...ที่รักของฉัน
วันก่อนที่ฉันไม่สามารถควบคุมสติได้
อารมณ์ที่ระเบิดออกไป
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่นแห่งอารมณ์ที่สูญเสีย
เธอรู้เห็น และไม่ทันในอารมณ์นั้นเช่นกัน
...ที่รักของฉัน
มันเป็นความเขลาเสียเหลือเกินในวันนั้น
ขอให้สติที่ขาดไปนั้นผ่านไปตามอารมณ์อันโง่เขลาเถิดนะที่รัก
เผื่อใบหน้าอันเบิกบานจะได้หวนกลับมาสู่หัวใจอันอ่อนไหวนี้
...ที่รักของฉัน
ขออโหสิกรรมกับสติที่ขาดไปในวันนั้น
และขอคุณพระรัตนตรัยที่ฉันถือเป็นที่พึ่งนี้
จงดลบันดาลให้สติที่ขาดไปในวันนั้นหรือวันอื่นๆที่พึงเกิดขึ้นได้
ให้หวนคืนกลับมาโดยไวให้ตามทัน
...ที่รักของฉัน
อย่างไรก็ตาม
ถึงสติจะขาดไปไม่หวนกลับมาโดยไวก็ตาม
แต่ความรักของฉันที่มีต่อเธอ
ยังยืนอยู่ด้วยความมั่นคง
ไม่เปลี่ยนแปลง...
การมีสติ เป็นสิ่งฝึกฝน ได้อยู่เสมอ
ไม่มีวันสายไป
ขออวยพรให้ ทุกสิ่งผ่านไปด้วยดีคะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาทักทายและขอบคุณที่แวะไปอ่านบันทึกค่ะ
กลัวมากค่ะกับการที่ทำให้ใบหน้ามีรอยย่น
ต้องยิ้มและอารมณ์ดีทำให้จิตใจแจ่มใสค่ะ
แต่ถ้ารู้ว่าผิดไปแล้วก็ให้อภัยกันได้...บางครั้งกับอารมณ์เพียงชั่ววูบ
ผู้ที่รู้ตัวว่า....ผิด แล้วรู้จักสำนึกผิดและขอโทษ
เป็นคนที่น่าชื่นชมและควรแก่การให้อภัยนะครับ
คนเราย่อมต้องมีอารมณ์ที่แตกต่างกันบ้าง แต่หากใครที่สามารถดึงอารมณ์กลับ
มาได้เขาเรียกว่า....สติ แต่อย่าให้สติขาดเพราะจะเกิดผลเสียตามมามากมาย
ขอชื่นชมกับสติ....ที่ทำให้รู้จักคำว่า"ขอโทษ"
ขอบคุณCMUpal
สติ สำหรับผม ต้องฝึกอย่างหนักครับ
สวัสดีค่ะ
การได้ล่วงเกินกัน
แล้ว"ขออโหสิกรรมกับสติที่ขาดไปในวันนั้น" ดีมากแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพ.แจ่มจำรัส
ไม่มีใครอยากให้มันเกิด ในสถานการณ์หรือภาวะนั้นหลายคนอาจแสดงออกไปเช่นที่เราทำเหมือนกัน เข้าใจความรู้สึกของคุณค่ะ
ให้อภัยตัวเองนะค่ะ สิ่งนั้นมันผ่านไปแล้ว
เริ่มต้นใหม่ค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณและครอบครัวค่ะ