูริแล้ว โดยรอผลการดำเนินการภายใน 4 เดือน)

 

4. เรื่องความไร้สัญชาติของนางสาวพรทิพย์ ทั้งนายคูโดะ และนางสาวพรทิพย์ ต่างต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องความไร้สัญชาติของนางสาวพรทิพย์ โดยเจ้าของปัญหาไม่ได้จำกัดว่าต้องได้รับสัญชาติไทย หรือสัญชาติญี่ปุ่น ขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้ตามกฎหมายและนโยบาย

 

5. นางสาวพรทิพย์มีความประสงค์ว่าแม้ตนต้องการเดินทางไปอยู่ในประเทศญี่ปุ่น แต่ด้วยยังมีครอบครัวที่เลี้ยงดูตนเองมาตอนเด็กในประเทศไทย จึงประสงค์ที่จะเดินทางกลับมาเยี่ยมเยียนได้ในอนาคต

 

6. ถ้ามีความเป็นไปได้นางสาวพรทิพย์ ม่วงทอง ก็ต้องการเปลี่ยนนามสกุลของตนเองไปใช้นามสกุลของสามี

 

           

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 476631เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2012 18:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 15:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท