ซัวเสดยเสียมเรียบ (ขอม สยาม เขมร ทฤษฎีใหม่..๙)


เขมรลอกเอาคำว่า “สวัสดี” ของเราไปใช้ นั้น เขมรออกเสียงเป็น “ซัวเสดย” ...ซึ่งคำว่า สวัส กลายเป็น ซัว สดี เป็น ซเดย

สำเนียงเขมรที่อาจสาวไปถึงที่มาของคำว่า”สยาม”ได้

 

ผมได้บันทึกมาให้อ่านกันแล้วว่า ผมสันนิษฐานว่าคำว่าสยาม มาจาก “สวายามภูวา” ซึ่งเป็นชื่อของพระบิดาของกษัตริย์ชัยวรมันที่ 6 แห่งนครวัด ผู้ซึ่งได้รับการจารึกไว้ว่ามาจาก พิมาย   น่าเชื่อได้ว่าท่านมาพร้อมกับทหารชาว “สวายาม” และครอบครัวอีกจำนวนมาก เพื่อมาค้ำบัลลังก์ จนถูกเรียกว่าพวก (ลูกหลาน)”สวายาม”

 

คำคำนี้พอออกเสียงโดยสำเนียงคนเขมร (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทาสอยู่ในนครวัดในสมัยโน้น) ก็เพี้ยนมาเป็น “สยาม” และ เสยียม และ เสียม ในที่สุด กระทั่งถึง เสียมเรียบ “สยามตายเรียบ”

 

หลักฐานคือ  คนเขมร ออกสียงกล้ำ “สว”  ไม่ได้

 

ดังเช่นที่เขมรลอกเอาคำว่า “สวัสดี” ของเราไปใช้ นั้น เขมรออกเสียงเป็น “ซัวเสดย”  ...ซึ่งคำว่า สวัส กลายเป็น ซัว   สดี เป็น ซเดย  (ยอมรับตรงนี้ว่า ผมเดาเอาเอง ฝากนักภาษาศาสตร์ไปศึกษากันด้วยนะ)

 

 

โดยเขมรนั้นสระอีมักออกเสียงเป็นเอย เช่น ศรี ก็เป็น เสรย  ส่วนสวัส ก็เป็น สัว สวัสดีก็เลยเป็น ซัวเสดย ไปด้วยประการฉะนี้

 

ดังนั้นสวายาม ก็เป็น สยาม  แล้วกลายมาเป็นเสยียม และเสียมในที่สุด  เพราะเขมรนั้นสระอาออกเป็นเอียหมด เช่น พระวิหาร ก็เป็น เพรียะวิเหีย  นางนาคก็เป็นเนียงเนียก

 

ค่ำว่าเสียม นี้ ระบาดจากเขมรไปจนถึงพวกจาม  พอพวกจีนเดินเรือมาถึงจามก่อนจะมาไทย ก็ได้ฟังเรื่องราวของ “เสียม” จากพวกจาม ก็เรียกพวกเราว่า เซียม เสียม มาโดยตลอด ดังนี้แล

 

โจวต้ากวน เมื่อคราวไปอยู่นครวัดสองปี ในยุคชัยรวรมันที่ ๙ (ก่อนสร้างกรุงศรีอยุทธยาสัก 50 ปี) ก็เรียกพวกเราว่าพวก “เสียม” น่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเราถูกเรียกว่า เสียม อย่างที่มีการบันทึกไว้

 

พอพระเจ้า “อุดง”   พาพวกเสียม อพยพหนีการฆ่าล้างเผ่า ไปสร้างเมืองอยุธยา  เชื่อได้ว่ามีคนพูดไทยอพยพเข้ามาอยู่ด้วยมาก เช่นอาจมารับจ้างแรงงานช่วยสร้างเมือง เพราะชาวนครวัดนั้นร่ำรวยมาก คงหอบเอาทองเพชรติดตัวมาด้วยพอควรทีเดียว ทำให้อิทธิพลภาษาไทยต่อภาษาขอมนั้นเกิดขึ้นแบบฉับพลันทันใด  

 

คำว่าอุดงก็เพี้ยนมาเป็น อู่ทอง ในสำเนียงไทย   (ส่วนเมือง อุดงเมียนเชย...สำเนียงเขมร) ก็ถูกสร้างในไม่นาน โดยพระเจ้า “อู่ทอง” จนกลายเป็นเมืองหลวงของพวกเขมรเสีย ๒๕๐ ปี

 หมายเหตุ: ภาษาสยามคือ อุดงมีชัย หรือ อู่ทองมีชัย ซึ่งไม่ใช่ภาษาเขมร เมื่องนี้สร้างสไตล์อยุธยามีเจดีเต็มไปหมด เขมรกำลังขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอยู่ ...ฝรั่งสันนิษฐานว่าพระเจ้าอู่ทองแห่งสยามเป็นคนสร้างให้พวกเขมรอพยพมาอยู่เพราะเกิดโรคระบาด ..แต่ผมว่าฝรั่งมั่ว..น่าจะสร้างเป็นอนุสารวรีย์แห่งชัยชนะต่อพวกเขมรมากกว่า หลังจากที่แพ้ที่เสียมเรียบ

วรรณคดีไทยยุคต้นอยุธยา เช่น โองการแช่งน้ำ ลิลิตยวนพ่าย นั้นใช้ภาษาปนกันอยู่ 4 ภาษาคือ ขอมโบราณ สันสกฤต ไทย และ บาลี  สองภาษาแรกนั้นเอามาจากขอมนครวัด ส่วนสองภาษาหลังนั้นเป็นของคนพูดไทย

 

อักขระขอมโบราณนั้นเหมือนกับอักขระมอญแบบตัวต่อตัว (ไม่รู้ว่าใครลอกใคร)  ส่วนภาษาพูดนั้นไม่ทราบว่าคล้ายกันมากน้อยเพียงใด เพราะภาษาขอมนั้นสูญพันธุ์ไปแล้ว (ไม่ใช่ภาษาเขมรวันนี้หรอกนะ)  พวกฝรั่งนั้นจัดให้เป็นภาษาตระกูลเดียวกัน คือ มอน-ขะแมร์

 

กษัตริย์องค์ที่สามคือ ขุนหลวงพะงั่ว นั้นสหายมอญคนหนึ่งบอกว่า  คำว่าพะงั่ว เป็นภาษามอญ แปลว่า “พระจันทร์”  ซึ่งคงจะตรงกับภาษาขอมอยุธยา

 

ภาษาขอมนั้นว่าโดยแท้แล้วไม่ได้สูญหายไปไหน แต่ปนอยู่ในราชาศัพท์ของไทยเรานี่เอง  ซึ่งผมได้สันนิษฐานแต่เดิมแล้วว่า กษัตริย์ไทยองค์แรก คือพระเจ้าอุดง (หรืออู่ทองในสำเนียงไทย) นั้น ท่านเป็น ขอม ท่านพูดเป็นแต่ขอม ท่านก็ต้องพูดภาษานี่แหละ ต่อมาเลยกลายเป็นภาษาของเทพ ตามระบอบเทวราชา เพื่อทำให้ดูศักดิ์สิทธิ เพื่อประโยชน์ในการปกครอง

 

อิทธิพลของภาษาขอมมีมานานจนถึงสมัยเจ้าฟ้ากุ้ง ก็ยังจัดให้มีการประมวลภาษาขอมในการเรียนของเด็ก

 

การเขียนแบบไทยที่มีการลงล่าง อุ อู และขึ้นบน  ไม้เอก โท นั้น พี่ชายผู้เขียนได้ไปศึกษามาสนับสนุนพบว่า  ศิลาจารึกพ่อขุน แห่งสุโขทัยนั้น เป็นการเขียนแบบบรรทัดเดียว ไม่ได้มีสามบรรทัดแบบขอม

 

นอกจากนั้นการใช้ภาษาก็ยังเป็นภาษาชาวบ้าน “พ่อกูขุนศรี แม่กูนางเสือง”   (แต่สระอยู่บรรทัดเดียวกันหมด)  ไม่ใช้ว่า “ พระราชบิดาของข้า.....”

 

ภาษาขอมและคนขอมไม่ได้สูญพันธ์ไปไหน แต่คือเลือดเนื้อไทยเราวันนี้แหละ

 

...คนถางทาง (๒ กย. ๕๔)

 

หมายเลขบันทึก: 457634เขียนเมื่อ 2 กันยายน 2011 01:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 13:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

๕5ห้า ถ้าผมออกหนังสือชื่อ "ซัวเสดยเสียมเรียบ" แล้วเอาบทความชุดนี้ไปบรรจุไว้ จะขายได้สัก ๑๐ เล่มไหมเนี่ย

อ่านแล้วก็สนุกดี บางทีก็อาจเป็นได้ ใครจะไปรู้

ผมว่าทฤษฎีผมนี้ฟังขึ้นกว่าทฤษฎีสยาม มาจาก อาหม อีกนะ (ยอตัวเอง :-)

เราคนไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย         มีหลากหลายกลายมา ณ วันนี้

ไท จีน มอญ ขอม  แขก ละว้าซ่งญวนมี      ความจริงนี้คือบรรพชนหลายคนไทย

ทั้งภาษาวัฒนธรรมความหลากหลาย          มีบางสายภาคนิยมผสมไซร้

คนไทยรักชาติหลายชนนั้นประสานใจ        จึงจักได้สามัคคีที่ต้องการ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท