สกศ.เผยผลวิจัย ใช้คอมพ์พกพา ป.3 ทักษะภาษาดีกว่า ป.1


สกศ.เผยผลวิจัย ใช้คอมพ์พกพา ป.3 ทักษะภาษาดีกว่า ป.1

  สกศ. เผยผลวิจัย ร.ร.นำร่องที่สอนผ่านคอมพิวเตอร์พกพา ชี้ เด็ก ป.3 ใช้คอมพ์เกิดประโยชน์กว่า ป.1 เพราะมีทักษะภาษาดีกว่า แนะรัฐบาลเตรียมความพร้อมให้ครบถ้วน ก่อนแจกแท็บเล็ตจะเกิดประโยชน์กว่า

น.ส.สุทธาสินี วัชรบูล รองเลขาธิการสำนักงานสภาการศึกษา (รองเลขาธิการ สกศ.) กล่าวถึงผลการประชุมการศึกษาวิจัยรูปแบบการพัฒนาการเรียนรู้โดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาหรือ One Laptop per Child ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สกศ.ได้ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนทำการวิจัยการปรับรูปแบบการเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ โดยได้วิจัยในโรงเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 3-6 นำร่อง ในโรงเรียน 4 ภูมิภาคที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพาเป็นหลัก และเรียนในตำราเป็นรอง พบว่า หากแจกอุปกรณ์ดังกล่าวแบบไม่สร้างกระบวนการเรียนรู้ ก็จะทำให้พฤติกรรมของผู้เรียนผ่านคอมพิวเตอร์พกพาไม่มีความตื่นตัวแบบยั่งยืน ดังนั้นจึงต้องอาศัยโรงเรียนและครูคอยบูรณาการกระบวนการเรียนรู้อยู่ตลอดถึงจะยั่งยืนได้

“การจะนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้กับเด็กนั้น เราต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งเด็ก ครู และหลักสูตรอย่างเข้มข้นก่อนถึงจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้กับการเรียนการสอนได้ ซึ่งก็ชัดเจนแล้วว่าหากเราเตรียมตัวดีก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมา นอกจากนี้ ผลการวิจัยในครั้งนี้ยังได้บ่งบอกอีกว่า ถึงเวลาแล้วที่การศึกษาจะต้องมีการปรับรูปแบบการเรียนการสอน เพื่อจะได้การเรียนรู้ที่กว้างขึ้นกว่าในตำรา” น.ส.สุทธาสินี กล่าว

รองเลขาธิการ สกศ.กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศแจกแท็บเล็ต หรือ One Tablet PC Per Child ให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศนั้น สกศ.ก็พร้อมจะเป็นหน่วยงานที่วิจัยการใช้งานแท็บเล็ตกับนักเรียนให้ ซึ่งผลการวิจัยดังกล่าวรัฐบาลก็สามารถนำไปพิจารณาเตรียมความพร้อมเด็ก ครูกับการใช้แท็บเล็ตล่วงหน้าได้ เพราะใช้กระบวนการเรียนรู้ที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยยังได้ระบุอีกว่าเด็กที่เหมาะสมกับการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ควรจะเริ่มตั้งแต่เด็กชั้น ป.3 มากกว่า ป.1 เพราะเด็กรู้ และใช้ภาษาได้คล่องตัวกว่า ซึ่งก็หมายความว่าเด็กจะสามารถใช้คอมพิวเตอร์พกพาได้และเกิดประโยชน์มากกว่า

ทั้งนี้ สำหรับคอมพิวเตอร์พานั้นไม่ได้ใช้แบบคอมพิวเตอร์ทั่วไป เพราะได้มีการผลิตแบบพิเศษสำหรับให้นักเรียนได้ใช้ อาทิ มียางเป็นส่วนประกอบมากเพื่อกันกระแทก และมีหน้าจอที่ทนต่อการแตกหัก ทำให้ขณะนี้ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของคอมพิวเตอร์พกพาเสียหายสักเท่าไหร่ ดังนั้น สำหรับแท็บเล็ตที่รัฐบาลจะแจกนั้น ก็ขอให้คำนึงถึงเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาแท็บเล็ตเสียหายสิ้นเปลืองงบ ตามมา

 ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2554

หมายเลขบันทึก: 460373เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2011 11:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 21:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท