KM เพื่อลดอุปสงค์ (demand) ของยาเสพติด


         วันที่ 22 ส.ค.49  ผมเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข   มีเรื่องการจัดตั้ง "ศูนย์ศึกษายาเสพติด" เข้ามาชี้แจงเป็นครั้งที่ 2   เป็นโครงการที่มี นพ. อรรถพล  สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง แห่งคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ  เป็นหัวหน้าโครงการ   เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง สสส. กับ สวรส.   โดย สสส. อนุมัติเงินสนับสนุน 85.91 ล้านบาทใน 3 ปี

         ปัญหายาเสพติดมาจาก 2 ด้านคือ   ด้านอุปทาน (supply) หรือผู้ผลิต  ผู้ลักลอบขาย   กับด้านอุปสงค์ (demand) คือผู้เสพการแก้ปัญหายาเสพติดที่ผ่านมาทำกันโดยเน้นด้านปราบปรามผู้ผลิต  ผู้ลักลอบขาย

         แต่ในโครงการที่นำมาเสนอนี้เน้นการสร้างความเข้มแข็งหรือแก้ปัญหาของฝ่ายผู้เสพหรือผู้เป็นเป้าของการทำให้เสพ

         โครงการนี้ระบุว่าจะใช้ยุทธศาสตร์ "จัดการองค์ความรู้" และยุทธศาสตร์อื่น ๆ อีก 4 รวมเป็น 5 ยุทธศาสตร์

         ผมได้เสนอต่อที่ประชุมว่า   การจัดการความรู้เพื่อลดอุปสงค์ของยาเสพติดควรเป็น demand - side KM   อันได้แก่
      - KM ระหว่างหน่วยงานที่ทำงานสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการป้องกันยาเสพติดและสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มเสี่ยง
      - KM ระหว่างตัวบุคคล/กลุ่มคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเอง

         ผมบอกตัวเองว่า "เกราะป้องกัน" ปัจเจก,  ครอบครัว,  และชุมชนจากการเป็นเหยื่อยาเสพติดคือ  ความสุข  ความมั่นใจตนเอง  เคารพตนเองและได้รับความยอมรับนับถือจากผู้อื่น   และวิธีสร้าง "เกราะกำบัง" นี้คือ  การเลี้ยงดูด้วยความรัก   ความอบอุ่นในครอบครัว   การเลี้ยงดูที่ถูกต้อง   โรงเรียนและครูที่ให้ความรักความเอาใจใส่ต่อเด็ก   และความเป็นชุมชน  ความเอื้ออาทรระหว่างกันของคนในชุมชน

วิจารณ์  พานิช
 22 ส.ค.49

หมายเลขบันทึก: 45978เขียนเมื่อ 23 สิงหาคม 2006 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 22:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท