หลองข้าว-เยียข้าว-ถุข้าว-ตุข้าวคือสิ่งเดียวกันที่ใช้เก็บข้าวเปลือกของชาวบ้านล้านนาที่มีข้าวเปลือกมากมายหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวจากในนา
ชาวนาต่างดีใจเมื่อข้าวในนาออกรวงงดงามมีเมล็ดดกเต้ง(เต็ม) หลังจากที่รวงข้าวเหลืองอร่ามบอกถึงสถานะเมล็ดข้าวว่าแก่จัดพร้อมที่เก็บเกี่ยวได้แล้ว บรรดาชาวนาต่างพากันเกี่ยวต้นข้าวแล้วนำไปฟาดให้เมล็ดร่วงหลุดจากปลายฟาง ไปกองบนพื้นดินกลายเป็นเมล็ดข้าวที่มีคุณค่า
เมื่อได้เมล็ดข้าวกองใหญ่ชาวนาต่้างนำเมล็ดข้าวเปลือกทั้งหมดไปใส่ไำว้ในที่เก็บซึ่งเรียกกันตามพื้นที่ถิ่นแตกกต่างกันไป บางท้องถิ่นเรียกกว่า หลองข้าว บางพื้นที่เรียกกันว่า เยียข้าว บางแห่งเรียกกันว่า ถุข้าวหรือตุข้าว
การเก็บเมล็ดข้าวเปลือกในหลองข้าวนิยมแบ่งเป็นสองส่วน ในส่วนแรกเป็นห้องขนาดใหญ่ใช้เก็บข้าวเปลือกเพื่อใช้ระยะเวลานาน อีกส่วนหนึ่งเป็นห้องเล็กๆที่เรียกกันว่า " หลองข้าวม่อ" หมายถึงที่เก็บข้าวที่จะใช้ในระยะเร็ววันหรือสามารถขึ้นไปนำเอาข้าวเปลือกมาใช้ได้ฉับพลันเร็วไว แต่บางแห่งจะสานเสวียน(อ่านว่า สะเหวียน)แทนห้องขนาดเล็กเพื่อเก็บเมล็ดข้าวเปลือก
เมื่อนำข้าวเปลือกใส่หลองข้าวทั้งหมดแล้ว เจ้าของจะแบ่งข้าวในห้องใหญ่ออกมาใส่ที่หลองข้าวม่อ เพื่อนำไปสีหรือขาย เมื่อหมดเมล็ดข้าวเปลือกในหลองข้าวม่อ เจ้าของจะแบ่งทยอยเอาเมล็ดข้าวเปลือกในห้องเก็บใหญ่ออกมาใช้เป็นห้วงๆ เจ้าของไม่นิยมเอาข้าวเปลือกจากห้องใหญ่ที่เก็บเมล็ดข้าวเปลือกมากมายออกมาใช้โดยตรงเพราะมีความเชื่อกันว่าจะทำให้ข้าวเปลือกหมดเร็ว
การนำข้าวใส่หลองใหญ่ต้องมีฤกษ์ยาม เมื่อนำข้าวขึ้นใส่หลองแล้วบางแห่งยังทำยันต์กันผีมาลักลอบกินข้าวเปลือก เรียกยันต์นี้ว่า "นโมต๋าบอด"คือเป็นพระคาถาทำให่้ผีตาบอดไม่เห็นเมล็ดข้าวเปลือกที่จะรังควาญหรือทำลายข้าวเปลือกนั่นเอง
อนึ่ง..การมีหลองข้าวม่อทำให้การเอาข้าวเปลือกมาใช้ได้โดยไม่ฟุ่มเฟือยทำให้มีข้าวเปลือกไว้กินกันนานๆเป็นการบริหารมวลข้าวเปลือกในหลองข้าวได้ดีแท้
ไม่มีความเห็น