สามปีย้อนหลังที่ข้าพเจ้าไปช่วยงานสงเคราะห์เด็กที่มาฟื้นฟูฯ ที่วัดป่าหนองไคร้
หลวงปู่ท่านจะเทศน์เสมอว่า "เขาน่าสงสาร เขาเป็นเหยื่อ"... "พวกเขาคือ อนาคตของชาติ..."
...
"อย่าหยุดทำนะ"...
ถ้วยความสั้นๆ ขององค์หลวงปู่ประสาร สุมโน ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมและการให้โอกาสผู้คนอย่างไม่เลือกดีชั่ว ท่านเมตตาไปหมดทุกผู้ทุกนาม
การทำงานที่นี่คือ การพิสูจน์ใจของตนเองอย่างเต็มเปี่ยม
"มาทำทำไม" คือ คำถามที่ข้าพเจ้าถามตนเองเสมอ ไม่มีใครเห็นด้วย อีกทั้งต้องนำเงินส่วนตัวมาเกื้อกูลไม่ว่าจะทำกิจกรรมพัฒนาวัด หรือสมทบเรื่องอาหาร หรือแม้แต่การไปจังหันตอนเช้า เพราะคิดอยู่เสมอว่าจะมีอาหารก้นบาตรเหลือถึงเด็กๆ มากน้อยแค่ไหน เรานำไปสมทบด้วยจะช่วยทางวัดผ่อนหนักเป็นเบา
เคยมีความคิดอยากให้แม่ออกชาวบ้านที่วัดมาช่วยกันทำ มาช่วยกันฝึกฝนเส้นทางการสงเคราะห์นี้ แต่หลายท่านก็ยังขาดความเข้าใจ และใจนี้ยังหนักอยู่ เกี่ยงกันสารพัดปัญหา โชคดีหน่อยว่าช่วงนี้มีแม่กุล มาช่วยเกื้อหนุนแต่ท่านก็อายุมากแล้ว อีกทั้งก็มีเรื่องมากระทบมิวายต่างๆ นานา ...
สังคมในวัดกับสังคมนอกวัดก็ไม่ได้ต่างกัน
"วัดจิตวัดใจ" คือ คำพูดของหลวงปู่ ที่บอกต่อลูกศิษย์เสมอ
ข้าพเจ้าเองก็โดนมิใช่น้อย จะมาใช้เงินวัดบ้าง มีเจตนาที่ไม่ดีบ้าง จนหนักขนาดว่ามีเรื่องมิดีกับพระไปโน้น ... นี่ล่ะหนอจิตใจของผู้ปรุงแต่ง แต่งไปตามทิศทางของความคิดรากฐานที่มีอยู่ในจิตใจตนเอง
"การที่ผู้คนเขาว่าให้เรานั้น มาจากความเข้าใจผิด" หากเขาเข้าใจถูกเขาก็จะไม่ว่าให้เรา ... หากเราอธิบายแล้วเขายังเข้าใจผิดก็คงต้องปล่อยเขาไป เพราะจิตใจของเขานั้นพร้อมเสพความเข้าใจผิดอยู่แล้ว
และหากว่าใครมีจิตใจที่เปราะบาง...ก็พร้อมจะหวั่นไหวไปตามแรงเขย่าของคำพูดอันปรุงแต่งนั้น
"คนที่มีศีลมีธรรมจะมีจิตใจที่หนักแน่น" คือ คำสอนของหลวงปู่
นี่คือ บทพิสูจน์ความหนักแน่นของข้าพเจ้าเช่นกันที่มีต่อรายละเอียดรายทางของเส้นทางเดินชีวิต ดูๆ ไปแล้วก็น่าขำและคิดว่าตนเองโชคดีที่มีเรื่องให้เรียนรู้อยู่เสมอ
เวลาที่เจอเรื่องราวสิ่งแรกที่ข้าพเจ้าทำ คือ ตั้งสติและพิจารณาใคร่ครวญ อาจอาศัยข้อมูลบางอย่างประกอบไปด้วย ณ ตอนนี้ข้าพเจ้าก็ยังคงเชื่อมั่นในจิตใจของตนเอง ว่ามีเจตนาเช่นใดต่อการมาทำงานถวายหลวงปู่ในเรื่องการสงเคราะห์
เด็กๆ น่าสงสาร ...และกระบวนการช่วยเหลือโดยการนำของพระอาจารย์ต้อ ค่อนข้างๆ ได้ผลลัพธ์ดีทีเดียวสามารถทำให้น้ำเสียกลายเป็นน้ำดีได้ ทำขยะที่ถูกเรียกจากสังคมให้กลายเป็นขยะที่มีมูลค่าขึ้นมาได้ แล้วใยข้าพเจ้าจะไม่เข้ามาร่วมเกื้อหนุนสิ่งดีงามนี้ด้วยเล่า...
เรื่องราวมีเกิดมากมาย... ความอดทนและตั้งมั่นทำให้ผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคต่างๆ มาได้หลากหลายเรื่องราว
และวันนี้ข้าพเจ้าก็เชื่อมั่นในตนเองว่า...ไม่มีสิ่งใดมาทำอะไรเราได้ หากเราตั้งมั่นอยู่ในศีลและในธรรม
น้องกะปุ๋มจะไม่โดดเดี่ยวแน่นอนค่ะ
พี่อยู่ไกล แต่สักวันจะมาร่วมงานด้วยนะคะ
ถึงจะอยู่ไกล แต่ก็มีอะไรให้ทำคล้ายเคียงกัน
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
พร้อมกับมาเรียนรู้ด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ บันทึกนี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบพระคุณค่ะน้อง ต้นเฟิร์น ชีวิตคือการเรียนรู้นะ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทของการเรียนรู้ของชีวิตในวัด สังคมอีกหนึ่งสังคม...
การเดินทางเรียนรู้ของพี่กะปุ๋มสั่นสะเทือนชีวิตใครหลายๆคนค่ะ( ทั้งจิตใจในด้านดี และด้านชั่วในคนๆนั้นค่ะ)
ด้วยความหนักแน่นแต่นิ่มนวลที่ดำเนิน
ทำให้ชีวิตใครหลายคน มีความสว่างปรากฏขึ้น จากต้นทุนเดิม
แต่ใครจักสว่างขึ้นมากได้เพียงไหนก็ตามกำลังสติปัญญาของคนผู้นั้น
ยังศรัทธาในเส้นทางและการดำเนินของพี่เสมอค่ะ
(^_^)
ขอบคุณมากค่ะติ๋ว