ในช่วงฤดูฝน หลายคนก็คงมีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป
บางคนอาจคิดถึงบรรยากาศอันชุ่มฉ่ำเย็นสบายคลายร้อน แต่ก็มีอีกหลายคนที่คิดถึงความเปียกชื้นไม่สบายตัว ช่วงฤดูฝนในประเทศไทยมักจะมีอากาศร้อนสลับกับเย็น รวมถึงความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น เป็นผลให้เกิดปัญหาทางสุขภาพหลาย ๆ อย่างตามมา ได้แก่ ไข้หวัด โรคภูมิแพ้ แล้วจะเตรียมตัวรับกับปัญหาสุขภาพกันอย่างไรดี
ปัญหาทางด้านผิวหนังและผิวพรรณก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน
สำหรับคุณผู้หญิงแล้วปัญหาสุขภาพผิวนั้นถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปัญหาสุขภาพทางด้านอื่น ๆ ในฤดูฝนหลายคนอาจรู้สึกว่าไม่จำเป็นที่ต้องดูแลผิวพรรณเป็นพิเศษอะไรมาก เหมือนในฤดูร้อนที่มักจะมีเหงื่อออกทำให้รู้สึกผิวเหนียวเหนอะหนะ แต่จริง ๆ แล้วในฤดูฝนก็มีสิ่งที่ทำร้ายผิวสวยได้เช่นกัน คุณผู้หญิงทราบกันไหมว่า น้ำฝนที่ตกลงมาจากฟ้านั้นมักจะมีฝุ่นละออง สารเคมี รวมถึงเชื้อโรคและสิ่งสกปรกมากมายเจือปนอยู่หากเราสัมผัสน้ำฝนสิ่งที่ปนเปื้อนมาเหล่านั้นย่อมทำอันตรายกับผิวของเราได้ เมื่อผิวหนังของเรามีความเปียกชื้นจะทำให้ความสามารถในการป้องกันเชื้อโรคและการปรับตัวต่อปัจจัยกระทบภายนอกต่าง ๆ สูญเสียไป ทำให้เกิดปัญหาทางด้านผิวหนังตามมาได้มากมาย เช่น สิว โรคเชื้อรา โรคน้ำกัดเท้า ผื่นผิวหนังอักเสบ เพราะฉะนั้นคุณผู้หญิงจึงควรเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดกับเราอยู่เสมอ
สำหรับการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ เมื่อคุณผู้หญิงตากฝนจนผมเปียก การเช็ดผมหรือปล่อยให้แห้งเองนั้นยังไม่เพียงพอ
จึงขอแนะนำว่าควรสระผมเลยจะดีกว่า เนื่องจากในน้ำฝนอาจมีเชื้อไวรัสปนเปื้อนมาด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่เวลาเราตากฝนแล้วมักจะเป็นหวัด การสระผมจะเป็นการล้างเอาเชื้อไวรัสออกจากเส้นผม หลังจากสระผมเสร็จ ควรเช็ดผมหรือไดร์ให้แห้งทุกครั้ง ไม่ควรนอนในขณะที่ผมยังเปียกอยู่ เพราะอาจทำให้หนังศีรษะมีความชื้นและก่อให้เกิดเชื้อราได้ เชื้อราจะชอบอาศัยอยู่ในที่อับชื้น ข้อสังเกตว่าคุณผู้หญิงอาจมีการติดเชื้อราบนศีรษะคือ มีสะเก็ดแห้ง ๆ บนหนังศีรษะ มีอาการคันศีรษะ เส้นผมบริเวณนั้นหักออกเหลือเป็นตอสั้น ๆ ติดหนังศีรษะ ในบางคนอาจมีอาการอักเสบรุนแรงจนถึงเป็นก้อนคล้ายฝี และมีความเจ็บปวดร่วมด้วย ถ้านำผมบริเวณนั้นไปตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ก็จะพบว่ามีสายรา หากมีอาการผิดปกติดังกล่าวคุณผู้หญิงก็ควรจะไปพบแพทย์ทันที
ไม่มีความเห็น