แนวทางการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี
2555
ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน(จปฐ.) เป็นข้อมูลที่แสดงถึงลักษณะของสังคมไทยที่พึงประสงค์ตามเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำของเครื่องชี้วัด ว่าอย่างน้อยคนไทยควรจะมีคุณภาพชีวิตในเรื่องอะไรบ้าง และควรจะมีระดับความเป็นอยู่ไม่ต่ำกว่าระดับไหนในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และทำให้ประชาชนสามารถทราบได้ด้วยตนเองว่า ในขณะนี้คุณภาพชีวิตของตนเอง และครอบครัวรวมทั้งหมู่บ้าน/ชุมชนอยู่ในระดับใด มีปัญหาที่จะต้องแก้ไขในเรื่องใดบ้าง เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง ครอบครัวและสังคม
ดังนั้น ข้อมูล จปฐ. ที่จะเก็บโดยผู้นำชุมชน หัวหน้าคุ้ม หรืออาสาสมัคร ด้วยความสนับสนุนของคณะทำงานบริหารการจัดเก็บข้อมูลระดับตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะทำให้ทราบว่าแต่ละครัวเรือนและหมู่บ้านชุมชน มีปัญหาเรื่องอะไรบ้าง และเมื่อทราบแล้ว สมาชิกในครัวเรือนต้องช่วยแก้ไข ส่วนใดที่ไม่สามารถแก้ไขได้เอง ก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่จะเข้ามาดำเนินการต่อไป
ต้องทำอะไรบ้างในเล่มจัดเก็บ จปฐ. (เล่มสีชมพู)
ผู้จัดเก็บข้อมูลและผู้ให้ข้อมูล
ผู้จัดเก็บข้อมูล จปฐ. คือ คณะกรรมการหมู่บ้าน/ชุมชน ผู้นำชุมชน หัวหน้าคุ้ม อาสาพัฒนาชุมชน (อช.)อสม. หรืออาสาสมัครอื่นๆ (ควรคัดเลือกคนที่สามารถอ่านและเขียนภาษาไทยได้คล่อง เพราะจะช่วยทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพและได้ข้อมูลที่มีคุณภาพผู้ให้ข้อมูล คือ หัวหน้าครัวเรือน ภรรยา หรือสมาชิกในครัวเรือนที่สามารถให้ข้อมูลของครัวเรือนได้อย่างครบถ้วน
พื้นที่การจัดเก็บข้อมูล และครัวเรือนเป้าหมาย
เป็นการสำรวจจากจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่จริง* ณ วันที่จัดเก็บ โดยผู้ที่ถูกสำรวจต้องอาศัยอยู่ใน พื้นที่ไม่น้อยกว่า 180 วัน ภายในปีข้อมูลที่ทำการจัดเก็บนั้น ๆ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับจำนวนประชากร ที่มีอยู่จริงในจังหวัด โดยแบ่งการสำรวจออกเป็น 2 พื้นที่ คือ
แบบสำรวจ จปฐ.ข้อ4.1 ข้อที่ว่าถ้ากินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต้องทำให้สุขด้วยความร้อน คนภาคอีสาน กินอาหารประเภทสุกๆดิบ เป็นส่วนมากในเขตชนบทกินลาบดิบ ปลาส้มปลาจ่อม ก้อยกุ้งทุกหลังคา มีประเด็นถามว่า กินประจำ หรือกินเป็นบางครั้งในรอบปีมีค่าเท่ากันหรือไม่ ถ้าไม่อย่างนั้นจปฐ.ข้อนี้ตกเยอะมาก