ขนม 3 ชนิด


ขนมไทยๆ

 

ทองหยอด

 

ส่วนผสม

ไข่ไก่                                              20                      ฟอง

แป้งข้าวเจ้า                                   1                        ถ้วย

น้ำตาลทราย                                  8                        ถ้วย

น้ำ                                                   5 1/2                 ถ้วย

ใบเตยหั่นเป็นท่อนๆ                  8-10                  ใบ

1.เตรียมน้ำเชื่อมใส สำหรับแช่ทองหยอดโดยใส่น้ำตาล 3 ถ้วย น้ำ 3 ถ้วย และใบเตย 4-5 ใบ ลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือดจนน้ำตาล ทรายละลาย ยกลง แล้วทิ้งไว้ให้เย็น

2.เตรียมน้ำเชื่อมข้น สำหรับหยอดทองหยอดใส่น้ำตาล 5 ถ้วย  น้ำ 21/2 ถ้วย และใบเตย 4-5ใบ ลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือดจนน้ำตาล ทรายละลาย ยกลงแล้วทิ้งไว้ให้เย็น

3.ต่อยไข่ใส่ชาม แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง

4.ตีไข่แดงให้ขึ้นฟู 3 นาที ความเร็วกลางๆ

5.ตวงไข่แดงที่ขึ้นฟู 3 ช้อนโต๊ะ ใส่ชามไว้ นำแป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ เทลงผสมคนให้เข้ากัน จนเนื้อเนียน (แต่อย่าคนให้นานเกินไป เพราะจะทำให้ แป้งเหนียว) หยอดแล้วจะเป็นไตแข็ง

6.นำน้ำเชื่อมข้นที่เตรียมไว้ขึ้นตั้งไฟให้เดือดพล่านมีฟองเต็มกระทะ (จะได้ประคองขนมให้ได้รูปทรงอยู่ตัว)

7.ใช้ส่วนปลายช้อนขนมหวานปาดส่วนผสมไข่แดงกับแป้งข้าวเจ้าขึ้น มาอยูที่ปลายช้อน ประมาณ 1ซม. แล้วใช้นิ้วโป้งดันลงในน้ำเชื่อม ให้เป็น รูปหยดน้ำ (ต้องทำให้เร็วทองหยอดจึงจะสวย)

8.ขณะรอขนมสุก ให้เติมน้ำ 1 ทัพพีลงไปรอบๆกระทะ(เพื่อไม่ให้น้ำเชื่อม เข้มขนเกินไปน้ำเชื่อมข้นเกินไปจะทำให้สุกช้า เนื่องจากน้ำเชื่อมไม่สามารถซึม เข้าไปในเนื้อขนม) เพราะทองหยอดมีส่วนผสมของแป้ง จึงทำให้สุกช้ากว่าทองหยิบ

9.เมื่อขนมสุกใส ให้ใช้ทัพพีตักขึ้นแช่ในน้ำเชื่อมใสที่เตรียมไว้

10. ขนมเย็นแล้วจึงตักขึ้นไปจัดใส่ภาชนะ

11. ผสมไข่กับแป้งข้าวเจ้า อีกตามสัดส่วนที่กำหนด และเช่นเดียวกันหมด เมื่อหัดหยอดด้วยปลายช้อนไปนานๆ จนชำนาญแล้วทดลองหยอด ด้วยมือดูบ้างได้

ทองหยิบ 


ส่วนผสม 

ไข่ไก่ใหม่ๆ 20 ฟอง

น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม

น้ำลอยดอกมะลิ 21/2 ถ้วย

 

การทำน้ำลอยดอกมะลิ 

ใช้ดอกมะลิลาที่ปลูกเองจะดีที่สุด หากเป็นดอกมะลิ ที่หาซื้อก็ควรแน่ใจว่าปราศจากยาฆ่าแมลงหรือสารเคมี เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  เด็ดดอกมะลิตอน 6 โมงเช้าให้กลีบเลี้ยงติดอยู่ด้วยนำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วห่อด้วยใบตองเพื่อช่วยเก็บความชื้นวางไว้ในที่เย็นๆประมาณ 6 โมงเย็น แก้ห่อใบตองออกจะเห็นดอกมะลิเริ่มแย้ม เด็ดกลีบเลี้ยงออกค่อยๆจุ่มก้านมะลิลงในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว ปิดฝาให้สนิท เช้าวันรุ่งขึ้นจึงค่อยๆ ช้อนเอามะลิออก ดอกมะลิที่บานในภาชนะปิดสนิทจะส่งกลิ่นหอม และทำให้น้ำในภาชนะหอมกลิ่นมะลิไปด้วย เราสามารถนำน้ำลอยดอกมะลิไปทำขนมได้หลายอย่าง แต่ก่อนนำน้ำไปใช้ทำขนมควรกรองด้วยผ้าขาวยบางก่อน   ถ้าไม่มีน้ำลอยดอกมะลิ ให้ใช้ใบเตยกับน้ำเชื่อมแทนได้ โดยการนำใบเตย 2-3 ใบมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นท่อนๆต้มในน้ำเชื่อม ก็จะช่วยกับกลิ่นคาวของไข่ได้

ฝอยทอง

 

ส่วนผสม

ไข่เป็ด 9 ฟอง

น้ำตาลทราย 5 ถ้วย

น้ำลอยดอกมะลิ 3 ถ้วย

น้ำค้างไข่ 3 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีเตรียมน้ำค้างไข่

1. น้ำค้างไข่ หรือน้ำต้อย คือน้ำหล่อเลี้ยงไข่แดง ช่วยประคองไม่ให้ไข่แดงติดเปลือก จะเกิดขึ้นเมื่อไข่ถูกเก็บไว้สัก 1-2 วัน ิวิธีแยกเอาน้ำค้างไข่ ทำได้โดยวางไข่ให้ส่วนแหลมอยู่ด้านล่างเพื่อให้น้ำค้างไข่ที่เกิดขึ้นไหลลงมาอยู่ส่วนแหลม เวลาตอกไข่ให้ตอกส่วนป้านของไข่โดยรอบ ค่อย ๆ เทไข่แดงและไข่ขาวออกจากเปลือก น้ำค้างไข่จะค้างอยู่ในเปลือก ให้เทแยกใส่ชามไว้ต่างหาก

2. หากทำฝอยทองโดยใช้ไข่แดงล้วน ๆ ไข่แดงจะข้นมาก และไม่สามารถไหลออกจากกรวยที่มีรูเล็ก ๆ ได้ น้ำค้างไข่จะช่วยลดความเข้มข้นของไข่แดงและยังช่วยให้ไหลลื่นจากกรวยได้ง่ายด้วย

3. วิธีที่ง่ายกว่านี้ในการแยกน้ำค้างไข่ก็คือ ตอกไข่ทั้งหมดใส่ชามไว้ นำไข่ทั้งชามไปเทกรองด้วยกระชอน ส่วนที่เป็นน้ำค้างไข่จะใสและไหลผ่านกระชอนลงมาเอง

คำสำคัญ (Tags): #ขนมไทย3ชนิด
หมายเลขบันทึก: 460885เขียนเมื่อ 17 กันยายน 2011 09:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท