เที่ยวเมืองจีน กินอาหารจีน ซื้อของฝากจีน


การไปเที่ยวเมืองจีนที่ปักกิ่ง 2 ครั้งสิ่งที่เหมือนกันคือ เดิน เดิน เดิน และต่อราคาแบบต่อกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์

ทัวร์จีน ท่องแดนมังกร เมืองแห่งการ เดินตะลุยชมเมือง เลือกซื้อของฝากจีน แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ของฝากจีน และ ทัวร์จีน

สินค้าของฝากจีน ของที่ระลึกจีน

1. กำไลหยก(ปลอม) จาก 10 หยวน (เราซื้อที่กำแพงเมืองจีน 3 – 5 หยวน ) จึงแกล้งบอกราคาไป 2 หยวน แม่ค้ากลับเสนอว่า 5 อัน 10 หยวน

2. เหรียญพิชิตกำแพงเมืองจีน ทองแดงเราต่อรองกันได้เพียง 4-5 หยวน หรือประกาศนียบัตรพิชิตกำแพงเมืองจีน

3. เสื้อยืดจีน ราคาไม่แพง มีผ้าบาง กับผ้าหนาให้เลือก

4. แมกเนตกำแพงเมืองจีน อันละ 1-2 หยวน (ซื้อ 20 อัน)

5. กำแพงเมืองจีนใส่กล่องเขียวอันเล็ก 2-5 หยวน อันกลาง 5-10 หยวน และอันใหญ่ให้เลือก

6. สินค้าตลาดรัสเซีย เป็นของกอปเกรด A-B ทั้งกระเป๋า รองเท้า ต้องต่อราคาเกินครึ่ง และระวังพ่อค้าแม่ค้าด่าเสียงดัง

7. ภาพจีน อักษรจีน พิมพ์ใส่กระดาษ

8. หมวกคุมกันลมหนาวรูปหมีแพนด้า

9. ชาจีน ราคาค่อนข้างแพง ส่วนยาจีนไม่แนะนำให้ซื้อ

10. ครีมบัวหิมะ ซื้อได้ สรรพคุณดี แต่ราคาค่อนข้างแพง เพราะไม่มีกระปุกเล็ก

11. ครีมไข่มุกผสมผงทอง ต้องใจแข็งต่อรอง ซื้อ 1 แถม 1 อย่าเชื่อคนขายว่าราคาเดิมไม่มีแล้ว เพราะไปสองครั้งก็มีทั้งสองครั้งหรือซื้อก่อนกลับได้ซื้อครีม 1 แถม 1 กับแถมอีก 1 เป็นผงไข่มุก (ซึ่งซื้อได้จริง และซื้อมาแล้ว ตอนไปครั้งสอง) และต้องยันราคา

12 สตอร์เบอรี่จีนลูกใหญ่น่าซื้อกิน

13 พวงกุญแจแพค

ทัวร์จีน ตะลอนทัวร์ปักกิ่ง

สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่คนไทยนิยมไปเยือนกันอีกแห่งหนึ่ง คือ เป่ยจิง ตามสำเนียงภาษาจีนกลาง หรือที่คนไทยรู้จักตามคำภาษาจีนแต้จิ๋วว่า ปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมหานครจีน มีสัญลักษณ์อันโด่งดัง คือ กำแพงเมืองจีน หรือ The Great Wall ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ด้วยเหตุสาธารณรัฐประชาชนจีนมีที่ค่าครองชีพไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับสิงค์โปร์ ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ประกอบกับมนต์เสน่ห์ของดินแดนแห่งมังกร ที่มีแหล่งเลือกซื้อสินค้าให้คนไทยต่อรองกันได้สุดเหวี่ยง โดยไม่เสี่ยงต่อสวัสดิภาพ จึงทำให้มีทัวร์จากเมืองไทย เดินทางไปปักกิ่งกันเนืองแน่น ดังจะเห็นได้จากรายการโฆษณาทัวร์ตามหน้าหนังสือพิมพ์มักมีทัวร์เมืองจีนเป็นล่ำเป็นสัน จากประสบการณ์การไปกำแพงเมืองจีนสองครั้งในระยะห่างกัน 2 ปี

การเดินทางครั้งแรก คณะเราใช้บริการของสายการบินแอร์ไชน่า ไม่ใช่ว่าเราไม่รักชาติกันนะ แต่เป็นเพราะความแตกต่างด้านราคาประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งเรารู้สึกว่าเมื่อเราขึ้นเครื่องการบินไทย เรากลัวจะเป็นลูกค้าชั้นสองรองจากพวกหัวแดงทันที นับเป็นการเดินทางสุดคุ้มเพราะทัวร์ทริปนี้จากเดิมตั้งใจจะเดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัวแค่ 3 วัน 2 คืน (นับเฉพาะวันเที่ยว ไม่นับวันเดินทางไป-กลับแบบทัวร์นับ) ปรากฏว่าวันที่เราจะกลับเครื่องเต็ม ทางบริษัททัวร์จึงแถมให้เราอีก 1 วันเป็น 4 วัน 3 คืนในราคาเดิม

เครื่องบินร่อนลงจอดสนามบินปักกิ่ง เช้าพอดีหลังรับประทานอาหารเช้าเราไปจุดหมายแรกที่จัตุรัสเทียนอันเหมินที่มีรูปประธานเหมาติดอยู่ บริเวณนี้เราเห็นรถกวาดถนน ที่เหมือนรถกวาดตะปูเรือใบในภาคใต้ แล้วชมพระราชวังโบราณ ชมความยิ่งใหญ่อลังการของอารยธรรมจีน พระราชวังโบราณมีพื้นที่กว้างขวางจนคณะเราขอเดินเพียงครึ่งเดียว จากทางเข้าบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน ถึงทางออกอีกด้านที่เป็นถนน โดยไม่ข้ามไปชมพระราชวังอีกส่วน การเที่ยวโบราณสถานเมืองจีนเราขอแนะนำว่าถ้ามีห้องน้ำที่ไหนให้เข้าไว้ก่อน มิฉะนั้นอาจหน้าเขียวหน้าเหลืองได้กว่าจะพบห้องน้ำอีกจุดหนึ่ง จากนั้นไปชมโรงงานขายผลิตภัณฑ์ยาบัวหิมะ กอเอี๊ยะ ยาหม่องน้ำ สินค้าดี ราคาแสนแพง โปรแกรมบังคับโปรแกรมหนึ่งในหกรายการ

ช่วงเย็นไปดูกายกรรมจีนที่สนุกตื่นตา นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ด้านการแสดงอย่างหนึ่ง ที่ผู้ชมคนไทยเต็มไปหมด เสร็จจากกายกรรม เป็นเมนูเป็ดปักกิ่ง ที่กุ๊กนำเป็นมาเฉือนโชว์

วันที่เยือนสองโลกใต้น้ำ under water world ชมธรรมชาติของสัตว์ทะเล ซึ่งดูมีขนาดใหญ่กว่าที่พัทยา แต่สูสีกับสิงคโปร์ ที่นี่มีมันเผาให้ซื้อกินด้วย จากนั้นไปชมหมีแพนด้าที่สวนสัตว์ปักกิ่ง ที่นี่ทำให้เรารู้ว่าก่อนเข้าห้องน้ำควรเคาะประตูหรือค่อย ๆ ดันประตู อย่างเปิดพรวดไป เพราผู้ใช้บางคนไม่ได่ใส่กลอน

จากนั้นเป็นโปรแกรมบังคับรายการที่สอง ที่ทัวร์ต้องไป คือ ไปนวดฝ่าเท้า โดยนวดฟรี หากมีน้ำใจจะมอบให้ผู้นวดสามารถมอบให้ได้ตามอัธยาศัย เมื่อไปถึงเราจึงรู้ว่าที่อาเหลียงไกด์จีนที่พูดไทย บอกจะพาไปนั่นคือศูนย์วิจัยยาตามที่คุณต้นไกด์ไทยเล่าให้ฟังนั่นเอง ที่ศูนย์แห่งนี้ จะมีบริการนวดฝ่าเท้าแช่สมุนไพรแบบจีน โดยซองสมุนไพรเป็นผงบรรจุซองแบบซองชานั่นเอง จากนั้นจะมีหมอแมะหรือหมอจับชีพจร แล้วเชิญชวนซื้อยารักษาอาการต่าง ๆ ซึ่งราคาค่อนข้างหนัก แต่หมอก็บอกได้ถูกโรคจริงจนหลายคนยืนยัน เจ้าหน้าที่บางคนในศูนย์เคยมาอยู่ในไทยจึงพูดภาษาไทยได้คล่อง และบางส่วนกำลังหัดพูดภาษาไทย แล้วกินอาหารที่ร้านมาโคร โปโล

ต่อจากนั้นไปชมพระราชวังฤดูร้อนที่พระนางซูสีไทเฮาสร้าง มีการใช้แรงงานคนขุดทะเลสาบ มีระเบียงยาวที่ทอดยาวไปจนถึงเรือหินอ่อนที่สร้างจากหินอ่อนขนาดเท่าเรือจริงอยู่ในน้ำดูงามตาจนทุกคนต้องถ่านรูปเป็นที่ระลึก จุดนี้เดินกันพอสมควร โชคดีที่ขากลับเป็นการนั่งเรือหัวมังกรกลับ มาถึงที่นี่อาเหลียงจะคุยถึงความงามของพระนางซูสีไทเฮากับไข่มุกบ่อยมาก ที่นี่มีห้องน้ำน้อยมากเหมือนเคย จากนั้นไปโปรแกรมบังคับถัดมาชมและเลือกซื้อครีมไข่มุกน้ำจืดผสมผงทอง เราจึงถึงบางอ้อ ว่าอาเหลียงแอบโฆษณาสินค้าจีนอีกแล้ว เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจกลุ่มแรกในคณะเราจึงซื้อตามคำเสนอที่จะแถมแหวนไข่มุกให้ (เป็นธรรมเนียมการไปจีน เราจะไม่บอกราคาให้กรุ๊ปอื่นรู้กลัวจะปล่อยไก่ถ้าซื้อแพงกว่า) จากนั้นกลุ่มที่สองของเราซื้อบางปรากฏว่าซื้อได้ราคาเดียวกัน แต่แถมครีมไข่มุกมากอีกหลายกระปุก

ถัดมาวันที่สามมุ่งตรงกำแพงเมืองจีน ตามรอยอารยธรรมจีน วันนั้นรถติดมาก เล่นเอาเสียเวลาไปนาน ก่อนถึงกำแพงเมืองจีนเจอโปรแกรมบังคับคือดูหยกก่อน ไปถึงกำแพงเมืองจีนสิ่งแรกที่ทุกคนทำกันจึงเป็นการเข้าห้องน้ำ ที่กำแพงเมืองจีนเราเดินขึ้นกำแพงเมืองจีนได้ไม่ถึงสองป้อมก็หมดแรง หลายคนเลือกซื้อใบประกาศนียบัตรพิชิตกำแพงเมืองจีน บางคนอยากซื้อเหรียญพิชิตกำแพงเมืองจีน แต่ราคา 15 หยวนจึงไม่ซื้อ กลับลงมาข้างล่างเลือกซื้อสินค้า ที่นี่เป็นจุดไฮไลต์การเลือกสินค้าเพราะเราสามารถต่อได้ตามอัธยาศัย เรียกว่าเป็นมหกรรมการต่อ เหรียญพิชิตกำแพงเมืองจีน ทองแดงเราต่อรองกันได้เพียง 4-5 หยวน เสื้อยืดราคาไม่แพง กำไลหยก(ปลอม) นับว่าต่อกันสนุกจนสินค้าของฝากเต็มคันรถทีเดียว

จากนั้นชมสุสานกษัตริย์ที่อาเหลียงไกด์จีนบอกอย่าต่อราคาส่งเพราะมีเจ้าถิ่นคุม หลังชมสุสานกษัตริย์ เราจึงคิดว่าจะเดินชมเท่านั้น แต่เมื่อแม่ค้ามาเสนอราคาสินค้า เห็นเราไม่ต่อจึงเดินตามแล้วบอกให้ลองบอกราคาก่อน เราจึงแกล้งบอกราคา จึงเป็นอันตกลง แล้วกลับเข้าเมืองชมโปรแกรมบังคับรายการที่ 4 คือพิธีชงชา เพื่อเสนอขายชาในราคาแสนแพง แต่คณะเราก็ยังอุดหนุน ที่นี่เราเลยมีการสาธิตพิธีแต่งงานแบบยกน้ำชากันเป็นที่สนุกสนาน

เช้าวันที่สี่เริ่มจากโปรแกรมบังคับ พาชมโปรแกรมบังคับผีสิ้วหยก สัตว์นำโชคที่ป้อมรักษาเมืองในอดีต ซึ่งไม่พลาด คณะของเราก็ยังอุดหนุนกัน จากนั้นชมวัดลามะสักการะเจ้าแม่กวนอิมไม้ที่สวยงามนัก ตามด้วยโปรมบังคับลำดับสุดท้าย ชมโรงผ้าไหม ที่นี่คนขายคงผิดหวังเล็กน้อยเพราะขายได้หมอนใบเดียว(ราคาไม่เบาเหมือนหมอนเลย) ช่วงบ่ายแวะตลาดรัสเซีย ซึ่งอาเหลียงแนะนำว่าตลาดรัสเซียในปักกิ่งมี 3 แห่ง วันนี้พาไปตลาดรัสเซียแห่งที่ 2 ซึ่งมี 4 ชั้นก่อน เพราะราคา และต่อรองราคาได้ เราซื้อของฝากและกระเป๋าล้อลากเพื่อใส่บรรดาสิ่งของที่ซื้อกันมันมือ ได้ mp4 และ handy drive 8 G ติดมือกลับบ้านหลายอัน (เจ้า 8 จิ๊กนี่แสบนัก ถึงเมืองไทยใช้ได้ครั้งสองครั้งพังทุกอัน) จนได้เวลานัดนำเราสู่ ถนนคนเดิน เดิน... เดิน... แล้วก็เดินกว่าจะถึง เพราะทางการจีนไม่ให้จอดบริเวณเนื่องจากการจราจรหนาแน่น เสร็จแล้วไปกินสุกี้ ที่ต้มด้วยตะเกียงมีเหล้าจีนเป็นเชื้อเพลิง

วันสุดท้ายของทริปนี้จากเดิมจะไปตลาดรัสเซียอีกสองแห่ง แต่สินค้าที่ซื้อเกิดมีปัญหา คือ ถ่านกล้องวิดีโอโซนี่ ราคา 600 บาท จึงไปเปลี่ยน(ปัจจุบันถ่านก้อนนี้ยังใช้ได้) แล้วจึงไปตลาดรัสเซีย 6 ชั้นดั้งเดิม ซึ่งสินค้าแพง ต่อราคาแทบไม่ได้ หนึ่งในทีมของเราจะซื้อกระเป๋าอีกใบ พอต่อราคาไม่ได้จึงบอกว่าเราซื้อมาราคานี้ พวกนั้นตีหน้าตายขอซื้อต่อทันที เพราะรู้ว่าเราไม่ยอมขายแน่ อีกคนในทีมเราซื้อไว้หลายใบ จึงแกล้งต่อราคาแล้วบอกว่ากระเป๋าซื้อมาราคาถูกกว่านี้โดยบวกราคากระเป๋าตัวเอง 10 หยวน ได้ผลแม่ค้ามาลีลาเดิมขอซื้อต่อ พอทีมงานเราจะขาย แม่ค้ากลับรีบเดินหนีไป (ฮา) พวกเราใช้เวลาที่ตลาดรัสเซียแห่งนี้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ออกมา ดีที่คุณต้นไกด์ไทยบอกลายแทงว่ามีร้าน KFC และ Supermarket ที่มีเป็ดปักกิ่งบรรจุซองฟอล์ยจำหน่าย เราจึงไปรอกันที่เคเอฟซี สั่งเข่อร์เล่อร์(โคล่า) กับชี้ภาพนักเกตไก่แล้วสั่งเป็นภาษาอังกฤษพร้อมเฟรนฟาร์ยมากิน แล้วทยอยไปห้างสรรพสินค้าข้างเคเอฟซี เพื่อซื้อเป็ดปักกิ่ง แต่หลายคนเห็นขนมปังหมีราคาถูกกว่าไทยมากจึงซื้อกลับมาคนละเป็นสิบกล่อง จากนั้นไปตลาดรัสเซีย 3 ซึ่งค่อนข้างเงียบแต่ต่อราคาได้ แล้วจบโปรแกรมด้วยการเลี้ยงส่งของอาเหลียงก่อนเดินทางกลับสู่เมืองไทยเช้าวันถัดมาเปิดอันจบทริปเมืองปักกิ่งครั้งแรก////

ส่วนการเดินทางครั้งที่สองสถานที่ไปแตกต่างกันเพียงหอฟ้าเทียนถาน สนามกีฬารังนกและการขึ้นกำแพงเมืองจีนด้วยกระเช้าที่ได้ความสนุกอีกแบบที่ไม่เหนื่อยมากนัก และได้ซิมอาหารบุฟเฟ่ต์เพิ่มขึ้น เที่ยวนี้ไม่ได้แวะร้านบัวหิมะ แต่ร้านไข่มุกยังคงต่อรองได้เยอะเหมือนเดิมประเภท ซื้อ 1 แถม 2 ส่วนการนวดเปลี่ยนไปทีสนามกีฬารังนก อาหารจีนที่ไปชิมคือเป็ดปักกิ่ง บุฟเฟต์ สุกี้จีน และอาหารอื่นๆ

สายการบินจีน ขากลับจากจีนมาไทยต้องนั่งชัทเทิลบัสไปขึ้นเครื่อง

รถรางกรุงปักกิ่ง

629/290412

หมายเลขบันทึก: 471966เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2011 16:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 สิงหาคม 2015 10:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
มาเยี่ยมเยือนครับ
ห้องนี้มีใช้เพื่อถ่ายทุกข์
เหลือความสุขง่ายง่ายที่ได้เห็น
หากไม่มีซิลำบากแสนยากเย็น
แบกทุกข์เข็ญหาที่ถ่ายทุกข์ไม่เจอ เอย

 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท