กฏหมาย SOPA / PIPA ของประเทศสหรัฐอเมริการ กลายเป็นประเด็นสำคัญของบรรดาผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต เพราะจะเป็นกฎหมายที่ส่งผลกระทบให้กับเว็บไซต์มากมายที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากกฎหมายให้อำนาจในการจัดการเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธ์ และปิดเว็บไซต์ได้โดยการบล็อกไอพี
SOPA ย่อมาจาก Stop Online Piracy Act หมายถึง กฎหมายป้องกันการละเมิดลิขสิทธ์ออนไลน์
PIPA ย่อมาจาก Protect Intellectual Property Act หมายถึง กฏหมายป้องกันลิขสิทธิ์ทางปัญญา
สองกฎหมายต่างกันตรงที่กฎหมายป้องกันการละเมินลิขสิทธิ์ออนไลน์ (SOPA) จะเน้นที่การละเมิดลิขสิทธิ์ของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่นำเอาข้อมูล หรือบรรดาสื่อต่าง ๆ ที่มีลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่โดยไม่รับอนุญาต จะต้องหยุดการกระทำ โดยฟ้องที่เว็บไซต์ได้โดยตรงเน้นที่สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ขณะที่กฎหมาย PIPA จะแรงกว่าโดยการใช้กฎหมายปิดเว็บไซต์ด้วยการปิด IP ของผู้ให้บริการโดยไม่ต้องรอผ่านกระบวนการขั้นตอนของศาล ทำให้เชื่อว่าน่าจะดำเนินการต่อผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้รวดเร็วขึ้น
มองในแง่ความถูกต้องชอบธรรมในสังคม ก็ต้องยอมรับว่ากฎหมายทั้งสองฉบับนี้ คุ้มครองผู้ผลิตและมีสร้างสรรค์ผลงาน เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งและสมควรกระทำเพื่อให้นวัตกรรมและสารสนเทศต่าง ๆ ได้รับคามคุ้มครอง
ขณะที่มุมมองบรรดาเว็บไซต์ทั้งหลาย เป็นเรื่องที่ลำบากมากในการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ในเว็บไซต์ที่ตนเองให้บริการ โดยเฉพาะบรรดาเว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ที่มีข้อมูลเข้าสู่เว็บมากมายมหาศาลในแต่ละวัน จะตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างไร
หลายเว็บไซต์จึงออกมาต่อต้านกฎหมาย SOPA / PIPA อย่างหนัก เพราะทุกเว็บไซต์จะได้รับผลกระทบในการให้บริการ การโฆษณาในเว็บไซต์ การตรวจสอบข้อมูลในเว็บ การปิดเว็บไซต์ได้ทันที่ถ้าเห็นว่ามีการกระทำผิด ฯลฯ
เป็นอีกกรณีศึกษาหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
...........................................................................................................
ไม่มีความเห็น