กิโมโน ชุดประจำชาติญี่ปุ่นที่สง่างาม 日本を代表する素敵な服!着物


kimono

โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นอาจารย์แบงค์ http://www.ajarnbank.com/

   ชุดกิโมโน(着物)เป็นชุดแต่งกายประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น มีประวัติความเป็นมาช้านาน


   โดย ถ้าพูดถึงชุดกิโมโน(着物) อย่างแรกที่หลายๆคนนึกถึงก็คือความสง่าที่เพรียบพร้อมไปด้วยความสวยงามของ ชุดนะครับ อาจารย์เชื่อว่าผู้หญิงหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาว หรือหญิงสาวเหลือน้อย คงจะต้องคิดว่าอยากจะลองใส่ดูสักครั้งในชีวิต และถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกเป็นแน่


   แต่ ใครจะรู้บ้างว่า กิโมโนนั้นมีการสวมใส่ที่ยากมาก จนคนญี่ปุ่นบางคนหลายคนพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นชุดที่ใส่คนเดียวไม่ได้ ต้องมีคนมาช่วยใส่ โดยคันจิในภาษาญี่ปุ่นของคำว่ากิโมโน จะมาจาก คันจิสองตัวมารวมกันนั่นก็คือ 着る(V2)= สวมใส่ และคันจิตัว 物(N)= สิ่งของ นำมารวมกันคือ สิ่งของที่ใช้สวมใส่ ก็เลยออกมาเป็นชุดกิโมโนที่เราเห็นกันนะครับ


   ส่วนประกอบของกิโมโนนั้นก็จะเป็นตามรูปที่อาจารย์นำมาให้ดู และแปลภาษาไทยเอาไว้แล้วด้านล่างนะครับ

 

kimono-2


   ประวัติ ของชุดกิโมโนนั้น มีมาอย่างยาวนานมากในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเฮอัน หรือตรงกับ ค.ศ. 794-1192 ( ประมาณ พ.ศ. 1337-1735 )ก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นสมัยนารา ( ค.ศ. 710-794 ) ชาวญี่ปุ่นนิยมแต่งชุดท่อนบนกับท่อนล่างเหมือนกันหรือไม่ก็เป็นผ้าชิ้นเดียว กันไปเลย พอมาถึงสมัยเฮอัน ซึ่งถือเป็นช่วงเริ่มต้นการใส่กิโมโน ชาวญี่ปุ่นพัฒนาเทคนิคการตัดยุดเสื้อผ้าด้วยการตัดผ้าเป็นเส้นตรง เพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่ หยิบมาคลุมตัวได้ทันที ทั้งยังเป็นชุดที่เหมาะกับทุกสภาพอากาศ ถ้าหนาวๆ ใช้ผ้าหนา ถ้าเป็นฤดูร้อนก็เปลี่ยนไปใช้ผ้าบางๆความสะดวกสบายนี้ทำให้ชุดกิโมโนแพร่ หลายไปอย่างรวดเร็ว โดยวงการแฟชั่นสมัยนั้น ผู้ตัดเย็บก็จะคิดหาวิธีที่ทำให้ชุดกิโมโนมีสีสัน ผสมผสานกันด้วยสีต่างๆให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและชนชั้นทาง สังคมถือว่าเป็นช่วงที่ชุดพัฒนาในเรื่องสี มากที่สุด

   ต่อ มาในยุคเอโดะ ( ค.ศ. 1600-1868 ) ช่วงที่โชกุนโตกูกาวาปกครองญี่ปุ่น ในช่วงนี้นักรบซามูไรแต่ละสำนักจะแต่งตัวแบ่งแยกตามกลุ่มของตัวเอง เรียกว่าเป็น "ชุดเครื่องแบบ" เลยด้วยซ้ำชุดที่ใส่นี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ชุดกิโมโน ชุดคามิชิโม ตัดเย็บด้วยผ้าลินินใส่คลุมชุดกิโมโนเพื่อให้ไหล่ดูตั้ง และกางเกงขายาวที่ดูเหมือนกระโปงแยกชิ้นชุดกิโมโนของซามูไรจำเป็นต้องเนี้ยบ มาก ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่พัฒนากิโมโนไปอีกขั้น จนเป็นผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง

   สมัย ต่อมา ในยุคเมจิ (ค.ศ. 1868-1912) ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากต่างชาติรุนแรงมาก ชาวแดนปลาดิบ จึงเริ่มเปลี่ยนไปใส่เสื้อสากลมากขึ้น และจะใส่ชุดกิโมโน เมื่อถึงงานที่เป็นพิธีการเท่านั้น

   ใน ปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่จะแต่งกายแบบสากล ผู้ที่สวมกิโมโนในชีวิตประจำวันก็จะมีเพียงผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ ศิลปะญี่ปุ่นแต่โบราณเท่านั้น หรือไม่ก็อาจจะสวมเฉพาะในงานพิธีต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานฉลองการบรรลุนิติภาวะ งานปีใหม่ ฯลฯ เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ผู้ที่สามารถสวมชุดกิโมโนได้เองจึงมีน้อย ถึงขนาดจัดเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของ "การเตรียมตัวเพื่อเป็นเจ้าสาว" ของสตรี

 

kimono-kosumosu_child-753-70035

 

ตัวอย่างชุดกิโมโนที่วางขายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่มีราคาสูงถึง4-5หมื่นบาท


   ดัง นั้นคนญี่ปุ่นคนใดถ้าใครที่อยากจะเป็นกุลสตรีแล้ว ก็ต้องฝึกแต่งชุดกิโมโนให้เนี้ยบและคล่อง จะถือว่าหญิงคนดังกล่าวมีความเป็นกุลสตรี และเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆญี่ปุ่นเลยทีเดียว

   สุด ท้ายอาจารย์นำตัวอย่างการแต่งชุดกิโมโนที่ถูกต้องมาให้ดูกันนะครับ ค่อนข้างมีอุปกรณ์ต่างๆที่เยอะและวุ่นวายมาก ดังนั้นใครที่อยากจะใส่นั้น คงจะต้องลองฝึกดูวิธีการใส่ไปก่อน ไม่แน่นะครับว่า อาจจะมีหนุ่มๆญี่ปุ่นเดินเข้ามาบอกว่าคุณเป็นกุลสตรีที่เพรียบพร้อมมาก ก็อาจจะเป็นได้…

 

   


เนื้อเรื่องโดย  อาจารย์แบงค์

รูปภาพโดย ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นอาจารย์แบงค์

หมายเลขบันทึก: 469978เขียนเมื่อ 1 ธันวาคม 2011 15:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 07:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท