ก็ขอเล่าให้ฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่ ใครก็ตามที่ทำงานเกี่ยวข้องกับองค์กรของรัฐ โดยเฉพาะ ผู้ที่ต้องใช้อำนาจหน้าที่กี่ยวกับการปกครอง ให้คุณให้โทษ จนกระทั่งคนขายของเร่ ต่างก็ได้ตระหนักและสำเหนียกแล้วว่าหากอยากจะอยู่อย่างปลอดภัย ก็ต้อง
1.ไม่สร้างเงื่อนไขสังคม ซึ่งข้อนี้กว้างขวางมาก หมายรวมถึงไม่พูดถึงสถานการณ์ได้เลยจะดียิ่ง
2.ไม่ปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ที่ต้องออกไปนอกสถานที่ ซ้ำที่ซ้ำเวลา ซ้ำเส้นทาง
3.ไม่เข้าไปในkilling sone อยู่ตรงไหนบ้าง กว้างมาก เช่น เส้นทางเปลี่ยว หน้าร้านขายของที่เจ้าหน้าที่ชอบเข้าไป ฯลฯ
4.ฯลฯ
5.ฯลฯ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการฝึกปฏิบัติ go to know หากมีเวลาว่างก็จะเข้ามาเขียน(พิมพ์)อีก ก็อย่าได้คิดมากนะครับ ผมจะได้อยู่รอดปลอดภัย
3.ไม่เข้าไปในkilling sone อยู่ตรงไหนบ้าง กว้างมาก เช่น เส้นทางเปลี่ยว หน้าร้านขายของที่เจ้าหน้าที่ชอบเข้าไป ฯลฯ
คงยากครับ
ข้างบ้านผมเป็นตำรวจ 2 ห้องเลย
แถมรถที่ใช้ลาดตะเวนก็ดันมาจอดข้างบ้านผม
หน้าปากซอยบ้่านผมก็เกิดเรื่องยิงกันตายมาแล้ว
ผมต้องทำกิจกรรมตามข้อ 1, 2, 3 ทั้งหมดเลย
1) เงื่อนไขสังคมไม่ได้สร้าง แต่ทนดูไม่ได้ เช่นเคยขับรถตามหลังพวกกวนเมืองที่ฉวัดเฉวียนขู่รถสิบล้อต่างถิ่นที่เข้ามาเ พื่อจะดูว่ามันจะทำอะไร วิธีการขู่ของมันคือทำนิ้วชี้กะนิ้วกลางเป็นปืนแล้วแกล้งเล็งไปที่คนขับทำเห มือนยิง ดีที่คนขับสิบล้อไม่ตอบโต้ หรือถ้ามันยิงจริงๆ เราก็ต้องเห็นคนร้าย
2) เช้าต้องมาทำงาน - เย็นต้องกลับ จะทำไง ? ขอบ้านพัก เขาก็ไม่ให้
3) Killing Zone คือพื้นที่บนทางสายบ้านปรัง -โคกโพธิ์ ระยะทาง 8.4 ก.ม. ในรอบ 1 ปี โดยไปแล้ว 4-5 ราย ยังไม่นับบนถนนสายหนองจิกถึงเขต อ.เมือง... เฮ้อ !
แถวบ้านโดนกันพอควร เขียนไว้ที่ http://gotoknow.org/blog/southern-agriculture/54064 ไม่รู้จะเกี่ยวข้องกันไหมครับ
สวัสดีค่ะพี่ที่เคารพและนับถือ ก้อเป็นกำลังใจให้
ขอให้ปลอดภัยในการใช้ชีวิตในพื้นที่นี้ทราบและ
เข้าใจดีค่ะ ว่าค่อนข้างเครียดนิดหนึ่ง
ว่างๆก้อกลับมาพักผ่อนพัทลุงบ่อยๆซิ
จะได้คลายเครียดไปในตัวยิ่งตอนนนี้
น้องฟิมล์มาเรียนอยู่มอ.วิท แล้วจะได้มาสะดวก
ยินดีกะหนุ่มน้อยคนเก่งด้วยค่ะ
ไว้เจอกันที่บางแก้วนะคะ