ตอนนี้ลูกชายออทิสติก อายุ 15 ปี เป็นหนุ่มแล้ว พฤติกรรมก้าวร้าว ลดลงชัดเจน เข้าใจเหตุผลได้มากขึ้น เรียนชั้น ม. 3 รับผิดชอบการเรียนพอสมควร (ลอกการบ้านเพื่อนได้) เป็นที่รักของเพื่อน ๆ และคุณครู ก่อความรำคาญกับสังคมน้อยลง
ตอนนี้กำลังฝึกให้อยู่นิ่ง ๆ โดยการพาไปวัดทุกเช้าวันหยุด ก่อนนอนให้สวดมนต์ไหว้พระ..สำหรับคนเป็นแม่ ประเมินพัฒนาการของลูกแล้ว ดีขึ้นเรื่อย ๆ วันละเล็กวันละน้อย ...
ดิฉันได้บทเรียนจากการเลี้ยงลูกออทิสติก หลายอย่าง...เด็กออทิสติก บกพร่องด้านการสื่อสารด้วยวาจา แต่สิ่งที่เขารับรู้ได้ คือ ภาษาใจ...เมื่อลูกยังเล็กสื่อสารไม่รู้เรื่อง ดิฉ้นจะกอดเขาเพื่อแสดงความรัก และบอกทุกคนในบ้านคือสามี ลูก และคุณแม่ของดิฉัน ว่าให้กอดเขาบ่อย ๆ เพราะตอนนัั้น คิดเพียงว่าทำยังไงลูกจึงไม่ก้าวร้าวเมื่อโตขึ้น ถ้าเขาโตขึ้นแล้วก้าวร้าว หรืออารมณ์รุนแรงดิฉันเกรงว่าจะอันตราย ก็เลยคิดว่าการกอดน่าจะช่วยให้เขาอ่อนโยนลง
ทุกครั้งที่กอดดิฉันพูดคำ ว่า "แม่รักสมัชญ์ครับ" แรก ๆ เขาก็พูดตาม แต่ต่อมาเขาเปลี่ยนคำ พูดได้เอง ว่า "ผมรักแม่ครับ"
อีกอย่างหนึ่งที่เป็นกุศลจากการกอด คือ อารมณ์ของคนถูกกอด เปลี่ยนไป เห็นได้จาก คุณตาของเทวดาเอง ที่เทวดาจะไปเยี่ยมคุณตาสัปดาห์ละครั้ง เป็นหน้าที่ของเทวดาที่ต้องกอดและหอมแก้มคุณตาหลังสวัดดี ทั้งแรกพบและก่อนกลับ สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณตาคืออารมณ์ดีขึ้น สดชื่น ยิ้มแย้มมากขึ้น
ดิฉันเห็นว่า การกอดมีคุณค่ามาก ก็เลยลอง Search ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม จึงได้รู้ว่า เขาใช้กอดในการรักษาโรคหลายอย่าง...
เรื่องกอดสมัยหนุ่มๆ ไม่คอยจะทำ ไม่เคยกอดแม่เลย
แต่พออายุมากเข้า กอดแม่ กอดลูก เป็นของธรรมดาครับ