หัวเราะกร๊ากๆๆ ให้ได้ 15 ครั้ง/วัน เด้อ


หัวเราะ

หลายคนจำไม่ได้ว่าเราหัวเราะอย่างมีความสุขเมื่อไหร่ 

เพราะมัวแต่เคร่งเครียดกับภาวะสังคมรอบข้าง

ที่คอยบีบคั้นให้เกิดความกดดันในชีวิต 

ทั้งๆ ที่คนเราเรียนรู้การหัวเราะมาตั้งแต่เด็ก 

จนทำให้ชีวิตปราศจากเสียงหัวเราะไปโดยปริยาย              

"ดร.จิตรา ดุษฎีเมธา" ประธานโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์

และผู้เชี่ยวชาญด้านการหัวเราะบำบัดให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

มนุษย์เป็นสัตว์โลกเพียงชนิดเดียวที่สามารถหัวเราะได้ เนื่องจากสัตว์ชนิดอื่นๆ

ทำได้เพียงการแยกเขี้ยว ที่บางคนเข้าใจว่าเป็นการยิ้ม

แต่ความจริงแล้วเป็นการแสดงออกที่สื่อความหมายข่มขู่

หรือการบอกอาณาเขต หรือแสดงอำนาจที่อยู่เหนือกว่า

แต่ถ้าเป็นมนุษย์จะยิ้มเพื่อสื่อความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน              

"จากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์พบว่า มนุษย์มีสมองส่วนที่ควบคุมการทำงาน

ของร่างกายที่ใหญ่กว่าสัตว์ประเภทอื่นๆ จึงสามารถสร้างกระบวนการนึกคิดได้ดีกว่า

แต่ทำไมปัจจุบันมนุษย์กลับไม่ค่อยใช้สมองส่วนที่สร้างกระบวนการนึกคิดในการพัฒนาร่างกายเลย

ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการหัวเราะ เพราะระบบของคลื่นเสียงในการหัวเราะ

จะช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานดีขึ้น เช่น ระบบทางเดินหายใจ หัวใจ

ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ระบบการย่อยอาหาร ระบบการไหลเวียนของโลหิต

ระบบขับถ่าย และระบบผิวหนัง"              

ทั้งนี้ ประธานโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์

อธิบายต่อว่า การหัวเราะจะใช้สมองที่ควบคุมด้านอารมณ์เป็นตัวควบคุม

เพราะเมื่อใดที่คนเราเลิกคิดมากความเครียดก็จะไม่เกิด

ตรงข้ามจะเกิดเป็นเสียงหัวเราะขึ้นมาแทน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ

เด็กเล็กจะมีเสียงหัวเราะมากกว่าผู้ใหญ่              

"ทุกครั้งที่เราหัวเราะ นั่นหมายถึงการแสดงออกซึ่งสัญชาตญาณของการอยู่รอด

แต่ถ้ามีความเครียดอยู่ สมองส่วนนี้จะทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายแปรปรวน

เช่น ตากระตุก หายใจไม่ทั่วท้อง หากปล่อยให้อาการเรื้อรังก็จะสามารถก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้

เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคไมเกรน และโรคในช่องปาก เพราะความเครียด

ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ สาเหตุของกลิ่นปากและลมหายใจไม่สดชื่น

แถมยังอาจเกิดปัญหาการเข้าสังคมตามมาด้วย"

อย่างไรนั้น เวลารู้สึกเครียดเสียงหัวเราะสามารถเปลี่ยนให้บรรยากาศรอบๆ ตัว

ให้มีชีวิตชีวาและผ่อนคลายลง อีกทั้งสร้างให้เกิดมิตรภาพระหว่างกันได้

แม้บางคนจะมองว่าการหัวเราะเป็นเรื่องที่ไร้สาระ  แต่มันก็เป็นความสุขที่เราสามารถสร้างขึ้นได้เอง

โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทองแม้แต่บาทเดียว              

สำหรับการฝึกหัวเราะให้เป็นกิจวัตรประจำวันนั้น  สามารถทำได้ 

โดยอาจกำหนดเอาไว้ง่าย ๆ ว่าหัวเราะให้ได้ 15 ครั้งต่อวัน ฯลฯ

ทั้งนี้ ต้องหัวเราะอย่างมีขอบเขตด้วย   เช่น ไม่หัวเราะในที่ประชุม 

หรือหัวเราะจนสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่น


คำสำคัญ (Tags): #หัวเราะ ฮะฮ่า
หมายเลขบันทึก: 457719เขียนเมื่อ 2 กันยายน 2011 11:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม 2012 10:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท