ปลื้มใจ กับลูกสาวที่น่ารัก


ลูกสาวน่ารัก

เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นวันหยุดที่ผมไม่ได้มีธุระอะไรเป็นพิเศษ ก็เลยมีเวลาอยู่กับลูกสาวทั้งสองคนมากเป็นพิเศษโดยตอนบ่ายผมไปรับเขาจากแม่ เพื่อพามาเตรียมตัวเรียนพิเศษที่บ้านในตอนเย็น ช่วงนี้อากาศปิด เพราะ เพิ่งผ่านการโจมตีจากเจ้าพายุนกเต็นมา ดังนั้นทำให้อากาศสบายๆไม่ร้อน ฝนก็ตกเรื่อยๆ  ตามจังหวะ เวลาที่เหมาะสม ผมก็ขับรถมอเตอร์ไชด์ ไปรับทั้งคู่มา โดยคนเล็กนั่งข้างหน้า คนโต นั่งข้างหลัง พอมาได้เกือบถึงบ้านอยู่แถวๆพิพิธภัณฑ์จ่าทวี  ฝนก็ตกกระหน่ำ มาอย่างแรง เราก็รีบ หลบรถเข้าไปที่ ชายคาร้านค้าที่ปิดอยู่แถวๆนั้น มีที่พอจะหลบฝนได้  ผมยังไม่อยากลุยฝนไป  เพราะ  ฝนหนัก แล้วก็ยังอีกไม่ห่างมากก็จะถึงบ้านอยู่แล้ว ระหว่างรอ ก็มีเด็กวัยรุ่นชายหญิง คู่หนึ่งก็หลบฝนเหมือนกัน เราก็เล่นกัน คุยกันอย่างสนุกจนลูกเริ่มเบื่อ ว่าทำไมฝนไม่หยุดสักที   คนเล็กชอบมานั่งซุกในตักให้เราอุ้ม คนโตก็ยืนเบื่อโดยถือหมวกกันน็อค ไว้แกว่งไปแกว่งมา จากนั้นเขาก็เผลอทำตก กระแทกพื้น หน้ากาก พลาสติกแตกหลุดออกมา ผมก็เลยดุเขา  เห็นเขามีอาการกลัว กังวล มาก เพราะ ทุกทีที่ทำผิด มันจะมาจากความเลินเล่อของเขาเองตลอด  ผมก็บอกให้เขา รับผิดชอบเลยนะ  เเละต่อว่าเรื่องความซุ่มซ่าม ไม่ระมัดระวัง ต่างๆ  พอฝนหยุด เราก็กลับบ้าน ลูกสาวทั้งสองคน รีบกันเอาหมวกที่แตกไปซ่อม ผลออกมาคือ เขาเอาเทปกาวใส มาพันจุดที่หักเอาไว้แล้วให้พ่อใช้ต่อ แค่เราเห็น รอยเทปกาว ความรู้สึกดี ๆเห็นความพยายามจะดูแลแก้ไขของเขา ทำให้ผู้เป็นพ่อชื่นใจมากๆ  สิ่งที่ได้สอนเขาในวันนี้ น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับเขาในวันข้างหน้าได้ดี โดยจริงๆแล้ว ผมจะไม่ให้เขา เป็นคนที่คิดแค่ใช้เงินง่ายๆ ทำของเสียหายโดยไม่รู้จักปรับปรุงแก้ไข ไม่ให้เป็นคนฟุ่มเฟือย   ประมาณวันอังคารตอนกลางคืน เขาก็เล่นกัน จนเซลามิคใส่แปรงสีฟันตกแตก ก็ให้ซ่อมอีก ผลก็คือ เขาเอาเทปกาวเอนกประสงค์มาพันอีกโดย มันก็กลับมาใช้ได้อีก แต่เขาขอโทษและบอกว่ามันอาจไม่สวยเหมือนเดินนะแต่พอใช้ได้ แต่ในใจผมก็มีความสุขแล้วกับเห็นพฤติกรรมที่น่ารักของเขาทั้งสองคน  พอถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หมวกก็หลุดตรงรอยนั้น ผมก็ตั้งใจจะไปเปลี่ยนกระจกใหม่ แต่ก็เปลยให้เขาฟัง ปรากฏว่า เขาไปหยิบเอากาวตราช้างมาทายึดรอยแตก กาวหกเต็นเลยติดตามหน้าตา ผน และนิ้ว  เจ้าคนเล็กวิ่งมาบอกผมให้ช่วย ผมก็ตกใจรีบไปดู รอยกาวติดทั่วไป  เกือบเข้าตาอยู่แล้ว ผมจึงให้เขาสงบและสอนว่าไม่ควรทำอย่างนี้เพราะตาเกือบบอดแล้ว คราวหลังต้องถามก่อนนะว่าจะทำอะไร ไม่ใช่คิดเอง ผลเสียจะเกินกว่าที่จะรับได้ เขาก็เข้าใจ  เราจึงออกไปซื้อของตอนนั้นเลย รวมทั้งอุปกรณ์การทำโครงงานของเขาด้วย เราแอบภูมิใจเวลาเห็นเขา จ่ายของ เลือกงานทั้งที่ตามีน้ำตาใหล มีรอยกาวที่ ติดอยู่เต็มหน้า พอเข้าไปซื้อหน้ากาก เขาบอกคนขาย ว่าขออันที่ดีที่สุดให้พ่อ แล้วเขาก็ควักเงินของเขามาจ่ายให้ ความรู้สึกของผมก็คือ นี่เองผลผลิตทางความคิดที่ดีของเขา ท่าทางการซื้อของ ท่าทางการต่อรอง  เขาโตขึ้นมาก แล้ว ผมชื่นใจกับหมวกใบนี้ที่ได้ซ่อมแซมแล้วจริงๆ นึกถึงพ่อแม่ตัวเองที่เราเคยทำอะไรให้  ผมคิดว่าเขาน่าจะรู้สึกมีความสุข  รู้สึกดี ที่เราได้ทำอะไรให้ เขา  ผมจะยังคงดูแลพ่อแม่ และผู้มีพระคุณของผมให้ลูกเขาได้ดูและสอนเขาให้เห็นต่อๆไป  เพื่อให้เขาได้เป็นคนที่อ่อนโยน และดูแลครอบครับ เขาเอง ดูแลตัวเองได้ต่อไปในอนาคต ครับ

คำสำคัญ (Tags): #ลูกสาวน่ารัก
หมายเลขบันทึก: 459277เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2011 11:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท