" ปัญหาของระบบบริการสาธารณสุขกับการประกันสุขภาพ จากชุดโครงการวิจัย การจัดทำข้อเสนอระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ และคณะ เมื่อปี 2548 รายงานว่าบุคลากรทางการแพทย์ลดลง มีการสูญเสียแพทย์โดยเฉลี่ย 42%ของจำนวนที่เพิ่มมาใหม่ในแต่ละปี ในขณะที่มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยจำนวนผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น 63% ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้นต่ำกว่าปีละ 10% นอกจากนี้ ยังมีการร้องเรียนเรียกค่าชดเชยผ่านกองทุนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ทำให้ปัญหาความขัดแย้งนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปรากฏการณ์ที่พบ คือ กลุ่มผู้ให้บริการมีความเครียดมากขึ้น"
เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนเห็นว่า คือการเสียสมดุลระหว่าง คนกับงาน
ทางแก้ทางออกคืออะไร เพิ่มเงินเพิ่มค่าตอบแทน?
เพิ่มคนจากไหน มากเท่าไหร่ ?
เพิ่มหรือขยายเวลาทำงาน?
แล้วลดงานลงได้ไหม?
อะไรคือวิธีการแก้ปัญหาที่สร้างความสมดุลได้ดีที่สุด....ความท้าทายสำหรับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในระบบสุขภาพ ช่วยๆกันเสนอค่ะ....
โดยความเห็นของผู้เขียนแล้ว ความสำคัญอันดับหนึ่ง คือ ลดงาน งานที่ต้องพึ่งพิงบริการจากระบบบริการสาธารณสุขโดยตรง เช่น การเข้ารับการรักษาพยาบาล ด้วยกระบวนการเสริมสร้างพลัง(empowerment)ให้ประชาชนมีความฉลาดทางสุขภาวะ(Health literacy) ซึ่งประเด็นนี้คงจะได้ช่วยกันต่อยอดในโอกาสต่อไปนะคะ
จุดประกายความคิดโดย รศ.ดร.มานพ คณะโต
ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สวัสดีครับคุณ ภควรรณ ลดงานในการจัดการ เป็นเรื่องน่าคิด เพราะคิดและทำเรื่องการเพิ่มเงินแล้ว ยังมีปัญหา
(โดยความเห็นของผู้เขียนแล้ว ความสำคัญอันดับหนึ่ง คือ ลดงาน งานที่ต้องพึ่งพิงบริการจากระบบบริการสาธารณสุขโดยตรง เช่น การเข้ารับการรักษาพยาบาล ด้วยกระบวนการเสริมสร้างพลัง(empowerment)ให้ประชาชนมีความฉลาดทางสุขภาวะ(Health literacy) ซึ่งประเด็นนี้คงจะได้ช่วยกันต่อยอดในโอกาสต่อไปนะคะ)
ในประเด็นนี้ชาวช้านคนทำงานชุมชชนเขาก็ตั้งวงคุยกันว่า จะสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน
ยกระดับเป็นชุมชนจัดการตนเอง ก็ต้องทำให้ชุมเป็นชุมชนสุขภาวะ ซึ่งบางแห่งก็ขับเคลื่อนไปแล้ว
พัทลุงก็ขับภายใต้โครงการเมืองลุงน่าอยู่
จัดงานประเพณีปลอดเหล้า มาแล้ว
ขอบคุณค่ะ ได้ฟังความขยันขันแข็งของคนทำงานแล้วก็ชื่นใจค่ะ
ทำอย่างไร ผลน่าพอใจไหมคงจะได้ติดตามเรียนรู้จากคนพัทลุงนะคะ