โคลงสี่สุภาพ


 

๐ กุญชรชาติคู่บ้าน                  เมืองเรา
หวาดหวั่นพวกคนเขลา           ฆ่าสิ้น
ข่าวคราวฆ่าตัดเอา                  งาคู่ ขนแฮ
ไยจึ่งมาดับดิ้น                         เพราะน้ำมือคน

๐ มงคลเคียงคู่บ้าน                 เมืองสยาม
คราเมื่อศึกสงคราม                คู่จ้าว
ราชพาหนะยาม                      แม้ศึก สงบแฮ
เป็นสัตว์ใหญ่คู่ท้าว                 ธิราชผู้มีบุญ
พระมหาวินัย ๑๙.๒๑ น. : ๑๑ ม.ค. ๕๕

 

๐ กินกลัวกามกลัดกลุ้ม               กะลาหัว
หลับสนิทติดพันตัว                      แต่ต้น
สี่สัญชาตญาณพัว                      พันผูก
คนสัตว์ดุจเดียวด้น                      ดั่งนี้กี่สมัย

๐ สัตว์ใดประพฤติต้อง                ตามธรรม
ยกจิตวิญญาณดำ                       สว่างได้
อิสระล่วงกิเลสจำ                        จองจิต
ปราชญ์เรียกสัตว์ประเสริฐไหว้   ว่าสร้อยมนุษย์ศรี
(ว.วชิรเมธี)

 

๐ กินกามเกียรติกอดเกี้ยว               กุมกมล
มีทั่วทุกตัวตน                                   ตราบม้วย
ยกแต่อริยชน                                   ชั้นยอด
สามสิ่งจักพ้นด้วย                            ดับต้นตัณหา

๐ เทศนาพระตรัสชี้                          เชลงสาร
ยอยกใส่กมลมาน                            มากไว้
ขัดเกลาจิตวิญญาณ                        อยู่ตลอด
ปฏิบัติดังกล่าวได้                            ดับร้อนรุมตน                             พระมหาวินัย ๒๐.๔๑ น. : ๑๒ ม.ค. ๕๕        

 


๐ มวลมนุษย์หมู่มากแม้                  มากมี
มากแต่คนความดี                           กลับสิ้น
ตัณหากิเลสยี-                                ยวนยั่ว เย้าแฮ
กลิ้งกลอกหลอกเล่นลิ้น                  เล่ห์ล้นกลอบาย
(มารบูรพา)

 

๐ สิ่งใดที่ล่วงพ้น                           ผ่านเรา
มีสติมิมัวเมา                                 ยึดไว้
ปล่อยวางจะบางเบา                     บ่หนัก
ชีวิตสดชื่นได้                               ดั่งข้อคำโคลง
พระมหาวินัย ๒๑.๒๒ น. ๑๓ ม.ค.๕๕
 

๐ เรื่องร้ายในโลกล้วน                   เหลือหลาย
รุมรบล้อมใจกาย                           กลัดกลุ้ม
ทำใดบ่วุ่นวาย                                วานบอก
เรียมถูกกิเลสหุ้ม                           ห่ำหั้นหฤทัย
(พระมหาวินัย)

 

๐ ไม่ปล่อยใจสู่ห้วง                       มายา
ก้าวผ่านกิเลสหนา                        เหนื่อยน้อย
ทางธรรมย่อมนำพา                     พบสุข
ไม่โง่หากหลีกคล้อย                     เรื่องร้ายปล่อยวาง
(Toey Supannika ‎)

 

๐ บางทีก็พลาดพลั้ง                   เผลอไผล
ว่าบ่ปล่อยกายใจ                        ยึดหมั้น
แต่กิเลสชักนำไป                        นี่สิ
หิริโอตตัปปะนั้น                      หลบลี้หนีหาย


๐ ปล่อยวางทุกอย่างได้             เป็นดี
สุขโศกประดามี                          มักเย้า
เพียงผ่านกระทบชี -                  วิตเท่า นั้นนา
อีกอย่างควรเร่งเร้า                    รีบสร้างทางกุศล
(พระมหาวินัย)

 

๐ คุณแม่หนาหนักเพี้ยง ...... พสุธา
คุณบิดรดุจอา .................. กาศกว้าง
คุณพี่พ่างศิขรา ................ เมรุมาศ
คุณพระอาจารย์อ้าง .......... อาจสู้สาคร
(โคลงโลกนิติ)

๐ คุณแม่มีมากพ้น ...... พรรณนา
คุณพ่อเกินจักมา ......... วัดได้
คุณพี่ที่พึ่งพา ........... เพียงศิขระ
คุณครุสอนสั่งไซร้ ..... สุดเอื้อนเอ่ยถึง
พระมหาวินัย ๑๖.๑๕ น. : ๑๖ ม.ค. ๕๔


๐ อย่าเอื้อมเด็ดดอกฟ้า ........ มาถนอม
สูงสุดมือมักตรอม ............... อกไข้
เด็ดแต่ดอกพยอม ............... ยามยาก ชมนา
สูงก็สอยด้วยไม้ ................. อาจเอื้อมเอาถึง
(โคลงโลกนิติ)

๐ คำโคลงท่านว่าไว้ ........ เจียมกมล
สูงส่งเกินกว่าตน ............ อย่าคว้า
ครวญใคร่คิดคบคน ......... ควรคู่ เราแล
บุญบ่สมดอกฟ้า ............. อย่าเอื้อมอาจสอย
(พระมหาวินัย)

 

๐ อายครูไซร้ถ่อยรู้ ....... วิชา
อายแก่ราชาคลา .......... ยศแท้
อายแก่ภรรยาหา .......... บุตรแต่ ไหนนา
อายกับทำบุญแล้ ......... สุขนั้นฤามี
(โคลงโลกนิติ)

๐ อายครูบ่รีบรู้ ........... เรียนวิชา
อายชื่นชมภริยา ......... คู่ซ้อน
อายบุญบ่นำพา .......... พูนเพิ่ม
สามสิ่งมัวมาย้อน ....... หยุดยั้งอยู่ไย
(พระมหาวินัย)

 

๐ รู้น้อยว่ามากรู้ ....... เริงใจ
กลกบเกิดอยู่ใน ....... สระจ้อย
ไป่เห็นชเลไกล ....... กลางสมุทร
ชมว่าน้ำบ่น้อย ........ มากล้ำลึกเหลือ
(โคลงโลกนิติ)

๐ รู้น้อยแล้วอวดโอ้ ...... อหังการ์
กลกบกกกะลา ............ ร่ำร้อง
เฉกชนโฉดพาลา ......... ลืมอาต-มะแฮ
เที่ยวป่าวประกาศก้อง ... เก่งกล้าเกินคนฯ
(พระมหาวินัย)

 

๐ หอมกลิ่นดอกไม้ที่ ..... นับถือ
หอมแต่ตามลมฤา ......... กลับย้อน
หอมแห่งกลิ่นกล่าวคือ .... ศีลสัตย์ นี้นา
หอมสุดหอมสะท้อน ...... ทั่วใกล้ไกลถึง
(โคลงโลกนิติ)

๐ สุคนธ์ส่งกลิ่นได้ ................. ตามลม
บ่ห่อนผิดนิยม ....................... แน่แท้
ศีลสัตย์ที่อบรม ..................... หอมทั่ว ทิศนา
เทพมนุษย์พรหมโลกแล้ ........ รับรู้กลิ่นหอม
(พระมหาวินัย)

 

๐ เว้นวิจารณ์ว่างเว้น ....... สดับฟัง
เว้นที่ถามอันยัง .............. ไป่รู้
เว้นเล่าลิขิตสัง- ............. เกตว่าง เว้นนา
เว้นดั่งกล่าวว่าผู้ ............ ปราชญ์ได้ฤามี
(โคลงโลกนิติ)

๐ ขาดสดับรับรู้ ............ เรื่องราว
ขาดพิจารณาสาว ......... สืบค้น
ขาดถามไถ่ถูกคราว ...... คราขัด ข้องแฮ
ขาดดั่งกล่าวพลาดพ้น .. พบพ้องเมธี
(พระมหาวินัย)

 

๐ คุณธรรมไยเว้นว่าง ........ ปัญญา
นายกลิขิตอักษรา .............. มอบไว้
คำขวัญสื่อออกมา ............. ดูเหมาะ สมฤา
รู้คู่ปัญญาไซร้ .................. ถูกต้องคุณธรรม

๐ รู้รักอย่าแตกร้าว ........... สมัคคี
รู้รอบฤาลืมดี ................... เด็กน้อย
รู้ชาติศาสน์กษัตริย์ศรี ....... สูงส่ง
รู้เรื่อง"เทคโนฯ"ร้อย ......... เลือกเฟ้นใฝ่เรียน

พระมหาวินัย  (เนื่องมาแต่วันเด็ก.  สมัคคี ยักเยื้องเขียน)

 

คำสำคัญ (Tags): #โคลงสี่สุภาพ
หมายเลขบันทึก: 475419เขียนเมื่อ 20 มกราคม 2012 11:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน 2012 07:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ

  • พระคุณเจ้าห่างหายจากการเขีัยนบันทึกนานมากแล้วนะคะ
  • หวังว่าพระคุณเจ้าคงสบายดี
  • ถ้ายังไงก็กราบนิมนต์แสดงความเคลื่อนไหวหน้าบล็อก
  • เพื่อส่งข่าวให้ทราบว่าพระคุณเจ้าสบายดีด้วยนะคะ
  • จะรอฟังข่าวค่ะ

.....คุณครูเพิ่งเข้ามาบันทึกนี้ได้ ใส่รหัสผิด ใส่ถูกอยู่แต่ระบบบอกว่าผิด ก็ทำซ้ำอยู่จนได้ ขอให้คุณครูมีสุขภาพแข็งแรงครับ.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท