บทเรียน 14 ข้อเกี่ยวกับน้ำท่วมครั้งนี้ |
1 พระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการแก้ปัญหาน้ำที่ท่วม เป็นที่ประจักษ์มาเป็นเวลานานกว่า 30 ปีว่า ปัญญาและ Wisdom ของพระองค์ท่านจะช่วยประเทศได้ถ้านักการเมืองน้อมนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง ก็จะเป็นแสงสว่างได้ 2 ประเทศไทยชอบแก้ปัญหาระยะสั้น ผมเคยพูดเสมอว่า นักการเมืองมองแค่กรรมาธิการงบประมาณว่า ฉันหรือจังหวัดฉันได้เท่าไหร่? แต่ไม่เคยวางแผนระยะยาว ไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเปลี่ยนพฤติกรรมของนักการเมืองได้หรือไม่? 3 การทำงานในยุคต่อไปนี้ต้องมีการทำงานเป็นทีม * ทีมแรกคือ ระหว่างกระทรวงด้วยกัน ซึ่งก็ยากมากในประเทศไทย * ต่อมาคือ ทีมรัฐบาลกับทีม กทม. * ทีมต่อมาก็คือ รัฐบาลกลางกับรัฐบาลท้องถิ่น อบต. อบจ. เทศบาล * ทีมสุดท้ายก็คือ รัฐบาลกับภาคประชาชน 4 ครั้งนี้พลังประชาชน ช่วยได้มากกว่าพลังนักการเมือง ซึ่งส่วนมากจะเน้นการออกข่าวถ่ายรูปลงหนังสือพิมพ์ แต่ความสามัคคีของประชาชนสูงมากกว่าการรอพลังของนักการเมือง หวังว่าการรวมพลังครั้งนี้นี้จะช่วยประเทศในหลายด้าน นอกจากเรื่องน้ำท่วม * การศึกษา * การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น 5 ศาสตร์และศิลป์ที่สำคัญในการสื่อสารเชิงนวัตกรรม (Communication) นับว่ามากเพราะนายกฯยิ่งลักษณ์ไม่มีบารมีพอที่จะเป็นผู้นำ จึงมีตัวละครหลายคนช่วยเสริม แต่กลับสร้างความล้มเหลวในการออกข่าวสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้คนไทย ซึ่งมีแต่ทางลบมากกว่าทางบวก การแก้ปัญหาครั้งนี้ขาดจุดศูนย์รวมในการให้ข่าว โดยปกติน่าจะเป็นนายกฯ แต่ท่านได้แต่อ่าน รู้ไม่จริงและขาดประสบการณ์ เลยมีตัวแทนที่ออกข่าวแทน ซึ่งไม่ชัดเจนว่าประชาชนจะฟังใคร? เช่น * ผู้ว่าฯ กทม. (ซึ่งทำได้ดีพอควร) * รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ * คุณปลอดประสพ สุรัสวดี สื่อแซวว่าเป็นคนปลอดประสบการณ์ * พลตํารวจเอกประชา พรหมนอก ซึ่งไม่เก่งเรื่องสื่อสาร แต่ก็มีประสบการณ์มากพอควร ภาพจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันพุธที่ 19 ตุลาคม 2554 6 วางแผนให้ดีว่า หลังน้ำลดแล้วจะมีนโนบายอะไรที่เด่นชัด * นโยบายแรกคือ ใช้โอกาสสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น ปลูกข้าวนาปรังในระหว่างที่น้ำลด * อย่างน้อย อย่าให้ภัยแล้งมาสร้างปัญหาเร็วเกินไป * จะดูแลความมั่นใจของผู้ลงทุนต่างประเทศอย่างไร โดยเฉพาะญี่ปุ่น * ฟื้นฟูจิตใจของคนไทยที่ถูกกระทบ 7 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจมีหลายด้านรุนแรงมากใครจะดูแล * จุดแรกคือ อัตรา GDP จะลดไปเท่าไหร่ * ปัญหาการว่างงานชั่วคราว 3 - 4 เดือน * ต่อมาคือ งบประมาณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแถลงแล้วว่า ปี 2512 จะขาดดุล 400,000 ล้าน ซึ่งผมเขียนเตือนแล้วว่า อย่าขาดดุลงบประมาณเกินรัฐบาลอภิสิทธิ์ เคยกำหนดว่า 350,000 ล้าน ซึ่งอันตรายเพราะจะทำให้ การคลังขาดเสถียรภาพในระยะกลางและระยะยาว 8 จะฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมอย่างไร น่าคิดว่าทำไมนิคมอุตสาหกรรมตั้งในที่ลุ่มส่วนใหญ่ อาจจะมองจากปัจจัยโลจิสติกส์ คือใกล้สนามบินดอนเมือง และวิธีการวางแผนมีแต่สร้างเขื่อนป้องกันน้ำ ไม่ได้ถมที่ให้สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนต่ำ แต่ไม่ได้บริหารความเสี่ยงในอนาคต 9 นักการเมืองต้องไม่ฉกฉวยโอกาสเพื่อผลงานระยะสั้น บางคนก็อยากดัง อยากแสดง เพื่อไม่ให้ตกกระแส คนไทยต้องแยกแยะให้ออกว่า ใครทำอะไร อย่างไร ทำแล้วคนไทยได้ประโยชน์หรือไม่? 10 สื่ออาชีพออกข่าวมากทุกช่อง ทุกจุด แต่วิเคราะห์ให้เป็นประโยชน์ต่อคนไทยหรือเปล่า? บริโภคสื่อมากไปจะสร้างความเครียดได้ในระยะยาว 11 ถึงเวลาที่จะเรียนรู้จาก ประสบการณ์ต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเนเธอร์แลนด์ หรือจีน ต้องมีนโยบายที่จะปรึกษาหาประสบการณ์จากประเทศที่มีปัญหาน้ำท่วม 12 เป็นการเตือนให้เยาวชนไทยที่จะเติบโตภายภาคหน้าได้มีโอกาสเรียนและมีอาชีพต่างๆ เพื่อมีงานทำที่มีคุณค่าในการสร้างความมั่นคงให้ประเทศ เช่น * วิศวะแหล่งน้ำ * สิ่งแวดล้อม * ภาวะโรคร้อน * เรื่อง ภาวะอากาศต่างๆ 13 มหาวิทยาลัยที่น่ายกย่องคราวนี้ก็คือ มหาวิทยาลัยที่มีนักวิชาการที่รู้เรื่องแหล่งน้ำ วิศวกรรมแหล่งน้ำ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หรือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรืออื่นๆ ที่ปิดทองหลังพระ ทำงานวิจัยอย่างมีคุณค่า สังคมไทยต้องยกย่องบุคคลเหล่านั้น 14 ข้อมูลดีๆ ที่มาจากที่บริษัทที่ปรึกษา (Consultants) ที่ทำงานด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำ การวางแผนเมืองและสามารถให้ข้อมูลที่มีคุณค่าต่อสังคมอย่างครบถ้วนและรอบด้าน ทั้งหมดนี้ก็เป็นบทเรียนที่ผมขอฝากให้ผู้อ่านเพื่อเรียนรู้จากบทเรียนราคาแพงครั้งนี้และหวังว่าจะไม่เกิดอีก สังคมไทยต้องคิดเป็น วิเคราะห์เป็น เราต้องสร้างสังคมการเรียนรู้ เพื่ออยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช่สังคมจอมปลอม ซึ่งคนไม่รู้ออกความเห็น คนรู้ไม่ได้มีบทบาท อย่าให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ อวิชา ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ [email protected] www.gotoknow.org/blog/chiraacademy แฟกซ์ 0-2273-0181 |
ไม่มีความเห็น