หน้าแรก
สมาชิก
โรงเรียนเทศบาล 4 ...
สมุด
ครูสุภาภรณ์
เคล็ดไม่ลับ วิธีก...
โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ)
โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) เทศบาลนครนคราชสีมา
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
เคล็ดไม่ลับ วิธีการส่งเสริมลูกให้เรียนเก่ง
กรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดจากคุณพ่อคุณแม่ เป็นปัจจัยครึ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกฉลาด ส่วนปัจจัยที่เหลือ จะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมจากการอบรมเลี้ยงดู
คุณพ่อคุณแม่ยุคนี้ คงจะทราบข้อมูลว่า กรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดจากคุณพ่อคุณแม่ เป็นปัจจัยครึ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกฉลาด ส่วนปัจจัยที่เหลือ จะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมจากการอบรมเลี้ยงดู รวมทั้งสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ดังนั้น หากจะกล่าวว่าคุณพ่อคุณแม่ คือ ปัจจัยสำคัญที่สุด ในการส่งเสริมให้ลูกฉลาดคงจะมิใช่การกล่าวที่เกินจริง
คุณ
พ่อคุณแม่ควรต้องทราบ และตระหนักถึงความสำคัญว่า
"เด็กสามารถเรียนรู้และมีพัฒนาการดีที่สุด ในช่วงอายุ 3 ปีแรก”
สำหรับในครอบครัวที่มีกรรมพันธุ์ที่ดี ก็ถือว่าเด็กมีต้นทุนชีวิตที่ดี การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดจนพัฒนาการต่าง ๆ ให้กับลูกก็จะไม่ยุ่งยากมากนัก แต่สำหรับในบางครอบครัว หากรู้สึกว่าไม่มีปัจจัยเรื่องของกรรมพันธุ์ช่วยส่งเสริม ก็ขอให้ทราบและมั่นใจว่าสิ่งแวดล้อมจากการอบรมเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างและกำหนดได้ค่ะ
คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการส่งเสริมลูกให้เรียนเก่ง
ลองใช้เคล็ดไม่ลับเหล่านี้ดูค่ะ
1. คุยกับลูกบ่อยๆ
มีผลการศึกษาเป็นที่ยอมรับว่า เด็กทารกสามารถจำและตอบสนองต่อเสียงของแม่ได้เกือบนาทีแรกหลังคลอด และยังมีข้อสนับสนุนที่บอกว่า ทารกได้ยินเสียงของแม่ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ ทารกที่เกิดสัปดาห์ต่อมาจะสามารถสบตากับผู้ที่กำลังพูดกับเขาได้ ดังนั้น เมื่อคุณพ่อคุณแม่อุ้มลูก ให้มองสบตาลูกและให้หน้าของคุณห่างกับเขาประมาณ 30 เซนติเมตร แล้วพูดกับเขาช้า ๆ ชัด ๆ และรอการตอบสนองจากเขาค่ะ
2. อ่านหนังสือให้ลูกฟัง
เด็กเล็กยังอ่านเองไม่ได้ คุณจึงควรอ่านหนังสือให้เขาฟังบ่อยๆ เริ่มจากการเลือกหนังสือที่เหมาะกับวัย เช่น นิทานสำหรับเด็ก เพื่อช่วยให้ลูกได้ยินลักษณะของคำพูด และฝึกให้เขาออกเสียงพูด ลูกจะได้คุ้นเคยและเรียนรู้ที่จะเลียนแบบ ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับลูกต่อไป
3. ฟังลูกอ่าน
เมื่อลูกรู้จักอ่านหนังสือ คุณควรส่งเสริมเขา ด้วยการช่วยลูกเลือกหนังสือเพื่อนำมาอ่านด้วยกัน ให้เขาอ่านให้ฟัง ฟังความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เขาอ่าน การที่คุณฟังเขาอ่าน และฟังความคิดเห็นของเขา จะทำให้เขารู้สึกมีคุณค่า ที่สำคัญการอ่านหนังสือกับลูกเป็นการปลูกฝังความคิดว่า คุณเห็นคุณค่าของการเรียนรู้ และทำให้เขาทราบว่ากิจกรรมที่ทำอยู่เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ และเป็นการสร้างความอบอุ่นที่ดีอีกด้วย
4. ชื่นชมและให้รางวัลกับความสำเร็จของลูก
อาจเป็นการกล่าวชม กอด หอมแก้ม ทำของโปรดให้เขาทาน หรือ พาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ เพื่อบอกให้ลูกทราบว่าความสำเร็จของเขาเป็นเรื่องสำคัญและน่ายินดี บางครั้งการใช้โอกาสของความสำเร็จของลูกในการจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ในครอบครัว ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพได้อีกวิธีหนึ่ง
5. ส่งเสริมการเล่นของลูก
คุณพ่อคุณแม่ควรเข้าใจและยอมรับว่า การเล่นคือธรรมชาติของเด็ก การเล่นจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ ช่วยให้เขาสนุกสนาน ของที่มีอยู่รอบตัวก็เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ของเล่นของลูกที่ดีไม่จำเป็นต้องแพง เพียงแต่เลือกให้เหมาะสมกับวัย ยุคนี้ของเล่นที่มีคุณภาพส่วนใหญ่จะระบุอายุของเด็กไว้ให้ด้วย การจัดตารางการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสมก็เป็นเรื่องจำเป็น ที่สำคัญอย่าปล่อยให้ลูกเล่นมากหรือน้อยเกินไปค่ะ
6. คุยเรื่องชีวิตประจำวันกับลูก
อาจใช้คำถามลักษณะว่า
"วันนี้เราทำสลัดผักทานกัน ไหนคนเก่งลองบอกแม่สิ ว่ามีผักอะไรบ้าง”
“วันอาทิตย์หน้าคุณพ่อจะพาเราไปเที่ยวสวนสัตว์ตามสัญญา ดีใจไหมลูก แล้วลูกชอบสัตว์อะไรมากที่สุด ทำไมถึงชอบคะ"
การพูดคุยกับลูกจะช่วยให้เขาคิดได้ ให้เขาได้รู้จักการโต้ตอบ ทำให้เขาจะรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ หากจะมีบางครั้งเขาอาจพูดผิด ถ้าไม่เสียหายก็ปล่อยไปบ้าง แต่หากส่งผลต่อการเรียนรู้ของเขา ต้องค่อย ๆ บอกว่าสิ่งใดถูก โดยไม่ทำให้เขารู้สึกว่าผิด และอย่าดุลูกในขณะที่คุณคุยกับเขาค่ะ
7. นับเลขเล่นกับลูก
เริ่มจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เช่น ถามว่าครอบครัวเรามีกี่คน ตุ๊กตาตัวโปรดของลูกมีกี่ตัว วันนี้ลูกใช้เงินไปเท่าไหร่ และเก็บเงินใส่กระปุกได้กี่บาท เป็นต้น
8. ให้เด็กบอกสีของสิ่งต่าง ๆ
เช่น ดอกไม้ เสื้อผ้า หรือของใช้ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้และสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
9. สร้างบรรยากาศให้ลูกสบายใจกับการไปโรงเรียน
ทำให้เขามีความสุข อาจให้รางวัลลูกเป็นอุปกรณ์ทางการศึกษา เช่น กล่องดินสอใหม่ กล่องดินสอสี เ สื้อผ้าชุดใหม่ เมื่อเขาทำความดี หรือคุณอาจเขียนคำว่า
"แม่รักลูก”
หรือ
“พ่อรักลูก”
สอดไว้ในหนังสือ เป็นต้น
10. ควรมีมุมหนังสือและที่นั่งอ่านหนังสือสบาย ๆ ในบ้าน
หาก
มีพื้นที่เพียงพอ เพื่อที่ทุกคนในครอบครัว จะได้ใช้เป็นที่อ่านหนังสือ ทำการบ้าน มุมทำงาน และมุมนั่งพักผ่อนได้สบาย ๆ ของทุกคนได้พร้อมกัน
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ ควรฝึกให้ลูกตื่นนอนเป็นเวลาตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องบังคับเคี่ยวเข็ญให้ลูกต้องตื่นเช้าไปโรงเรียน
เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงแค่นี้ คิดว่าคุณพ่อคุณแม่คงจะทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หากเทียบกับผลตอบแทนที่มีคุณค่าอย่างมหาศาลที่คุณและลูกจะได้รับ
ที่มา
: วารสารสตรีและครอบครัว ฉบับพิเศษ ปีที่ 3 ฉบับที่ 13 ประจำเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2550
สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ครูสุภา
ภรณ์
ครูสุภาภรณ์ พลเจริญชัย
โรงเรียนเทศบาล4(เพาะชำ)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.familynetwork.or.th/node/15671
เขียนใน
GotoKnow
โดย
โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ)
ใน
ครูสุภาภรณ์
คำสำคัญ (Tags):
#วิธีการส่งเสริมลูกให้เรียนเก่ง
หมายเลขบันทึก: 462007
เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2011 23:31 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:49 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
โรงเรียนเทศบาล 4 ...
สมุด
ครูสุภาภรณ์
เคล็ดไม่ลับ วิธีก...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท