เรื่องเล่าจากน้ำท่วม ตอน ครัวอาสาจากเกาะลันตา


พวกเขาเลือกที่จะอยู่ แต่เราจะไม่เลือกปฏิบัติ มหาวิทยาลัยจะเป็นศูนย์กลางการรับบริจาคเพื่อรวบรวมและส่งออกอาหารไปยังจุดต่างๆ ทั้งในรูปของวัตถุดิบและอาหารพร้อมรับประทาน

ครัวอาสาจากเกาะลันตา 

         เรื่องอาหารการกินไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกแล้ว เมื่อจะต้องจัดเลี้ยงผู้พักพิงหกเจ็ดร้อยคน รวมทั้งคณะทำงานอีกจำนวนหนึ่ง เป็นเวลาสามมื้อต่อวัน ทั้งยังต้องจำแนกแยกแยะอาหารตามลักษณะโภชนาการของผู้สูงวัยและผู้ป่วยอีก  งานนี้จึงต้องระดมมืออาชีพ คือ คณาจารย์และบุคลากรของโปรแกรมวิชาการจัดการอาหาร มาจัดการ

         หากนั่นก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของผู้ประสบอุทกภัยทั้งหมด ซึ่งขณะนั้นกองทัพน้ำได้เข้ายึดครองพื้นที่ มีชัยเหนือที่ราบลุ่มหลายแห่งในอำเภอบางเลน นครชัยศรี และพุทธมณฑล ไปเรียบร้อยแล้ว 

         ก็แล้วมหาวิทยาลัยของเราจะทนดูดายได้อย่างไรกับพี่น้องอีกจำนวนมากที่ทั้ง “ติดเกาะ” และ “เกาะติด” อยู่ที่บ้าน  ความเป็นห่วงและความคุ้นเคยกับพื้นถิ่นทำให้หลายคนไม่อยากอพยพไปไหน ตราบใดที่ยังพอมีซอกหลืบที่พ้นน้ำไว้ซุกนอน

         “พวกเขาเลือกที่จะอยู่ แต่เราจะไม่เลือกปฏิบัติ  มหาวิทยาลัยจะเป็นศูนย์กลางการรับบริจาคเพื่อรวบรวมและส่งออกอาหารไปยังจุดต่างๆ ทั้งในรูปของวัตถุดิบและอาหารพร้อมรับประทาน”

         นี่เป็นงานที่เรารับอาสาในระหว่างการประชุมร่วมกับเครือข่ายภายนอก และเป็นประเด็นที่ใช้ในการสื่อสารกับสื่อมวลชนในการรณรงค์รับบริจาค

         แล้วพืช ผัก ผลไม้ เครื่องปรุงรส  เนื้อสดและของแห้ง ก็ถูกบรรทุกเข้ามาเป็นคันรถๆ !!!  

         เพราะยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ผู้ประสบภัยได้หนีน้ำขึ้นมาอยู่รวมกัน อยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่กี่สิบคนไปจนถึงสองสามร้อย บ้างเข้ามาอาศัยวัด บ้างก็ใช้หน่วยงานของรัฐ  ทำครัวกันเองจากพืชผักและปลาที่หาได้  พวกเขาพยายามที่จะจัดการตนเอง  แต่การสัญจรที่ยากลำบากและการเข้าไม่ถึงของสื่อต่างๆ ก็อาจทำให้ชุมชนกลางน้ำเหล่านี้ไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลือ

         อาศัยเครือข่ายการทำงานร่วมกับภาคประชาชนและองค์กรชุมชน ตลอดจนการทำงานกับท้องถิ่นมานานของมหาวิทยาลัย จึงทำให้เรามีข้อมูลที่ตรวจสอบได้อย่างแน่ชัดในทุกพื้นที่  การปักหมุดเพื่อการแบ่งปันและจัดสรรทรัพยากรทั้งถุงยังชีพ อาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ ได้เริ่มขึ้น

         บุญนำพา วาสนาเสริมส่ง เมื่อได้ทราบข่าวจากท่านเจ้าคุณอธิการบดี มมร. ว่า  พระคุณเจ้าจากวัดเกาะลันตาและญาติโยมในนาม “ชาวกระบี่ประสานใจ บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม”   รวม 6 รูป/คน   นำโดยพระอธิการทรงชัย ตปสีโล เจ้าอาวาส   ตามด้วยพระอาจารย์สุชาติ, พระอาร์ต, พระเอ๋, ป้าอรและโยมแม่ของท่านเจ้าอาวาส ขออาสามาเป็น “ครัวบุญ” จัดทำอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานเพื่อส่งออกให้กับผู้ประสบอุทกภัย

         ศูนย์พักพิงมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมจึงมีสองครัว  ครัวหนึ่ง ดูแลจัดเลี้ยงภายใน  ส่วนอีกครัวของพระคุณเจ้า จัดเลี้ยงภายนอก

         ว่ากันโดยจริงแล้ว คงเป็น “ธรรมะจัดสรร” ครัวบุญของเกาะลันตานี้ ได้ออกจากเกาะมาพร้อมเครื่องครัว หม้อหุงข้าว เตาแก๊ส ภาชนะทุกชนิดที่ใช้ในการหุงต้มและวัตถุดิบมากมาย มาทำครัวอยู่ที่วิทยาลัยการอาชีพ อ. มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของมหันตภัย แต่อยู่ได้เพียงห้าวันก็ต้องกลับไปรับกฐิน แล้วกลับมาอีกครั้งปักหลักอยู่ที่ศูนย์พักพิง มมร.  หากเพียงไม่กี่มากวัน ท่านและคณะก็ต้องโยกย้ายตัวเองอีกครั้งออกจากพื้นที่ มาอยู่กับเรา ณ ที่นี้  

         เป็นเวลายาวนานถึงสิบสี่วันแห่งการทำครัวเพื่อยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยภายนอก รวมประมาณเจ็ดหมื่นชุดอาหาร 

         พระอาจารย์  เป็นผู้จัดการทั่วไปและรับงาน/ พระอาร์ต หุงข้าว/ หลวงพี่สุชาติ ผัดข้าว/ ป้าอร แม่ครัวหลัก/ โยมแม่ เตรียมวัตถุดิบ/ พระเอ๋และพระศุภชัย จัดห่อและส่งมอบงาน  โดยมีอาจารย์ บุคลากรและนักศึกษามาร่วมผลัดเวรกันเป็นจิตอาสา แต่หลายคนก็มาแบบไม่มีเวร (แต่คงมีกรรม- กุศลกรรม) เช่น พระศุภชัย ที่เพิ่งได้มาพบและรู้จักกับท่านเจ้าอาวาสตั้งแต่วันแรกที่นี่ ก็ขออาสามาร่วมเป็นกำลังหลักในการช่วยงานโดยตลอด ทั้งยังมีผู้พักพิง คณาจารย์ของเราและคนภายนอกที่มีจิตอาสาอีกหลายคนได้เข้ามาทำครัวแบบประจำการ

         ตั้งแต่เช้าจรดเย็นที่กายได้เคลื่อนไหว มือเป็นระวิง แต่ใจพลันสงบนิ่งกับเสียงเพลงสวดมนต์สลับกับเสียงธรรมะจากพระคุณเจ้า

         วันแล้ววันเล่า ... จนถึงวันที่งานเลี้ยงต้องเลิกรา

         เช้าวันรุ่งขึ้นของการปิดครัวเพื่อส่งออก เราได้จัดให้มีพิธี “สามีจิกรรม” โดยมีพ่อมหามนตรีและมหาญาณภัทรช่วยจัดการ เพื่อขอลุแก่โทษ หากมีสิ่งใดที่พลาดพลั้งเผลอไป โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ โดยกาย วาจาหรือใจ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังในระหว่างการทำงานร่วมกัน ก็ขอให้พระภิกษุทั้งหลายโปรดให้อภัยและอโหสิกรรมด้วย  บาปและเวรกรรมจะได้ไม่ติดตัวเราไปในชาติภพต่างๆ  สาธุ...สาธุ...

           มาบัดนี้เต็นท์ที่เคยมีผู้คนขวักไขว่ กลับเงียบเชียบ เหงา เศร้าอยู่ลึกๆ

วันคืนดีๆ ผ่านมา แล้วผ่านไป... มันเป็นเช่นนี้เอง 

ความว่างเปล่า... ย้ำเตือนกับเราอีกครั้ง ... อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

หมายเลขบันทึก: 470420เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2011 08:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 15:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท